กทม. 21 ธ.ค.- ตลาดหลักทรัพย์ชี้แจงเหตุหุ้นร่วงกว่า 80 จุด เพราะนักลงทุนกังวลการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ แต่ยังไม่พบการซื้อขายผิดปกติ จึงยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการดูแลพิเศษ โดยยังมีแรงซื้อจากต่างชาติและนักลงทุนรายย่อยต่อเนื่อง
กรุงเทพฯ 21 ธันวาคม 63 – นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 ธันวาคม) ปรับตัวลงแรงถึง 80.60 จุด หรือปรับลดลง 5.44% โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่สูงถึง 129,435 ล้านบาทนั้น เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกและมีความกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ที่ขณะนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดยนักลงทุนสถาบันขายสุทธิประมาณ 7,300 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิประมาณ 4,200 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังเป็นการซื้อสุทธิประมาณ 3,700 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิประมาณ 7,700 ล้านบาท ขณะที่ การซื้อขายแบบชอร์ตเซลล์ อยู่ที่ 4% และโปรแกรมเทรดดิ้ง 22% ซึ่งยังอยู่ในระดับปกติ
ดังนั้นจึงยังไม่มีความจำเป็นต้องออกมาตรการพิเศษมาดูแล เพราะเชื่อว่าภาวะตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นนั้น จะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ โดย ตลท. มีมาตรการเตรียมพร้อมที่สามารถนำมาใช้ได้หากจำเป็น โดยจะต้องดูข้อมูลและวิเคราะห์อย่างรอบด้านก่อน พร้อมยืนยัน ตลท. จะดูแลระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ การส่งมอบหลักทรัพย์ และการชำระราคาให้ราบรื่นที่สุด
“ยืนยันการซื้อขายเป็นไปตามปกติ การที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึงกว่า 1 แสนล้านบาท เพราะนักลงทุนตื่นตระหนกและมีความกังวลการระบาดรอบใหม่ แต่ ตลท. ยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการพิเศษอะไร ซึ่งมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่านักลงทุนต่างชาติยังเข้าซื้อจำนวนมาก สะท้อนว่านักลงทุนต่างชาติยังมีความเชื่อมั่น โดยไทยมีระบบสาธารณสุขและการดูแลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำได้ดี จึงมองว่าจะไม่มีการล็อคดาวน์อีกรอบ และไทยมีประสบการณ์รับมือการระบาดรอบแรกแล้ว ดังนั้นสถานการณ์จะไม่รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา”
ส่วนปัญหาความล่าช้าที่เกิดขึ้นในระบบสตรีมมิ่งเช้านี้ นายภากร กล่าวว่า เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเข้ามามากทำให้ระบบช้าลง ซึ่งระบบการซื้อขายออนไลน์ทั่วโลกไม่มีระบบอะไรที่ให้บริการได้ 100% โดยไม่มีข้อผิดพลาด โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการซื้อขายแต่ละวันปรับตัวสูงขึ้นมาก และระบบสตรีมมิ่งแยกจากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นระบบออนไลน์กลางเพื่อให้อุตสาหกรรมให้บริการด้วยราคาเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ .-สำนักข่าวไทย