MEA โชว์ศักยภาพนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้า Smart Metro Grid ในงานวิศวกรรมแห่งชาติปี63

สำนักข่าวไทย 11 พ.ย.- MEA จัดนิทรรศการนำเสนอนวัตกรรมความก้าวหน้าทางวิศวรรม ในงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2563 ภายในงานมีการนำเสนอโครงการ Smart Metro Grid และนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้า อาทิ EV Car, EV Charging Station, MEA EV Application เพื่ออำนวยความสะดวกตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตของประชาชน


เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก บัณฑิตย์ มลายอริศูนย์ เป็นผู้แทนพระองค์ เปิดงานและมอบโล่ที่ระลึกผู้สนับสนุนในงานประชุมใหญ่วิศวกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด Engineering Disruption โดยมี นายสมชาย หอมกลิ่นแก้ว รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เป็นตัวแทน MEA เข้ารับมอบ ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

MEA ถือเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนการจัดงานประชุมใหญ่วิศวกรรมแห่งชาติ พร้อมร่วมจัดแสดงนิทรรศการนำเสนอนวัตกรรมความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องแนวทางที่ MEA มุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรผู้เชี่ยวชาญตามวิสัยทัศน์พลังงานเพื่อวิถีชีวิตคนเมืองมหานคร โดยในครั้งนี้ MEA นำเสนอนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่ยกระดับคุณภาพงานบริการในการอำนวยความสะดวกตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตของประชาชน “โครงการ Smart Metro Grid ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะแห่งอนาคตสำหรับเมืองมหานคร” ในการใช้ระบบ Smart Meter ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถบริหารจัดการใช้พลังงานไฟฟ้าของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบมีการแจ้งเตือนไฟฟ้าขัดข้องแบบอัตโนมัติทำให้เจ้าหน้าที่สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วสามารถตรวจสอบแสดงข้อมูลที่มีความละเอียดและเที่ยงตรงสูง การพัฒนา IoT Metering Platform ระบบควบคุมและบริหารจัดการจ่ายกระแสไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพให้มีความมั่นคงและปลอดภัยให้กับประชาชนยิ่งขึ้น และการพัฒนา Smart Energy ระบบจ่ายไฟกลับอัตโนมัติ เพิ่มความเชื่อถือได้สูงสุดของระบบจำหน่ายของ MEA ในพื้นที่มีความสำคัญต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ รวมถึง MEA สามารถนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนระบบไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สนับสนุนนโยบายภาครัฐในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ


นอกจากนี้ MEA ได้จัดแสดงนิทรรศการในงาน ฯ โดยนำนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกตอบโจทย์ชีวิตทันสมัยของคนเมือง ประกอบด้วย เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) ที่พร้อมบริการออกแบบและติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ให้แก่ผู้สนใจ พร้อมนำเสนอแอปพลิเคชันพิเศษ MEA EV Application ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ MEA พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในเรื่อง การค้นหาจุดชาร์จรถ และสั่งจอง สถานีชาร์จ หรือ หัวชาร์จ แบบเรียลไทม์ ซึ่ง MEA ถือเป็นหน่วยงานต้นแบบที่นำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาใช้ในการปฏิบัติงานจริง ปัจจุบัน MEA ยังมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้ารวม 14 สถานี ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาเพื่อลดมลพิษอย่างยั่งยืน และยังคงสนับสนุนกับทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในการขับเคลื่อนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นในประเทศในอนาคต อีกทั้ง ยังจัดแสดงแอปพลิเคชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านระบบไฟฟ้าที่ทันสมัย MEA Smart Life Application ถือเป็นแอปเดียวจบครบทุกเรื่องไฟฟ้า ซึ่งมีฟังก์ชันเด่นคือ ขอใช้ไฟฟ้าใหม่ แจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้อง ตรวจสอบพื้นที่ดับไฟฟ้าทำงาน ตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าย้อนหลังได้ 6 เดือน รวมถึงการชำระค่าไฟฟ้าผ่านบัตรเครดิต (Visa และ Mastercard) รวมถึงฟังก์ชันอื่น ๆ ครอบคลุมการใช้งานออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง และโครงการ MEA e-Bill เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถเปลี่ยนการรับเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แทนกระดาษผ่านช่องทางออนไลน์ที่ลงทะเบียนไว้ทั้ง SMS หรือ Email ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยไม่ต้องกังวลกับการหาเอกสารแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิต พร้อมทั้งลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากผู้ใช้ไฟฟ้า มุ่งสู่ Thailand 4.0 ตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลดิจิทัล 

สำหรับในวันที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 14.00 – 16.30 น. ผู้เชี่ยวชาญ MEA ร่วมบรรยายในหัวข้อ “เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนของการไฟฟ้านครหลวง” โดยเน้นการให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีและบริการต่าง ๆ ที่ทันสมัยอีกด้วย ทั้งหมดนี้ถือเป็นการจัดแสดงองค์ความรู้และนวัตกรรมที่ MEA  มุ่งมั่นพัฒนานำนวัตกรรมมาต่อยอดให้บริการประชาชนพร้อมรองรับการเป็นมหานครอัจฉริยะ “Smart Metro” ตอบโจทย์การใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าชมบูธ MEA ในงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2563 ได้ระหว่างวันที่ 11 – 13 พฤศจิกายน 2563 ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร


Energy for city life, Energize smart living 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]