“เศรษฐพุฒิ” ย้ำไม่นิ่งนอนใจบาทแข็ง

กรุงเทพฯ 19 พ.ย. 63 – ผู้ว่าแบงก์ชาติ ส่งสัญญาณให้เอกชนทำธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืน โดยไม่ต้องรอภาครัฐเป็นผู้นำ พร้อมยอมรับ กนง. กังวลค่าบาทแข็งเร็ว ยืนยันไม่ได้นิ่งเฉย และอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการที่เหมาะสม


ในงานสัมมนาขึ้นสู่ปีที่ 10 สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า ซึ่งปีนี้จัดขึ้นในหัวข้อ Facing the Future of ESG : Thailand’s Next Steps toward Sustainability : ESG อนาคตประเทศไทยสู่ความยั่งยืน นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกพิเศษ หัวข้อ ESG : Empowering Sustainable Thailand’s Growth โดยระบุว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยเติบโตโดยไม่คำนึงถึง ESG หรือ ความยั่งยืน เช่น การท่องเที่ยวที่เน้นตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยว แต่ไม่ได้คิดถึงเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมแสดงความเป็นห่วงเรื่อง IUU ที่อาจกลับมาเป็นอีกครั้งหลังนายโจ ไบเดน ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี พร้อมแนะภาคเอกชนให้เริ่มทำเรื่อง ESG ได้เลยโดยไม่ต้องรอภาครัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลเป็นตัวหลัก เพราะภาคเอกชนไทยมีศักยภาพมากกว่าและมีข้อมูลพื้นฐานและรอบด้านที่ครบถ้วนกว่า เพราะหลายครั้งเมื่อเกิดปัญหาการที่ภาครัฐเข้าไป อาจไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่เป็นการเพิ่มปัญหา

ทั้งนี้ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ยังให้สัมภาษณ์ภายหลัง ถึงการแข็งค่าของเงินบาทขณะนี้ โดยยอมรับว่า กนง. มีความกังวลการแข็งค่าอย่างรวดเร็วของค่าเงินบาท เนื่องจากเป็นการแข็งค่าในภาวะที่ไม่ปกติ กระทบต่อผู้ส่งออกไทย ซึ่งจะส่งผลไปถึงสภาพคล่อง การจ้างงาน และคุณภาพสินเชื่อ ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาท มาจากข่าวเรื่องวัคซีน ทำให้หลายฝ่ายมองว่าภาคการท่องเที่ยวจะกลับมา มีเงินไหลเข้าประเทศ แต่ในความเป็นจริงข่าวที่ออกมายังไม่มีใครได้ฉีดวัคซีน ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงยังไม่กลับมา


พร้อมย้ำ ธปท. ไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือการไม่แถลงข่าวแปลว่าไม่ได้ทำอะไร พร้อมยกตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้อยู่ขณะนี้ คือ การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ซึ่งถือว่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และต่ำสุดในภูมิภาค รวมทั้งช่วง5 ปีที่ผ่านมา ธปท. ได้เข้าไปดูแล หรือ แทรกแซง โดยการเข้าไปซื้อดอลลาร์ ทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นกว่าแสนล้านดอลลาร์ฯ เพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินบาท ถึงแม้เป็นสิ่งที่ ธปท. จะไม่อยากทำก็ตาม ทั้งนี้ผู้ว่าแบงก์ชาติกล่าวด้วยว่า กนง. อยู่ในขั้นตอนพิจารณามาตรการที่เหมาะสม ซึ่งจะต้องพิจารณาอย่างรอบด้านและต้องเป็นมาตรการที่ไม่ส่งผลกระทบข้างเคียง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้เยียวยา แต่ต้องรอคดีถึงที่สุด

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้รับค่าเยียวยา หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่ต้องรอให้คดีถึงที่สุด บอกหากไม่ได้รับความยุติธรรม ฟ้องรัฐได้

ถนนมิตรภาพเข้าสู่ประตูอีสานรถเพิ่มขึ้น

เริ่มแล้วเทศกาลปีใหม่ ประชาชนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาการจราจรถนนมิตรภาพ ปริมาณรถมาก ตำรวจทางหลวง เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวก

หมอชิต 2 เริ่มคึกคัก คาดวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุด

สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่ยังไม่หนาแน่นนัก ด้าน บขส. คาดตลอดทั้งวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดถึง 120,000 คน

นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2568

“แพทองธาร” นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2568 “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ระบุรัฐบาลเห็นคุณค่าในตัวเด็กๆ ทุกคน ขอให้ปรับตัวเรียนรู้ ให้เข้ากับสถานการณ์