MEA โชว์ศักยภาพนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้า Smart Metro Grid ในงานวิศวกรรมแห่งชาติปี63

สำนักข่าวไทย 11 พ.ย.- MEA จัดนิทรรศการนำเสนอนวัตกรรมความก้าวหน้าทางวิศวรรม ในงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2563 ภายในงานมีการนำเสนอโครงการ Smart Metro Grid และนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้า อาทิ EV Car, EV Charging Station, MEA EV Application เพื่ออำนวยความสะดวกตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตของประชาชน


เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก บัณฑิตย์ มลายอริศูนย์ เป็นผู้แทนพระองค์ เปิดงานและมอบโล่ที่ระลึกผู้สนับสนุนในงานประชุมใหญ่วิศวกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด Engineering Disruption โดยมี นายสมชาย หอมกลิ่นแก้ว รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เป็นตัวแทน MEA เข้ารับมอบ ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

MEA ถือเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนการจัดงานประชุมใหญ่วิศวกรรมแห่งชาติ พร้อมร่วมจัดแสดงนิทรรศการนำเสนอนวัตกรรมความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องแนวทางที่ MEA มุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรผู้เชี่ยวชาญตามวิสัยทัศน์พลังงานเพื่อวิถีชีวิตคนเมืองมหานคร โดยในครั้งนี้ MEA นำเสนอนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่ยกระดับคุณภาพงานบริการในการอำนวยความสะดวกตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตของประชาชน “โครงการ Smart Metro Grid ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะแห่งอนาคตสำหรับเมืองมหานคร” ในการใช้ระบบ Smart Meter ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถบริหารจัดการใช้พลังงานไฟฟ้าของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบมีการแจ้งเตือนไฟฟ้าขัดข้องแบบอัตโนมัติทำให้เจ้าหน้าที่สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วสามารถตรวจสอบแสดงข้อมูลที่มีความละเอียดและเที่ยงตรงสูง การพัฒนา IoT Metering Platform ระบบควบคุมและบริหารจัดการจ่ายกระแสไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพให้มีความมั่นคงและปลอดภัยให้กับประชาชนยิ่งขึ้น และการพัฒนา Smart Energy ระบบจ่ายไฟกลับอัตโนมัติ เพิ่มความเชื่อถือได้สูงสุดของระบบจำหน่ายของ MEA ในพื้นที่มีความสำคัญต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ รวมถึง MEA สามารถนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนระบบไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สนับสนุนนโยบายภาครัฐในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ


นอกจากนี้ MEA ได้จัดแสดงนิทรรศการในงาน ฯ โดยนำนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกตอบโจทย์ชีวิตทันสมัยของคนเมือง ประกอบด้วย เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) ที่พร้อมบริการออกแบบและติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ให้แก่ผู้สนใจ พร้อมนำเสนอแอปพลิเคชันพิเศษ MEA EV Application ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ MEA พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในเรื่อง การค้นหาจุดชาร์จรถ และสั่งจอง สถานีชาร์จ หรือ หัวชาร์จ แบบเรียลไทม์ ซึ่ง MEA ถือเป็นหน่วยงานต้นแบบที่นำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาใช้ในการปฏิบัติงานจริง ปัจจุบัน MEA ยังมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้ารวม 14 สถานี ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาเพื่อลดมลพิษอย่างยั่งยืน และยังคงสนับสนุนกับทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในการขับเคลื่อนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นในประเทศในอนาคต อีกทั้ง ยังจัดแสดงแอปพลิเคชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านระบบไฟฟ้าที่ทันสมัย MEA Smart Life Application ถือเป็นแอปเดียวจบครบทุกเรื่องไฟฟ้า ซึ่งมีฟังก์ชันเด่นคือ ขอใช้ไฟฟ้าใหม่ แจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้อง ตรวจสอบพื้นที่ดับไฟฟ้าทำงาน ตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าย้อนหลังได้ 6 เดือน รวมถึงการชำระค่าไฟฟ้าผ่านบัตรเครดิต (Visa และ Mastercard) รวมถึงฟังก์ชันอื่น ๆ ครอบคลุมการใช้งานออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง และโครงการ MEA e-Bill เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถเปลี่ยนการรับเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แทนกระดาษผ่านช่องทางออนไลน์ที่ลงทะเบียนไว้ทั้ง SMS หรือ Email ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยไม่ต้องกังวลกับการหาเอกสารแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิต พร้อมทั้งลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากผู้ใช้ไฟฟ้า มุ่งสู่ Thailand 4.0 ตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลดิจิทัล 

สำหรับในวันที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 14.00 – 16.30 น. ผู้เชี่ยวชาญ MEA ร่วมบรรยายในหัวข้อ “เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนของการไฟฟ้านครหลวง” โดยเน้นการให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีและบริการต่าง ๆ ที่ทันสมัยอีกด้วย ทั้งหมดนี้ถือเป็นการจัดแสดงองค์ความรู้และนวัตกรรมที่ MEA  มุ่งมั่นพัฒนานำนวัตกรรมมาต่อยอดให้บริการประชาชนพร้อมรองรับการเป็นมหานครอัจฉริยะ “Smart Metro” ตอบโจทย์การใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าชมบูธ MEA ในงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2563 ได้ระหว่างวันที่ 11 – 13 พฤศจิกายน 2563 ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร


Energy for city life, Energize smart living 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

รวบเจ้าของหอพักโหดย่านรังสิต ข้อหากรรโชกทรัพย์

ปทุมธานี 28 พ.ค. – ตำรวจปทุมธานี บุกรวบเจ้าของหอพักย่านรังสิต พร้อมครอบครัว ข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังมีนักศึกษาแจ้งความร้องทุกข์ว่า เจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกาย ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจปทุมธานี นำหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 27 พ.ค. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ เข้าจับกุม พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี นางพัชรียา อายุ 56 ปี และนางสาวพูลชนก อายุ 28 ปี ที่หอพักใน 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากกรณีมีนักศึกษากว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. ว่าเจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ยึดเอกสารหลักฐานทางราชการ ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน บางจังหวะการจับกุมจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงกันและมีการขัดขืน แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหมายจับ พล.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ตำรวจขอหมายจับจากศาลไป 3 […]

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]