“สุพัฒนพงษ์”สั่งโปรโมตเตาแม่เหล็กไฟฟ้าหวังลดชดเชยแอลพีจี

กรุงเทพฯ 4 มี.ค.-“”สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์”สั่ง กฟผ.โปรโมตเตาแม่เหล็กไฟฟ้าหวังลดชดเชยแอลพีจี และศึกษาแผน ทำราคา รถจักรยานยนต์อีวีให้ถูกลง เป็นหนึ่งในเจตนารมณ์การจัดการพลังงาน คุณภาพอากาศ และสิ่งแวดล้อม “Breathe our Future” 5 หน่วยงาน รวมพลังเพื่อลมหายใจแห่งอนาคต


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  กล่าวในระหว่างเป็นประธานในพิธีประกาศเจตนารมณ์การจัดการพลังงาน คุณภาพอากาศ และสิ่งแวดล้อม “Breathe our Future รวมพลังเพื่อลมหายใจแห่งอนาคต” ว่า  รัฐบาลได้กำหนดให้การลดฝุ่น PM2.5 เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งดำเนินการในหลายเรื่อง และในแผนพลังงานชาติที่กระทรวงพลังงานกำลังดำเนินการ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้  รวมถึงเรื่องการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ในอนาคตว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งมีผู้เสนอในเรื่องการลดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ส่งเสริมพลังงานทดแทน การส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี ) จักรยานยนต์ไฟฟ้า

นายสุพัฒนพงษ์ ได้สั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  (กฟผ.) ซึ่งมีการพัฒนารถจักรยานยนต์อีวีราคาประมาณ 80,000 บาท /คัน ศึกษาเรื่องการแยกจำหน่ายระหว่างแบตเตอรี่ และตัวรถ เพื่อให้ราคาสามารถแข่งขันได้กับรถน้ำมัน  โดยแบตเตอรี่ อาจเป็นทั้งระบบเช่าหรือขาย ให้ผู้ใช้นำแบตมาเปลี่ยนได้ ส่วนเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 เป็นส่วนที่ช่วยประหยัดพลังงาน ก็ควรจะดูส่งเสริมถึงเรื่องการใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ว่าจะทำอย่างไรให้มีการใช้เพิ่มขึ้น ทดแทนการใช้ก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี เพื่อลดวงเงิน อุดหนุน   จากที่ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนกว่า 10,000 ล้านบาท   


นายสุพัฒนพงษ์ ยังกล่าวถึงโครงการโซลาร์ฟาร์มกองทัพบก 30,000 เมกะวัตต์ และ โครงการในอีอีซีโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 500 เมกะวัตต์ ว่า เป็นความปรารถนาดี ของหน่วยงานต่างๆที่ร่วมเสนอโครงการ ส่วนจะมีการพัฒนาจริงได้มากน้อยเพียงใด จะนำมาอยู่ในแผนพลังงานชาติหรือไม่ จะต้องรอผลการศึกษาต่อไป  โดยที่ผ่านมายอมรับว่าผลกระทบเศรษฐกิจจากโควิด-19 ก็ทำให้สำรองไฟฟ้าสูงกว่าเกณฑ์ที่ควรจะเป็นที่ร้อยละ 15-20 แต่จากนี้ไปเศรษฐกิจดีขึ้น การพัฒนาระบบรางและยานยนต์อีวี คาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น และจะต้องเตรียมแผนรองรับให้เพียงพอ

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA GISTDA จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ กฟผ. ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์รวมพลังเพื่อลมหายใจแห่งอนาคต ในการจัดการพลังงาน คุณภาพอากาศ และสิ่งแวดล้อม พร้อมชวนคนไทยร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีและอากาศบริสุทธิ์

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.จะต่อยอดการดำเนินงานเรื่องการสร้างอากาศบริสุทธิ์ ร่วมกับภาคีเครือข่ายให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นภายใต้แนวคิด EGAT Air TIME ประกอบด้วย


– T (Tree) การเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อเพิ่มการดูดซับอากาศเสีย สร้างอากาศบริสุทธิ์ ผ่านโครงการปลูกป่า สร้างฝาย รวมไปถึงการดำเนินงานจิตอาสาป้องกันไฟป่า ลดการเผาป่า

– I (Innovation) การพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมการจัดการคุณภาพอากาศ ส่งเสริมเทคโนโลยีด้านการผลิตและใช้พลังงานสะอาด อาทิ โครงการโซลาร์ลอยน้ำ ยานยนต์ไฟฟ้า

– M (Monitoring) ระบบตรวจวัดและแสดงผลคุณภาพอากาศด้วยแอปพลิเคชันรูปแบบต่างๆ เพื่อให้คนรู้และตระหนักนำไปสู่การปรับพฤติกรรม ด้วยการติดตั้งจุดตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ชุมชนรอบ กฟผ. และเครือข่ายห้องเรียนสีเขียว

– E (Education & Engagement) การส่งเสริมองค์ความรู้ สร้างทัศนคติในการจัดการพลังงาน คุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการห้องเรียนสีเขียว ศูนย์เรียนรู้ กฟผ. รวมทั้งจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน

โดยในปี 2564 กฟผ. มีแผนการติดตั้งจุดตรวจวัดฝุ่นละอองจำนวน 200 จุด ในพื้นที่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า เขตเขื่อนของกฟผ. เครือข่ายห้องเรียนสีเขียว และสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พร้อมทั้งจัดกิจกรรมชาเลนจ์ “EGATลดละรอดปลอดฝุ่น”ชวนคนไทยแชร์ไอเดียลดฝุ่น พร้อมติดแฮชแท็ก #EGATลดละรอดปลอดฝุ่น #รวมพลังเพื่อลมหายใจแห่งอนาคต #EGATforALL ตั้งแต่ 12 – 30 มีนาคม 2564 ผ่านช่องทาง Facebook และ Instagram พร้อมส่งคำท้าไปยังเพื่อนอีก 5 คน เพื่อรวมพลังคนไทยร่วมรณรงค์สร้างอากาศบริสุทธิ์ด้วยกัน

นายสุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นำองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สังคมเพื่อความยั่งยืน โดยจะร่วมศึกษาออกแบบและพัฒนาแบบจำลองการวิเคราะห์และการคาดการณ์ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM-2.5) รวมถึงประยุกต์ใช้ข้อมูลและการคาดการณ์ฝุ่น PM-2.5 ร่วมกับข้อมูลดาวเทียม เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ และเทคโนโลยี Machine Learning ตลอดจนเชื่อมโยงข้อมูลปริมาณฝุ่นละอองและคุณภาพอากาศเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลเปิด (open data) การแสดงผลผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อรายงานผลคุณภาพอากาศและการแจ้งเตือนอัตโนมัติกรณีเข้าพื้นที่ที่คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง