กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ในโซนซบเซา กังวลการเมืองและเศรษฐกิจถดถอย
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) เดือนสิงหาคม 2563 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (พ.ย.63) ลดลง 21% อยู่ในเกณฑ์ซบเซามาอยู่ที่ระดับ 67.52 ความเชื่อมั่นนักลงทุนเกือบทุกกลุ่มอยู่ในระดับ “ทรงตัว” ยกเว้นความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในกลุ่ม “ซบเซาอย่างมาก”
โดยปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ปัจจัยรองลงมาคือ การถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในอเมริกาและยุโรป ขณะที่นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือนโยบายการเงินของสหรัฐ และการไหลเข้าออกของเงินทุน รวมถึงความคาดหวังการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19
สำหรับหมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม (FOOD) หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดธนาคาร (BANK)
“ผลสำรวจ ณ เดือนสิงหาคม 2563 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติปรับตัวลงอยู่ในระดับซบเซาอย่างมากที่ 25.00 ขณะที่ความเชื่อมั่นนักลงทุนกลุ่มอื่นอยู่ในระดับทรงตัว โดยความเชื่อมันกลุ่มนักลงทุนบุคคลปรับขึ้นมาเล็กน้อยที่ 90.63 ความเชื่อมั่นของกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับขึ้นมาที่ 100.00 และความเชื่อมั่นของกลุ่มสถาบันในประเทศปรับลดลงมาอยู่ที่ 87.50” นายไพบูลย์ กล่าว
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การแพร่ระบาดรอบ 2 ของโควิด-19 หลายประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้ล่าช้าออกไป และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยปัจจัยในประเทศที่น่าติดตามได้แก่ ความไม่แน่นอนของการต่ออายุมาตรการสนับสนุนของภาครัฐที่กำลังจะหมดอายุ ความเสี่ยงด้านการว่างงานและการปิดกิจการที่อาจเพิ่มสูงขึ้นมาก รวมถึงความไม่สงบทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย