กนอ. มอบธงขาว-ดาวเขียว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6!

กรุงเทพฯ 25 ก.ย. – กนอ.มอบธงขาว-ดาวเขียว ปี 62 ชู 123 โรงงาน ผ่านเกณฑ์ดี 67 โรงงานอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม รับธงขาว-ดาวทอง ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6!



การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) มอบธงธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย หรือธงขาว-ดาวเขียว ประจำปี 2562 ให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ที่ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินของคณะกรรมการตรวจประเมินโรงงานอุตสาหกรรม โดยมี 123 ที่อยู่ในเกณฑ์ดี และอีก 67 แห่ง รับมอบธงขาว-ดาวทอง หลังรักษามาตรฐานเกณฑ์ธรรมาภิบาลดีเยี่ยมต่อเนื่อง 6 ปี ตอกย้ำความเชื่อมั่นและการยอมรับระหว่างชุมชน สังคม และภาคอุตสาหกรรมที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน


นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า โครงการธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย หรือธงขาว-ดาวเขียว (Green Star Award) เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเป็นองค์กรที่ยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม โดย กนอ. ได้ดำเนินการจัดพิธีมอบธงธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ธงขาว-ดาวเขียว) มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2550- 2562 ซึ่งมีโรงงานที่ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินอยู่ในเกณฑ์ดี (ธงขาว-ดาวเขียว)-ดีเยี่ยม (ธงขาว-ดาทอง) รวมทั้งสิ้น 1,303 โรง ในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ภาคตะวันออก(มาบตาพุด) นิคมอุตสาหกรรมผาแดง นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยปี 2562 มีโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมที่ผ่านเกณฑ์การประเมินด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในเกณฑ์ดี และรับมอบธงขาว-ดาวเขียว จำนวน 123 โรง และมอบธงธรรมาภิบาลฯ ให้กับสถานประกอบการที่รักษามาตรฐานการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมต่อเนื่องเป็นเวลา 6 ปี หรือ ธงขาว-ดาวทอง(Gold Star Award) นับจากปีที่ประเมิน (2557-2562) รวมทั้งสิ้น 67 แห่ง สะท้อนให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมจนเป็นที่ยอมรับได้ของภาคประชาชนและยังเป็นกลไกสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้กับ นักลงทุนไทยและต่างประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ



“ในส่วนของเกณฑ์การประเมินฯ คณะกรรมการกำกับการดำเนินงานตามแผนลดและขจัดมลพิษ และคณะทำงานตรวจประเมินโรงงานอุตสาหกรรม ประกอบด้วย ผู้แทนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กนอ.ผู้พัฒนานิคมฯ ผู้ประกอบการ หน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น สื่อท้องถิ่น และชุมชนโดยรอบนิคมฯ ทั้งในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด ตำบลบ้านฉาง และกลุ่มประมงเรือเล็ก ได้กำหนดเกณฑ์การประเมินไว้ 10 ด้าน คือ การบริหารจัดการน้ำ การบริหารจัดการด้านขยะ/กากของเสีย การจัดการระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ การจัดการไอระเหยสารเคมีและสารอินทรีย์ระเหย (VOCs) การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของสภาพพื้นที่การทำงาน การบริหารจัดการด้านลดอุบัติเหตุ/อุบัติภัยและข้อร้องเรียน การจัดให้มีพื้นที่สีเขียว ก การจราจรขนส่ง (วัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์) และความครบถ้วน ถูกต้องของข้อมูล และระบบการจัดการตามมาตรฐานสากล ขณะเดียวกัน กนอ.ยังกำหนดเกณฑ์การตรวจประเมินด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นและเศรษฐกิจชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนรอบนิคมฯ มีอาชีพมีรายได้ที่มั่นคงอย่างยังยืนควบคู่ไปกับภาคอุตสาหกรรมไทย อีกด้วย”นางสาวสมจิณณ์ พิลึก กล่าว


สำหรับปี 2562 มีโรงงานที่ได้รับมอบธงธรรมาภิบาลธงขาว–ดาวเขียว จำนวนทั้งสิ้น 123 แห่ง แบ่งออกเป็น นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จำนวน 55 โรงงาน นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอตะวันออก (มาบตาพุด) จำนวน 37 โรงงาน นิคมอุตสาหกรรมผาแดง จำนวน 2 โรงงาน นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย จำนวน 13 โรงงาน นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล จำนวน 5 โรงงาน และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จำนวน 11 โรงงาน และได้รับมอบธงธรรมาภิบาลธงขาว– ดาวทอง สำหรับโรงงานที่รักษามาตรฐานในการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมต่อเนื่องเป็นเวลา 6 ปีต่อเนื่อง (2557-2562) จำนวน 67 โรงงาน ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จำนวน 26 โรงงาน นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอตะวันออก (มาบตาพุด) จำนวน 20 โรงงาน นิคมอุตสาหกรรมผาแดง จำนวน 1 โรงงาน นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำนวน 10 โรงงาน นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล จำนวน 4 โรงงาน และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จำนวน 6 โรงงาน

“กนอ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมผลักดันให้โรงงานที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ มีการบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในด้านต่างๆที่ได้มาตรฐาน มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ของภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาคประชาชนในพื้นที่รอบนิคมอุตสาหกรรมและใกล้เคียงต่อไป” ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวปิดท้าย . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร