กกร.แนะลูกหนี้ SME ติดต่อธนาคารเจ้าหนี้พร้อมดูแลอย่างทั่วถึง


กรุงเทพฯ 20 ต.ค. – คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แนะลูกหนี้ SME ติดต่อธนาคารเจ้าหนี้พร้อมดูแลอย่างทั่วถึง



คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) โดย นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ร่วมแถลงข่าวโครงการพักชำระหนี้ที่โรงแรมคอนราด


จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไรวัสโคโรนา (COVID-19) ทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ภาครัฐโดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หนึ่งในมาตราการที่ออกคือ มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน โดยลูกหนี้ต้องมีคุณสมบัติคือ
1) เป็นหนี้ที่ยังชำระปกติ หรือ ค้างไม่เกิน 90 วัน ณ 31 ธันวาคม 2562
2) วงเงินของทุกบริษัทในกลุ่มที่มีกับสถาบันการเงินเดียวกัน ไม่เกิน 100 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อให้ธุรกิจ เอสเอ็มอี สามารถปรับตัวจากผลกระทบและก้าวผ่านวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นนี้ไปได้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 22 ตุลาคม 2563



ตามข้อมูลที่ได้รับจากธนาคารแห่งประเทศไทย มาตรการพักชำระหนี้นี้ ช่วยให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบและสมัครใจเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 1.05 ล้านบัญชี เป็นยอดหนี้ประมาณ 1.35 ล้านล้านบาท ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการได้เตรียมพร้อมและปรับตัว เป็นการให้เวลากับธุรกิจของลูกหนี้ ธนาคารเจ้าหนี้ได้มีเวลาในการศึกษาผลกระทบของลูกหนี้แต่ละรายและกำหนดแผนการชำระหนี้ให้เหมาะสอดคล้องกับแผนธุรกิจ กระแสเงินสดภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบเศรษฐกิจที่จะสามารถข้ามผ่านผลกระทบดังกล่าวไปได้


จากข้อมูลล่าสุดที่ได้รับจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า ลูกหนี้ที่เข้าข่ายในการเข้าร่วมโครงการสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม คือ
1) กลุ่มที่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติหลังหมดมาตรการ ซึ่งธนาคารประเทศไทย ประมาณว่ามีถึงร้อยละ 60 กว่า ของยอดหนี้ที่เข้าข่ายในการเข้าร่วมโครงการ
2) กลุ่มที่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจแต่ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งหลังหมดโครงการธนาคารแห่งประเทศไทย จะให้สถาบันการเงินเจ้าหนี้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งธนาคารประเทศไทย ประมาณว่ามี ร้อยละ 20 กว่า ของยอดหนี้ที่เข้าข่ายในการเข้าร่วมโครงการ
3) กลุ่มที่ยังไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ ซึ่งหลังหมดโครงการ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะให้สถาบันการเงินเจ้าหนี้พิจารณาขยายระยะเวลาการชำระหนี้เป็นรายกรณี ได้อีกไม่เกิน 6 เดือน นับจากสิ้นปี 2563 ซึ่งธนาคารประเทศไทย ประมาณว่ามี ร้อยละ 10 ของยอดหนี้ที่เข้าข่ายในการเข้าร่วมโครงการ
4) กลุ่มที่ขาดการติดต่อกับสถาบันการเงิน ซึ่งคาดว่ามีประมาณร้อยละ 6 ของยอดหนี้ที่เข้าข่ายที่สามารถเข้าร่วมโครงการ


จากข้อมูลข้างต้นประกอบกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศให้สถาบันการเงินคงสถานการณ์จัดชั้นลูกหนี้ถึงสิ้นปี 2563 สำหรับลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการเจรจาปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ เพื่อช่วยไม่ให้ลูกหนี้กลายเป็น NPL ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้สถาบันการเงินเร่งดำเนินการปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงปรับมาตรการจากการขยายการพักชำระหนี้ซึ่งสิ้นสุดลงในวันที่ 22 ตุลาคม 2563 นี้ เป็นมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เชิงรุกและตรงจุดที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกหนี้แต่ละราย


เพื่อให้ทราบว่ามีภาคธุรกิจไหนที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ พร้อมเปิดช่องทางให้ลูกหนี้ที่มีปัญหาในการติดต่อสถาบันการเงินหรือยังไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันกับสถาบันการเงินได้ สามารถแจ้งความต้องการที่จะปรับโครงสร้างหนี้ ไปยังสถาบันการเงินผ่านเว็บไซด์ “ทางด่วนแก้หนี้” ตลอด 24 ชม. หรือที่ศูนย์ประสานงานของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (หมายเลขโทรศัพท์ 02-3451000) หรือ ศูนย์ประสานงานของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (หมายเลขโทรศัพท์ 02-0186888 ต่อ 3520,3540) ตามที่ผู้ประกอบการเป็นสมาชิกอยู่ เพื่อประสานงานกับสมาคมธนาคารไทยและธนาคารเจ้าหนี้ต่อไป . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่