บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล
จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา
รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับ
พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 4 ชั่วโมง เบื้องต้นนายวินให้การว่า สมัครเป็นทหารหน่วย BHQ จริงเมื่อปี 2562 ได้เข้าฝึก 6 เดือน และไปประจำการที่กองบัญชาการทหารองครักษ์ จ.พนมเปญ 3 เดือน จากนั้นได้เดินทางมาทำงานที่ประเทศไทย และปลดประจำการเมื่อ 3 ปีก่อน แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นสายลับที่คอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวของฝ่ายไทยไปให้กัมพูชา แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อคำให้การ ยังคงสอบปากคำต่อ และผลการตรวจพิสูจน์ข้อมูลในมือถือด้วยว่ามีการส่งข้อมูลด้านความมั่นคงของฝ่ายไทยหรือไม่

เจ้าหน้าที่ยังเรียกตัว น.ส.จอย ชาว อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ภรรยาของนายวิน มาสอบที่ สภ.ลำดวนด้วย ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.จอย ว่ารู้หรือไม่ว่าสามีเป็นทหารหน่วย BHQ ของกัมพูชา แล้วเชื่อหรือไม่ว่าสามีจะเป็นสายลับ แต่ น.ส.จอย ปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนเช่นกัน และเดินเข้าห้องสอบสวนทันที
ทั้งนี้ จากการเข้าค้นบ้านพักของนายวิน ที่ ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ 1 กระบอก และชุดทหารกัมพูชายศร้อยเอก ติดตราสัญลักษณ์ BHQ หน่วยองครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน อีกหลายชุด ยิ่งตอกย้ำว่าน่าจะมาแฝงตัวเป็นสายลับแอบส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธว่าไม่ได้มาเป็นสายลับให้กัมพูชาก็ตาม แต่จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่านายวิน มีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ทั้งชื่อทางทหาร ชื่อในพาสปอร์ต ชื่อในบัตรประชาชน และชื่อในบัตรที่ทำงาน ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง เพิ่งลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว และขณะเจ้าหน้าที่สอบเค้นเข้ม นายวินได้หลุดปากออกมาว่าเป็นทหารมาได้ 9 เดือน
เบื้องต้นตำรวจดำเนินคดีข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่หากตรวจสอบทางโทรศัพท์มือถือพบว่ามีการเชื่อมโยงเกี่ยวกับด้านความมั่นคงของไทยไปให้กัมพูชาหรือกระทำการใดก็จะดำเนินคดีข้อหาอื่นต่อไป.-สำนักข่าวไทย