“Fetco” เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน เดือน ต.ค. 64 สูงสุด

กรุงเทพฯ 4 พ.ย. -“Fetco” เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน เดือน ต.ค.64  “ร้อนแรงอย่างมาก”  สูงสุดนับแต่มีการสำรวจ คาดภาคท่องเที่ยว – ฉีดวัคซีน เป็นปัจจัยหนุน      


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาสภาธุรกิจตลาดทุนไทย  (FETCO) แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index ) ผลสำรวจในเดือน ต.ค.64 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 168.69 สูงสุดตั้งแต่เริ่มทำการจัดทำดัชนี โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.2% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรงอย่างมาก”

โดยนักลงทุนคาดหวังการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือแผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โควิด-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่หลังเปิดประเทศ รองลงมาคือการถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ


ทั้งนี้ ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้  ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุน อยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรงอย่างมาก”  ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.2% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ระดับ 168.69  / ความเชื่อมั่นนักลงทุนกลุ่มนักลงทุนบุคคล กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในระดับ “ร้อนแรงอย่างมาก” ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศอยู่ในระดับ “ร้อนแรง”      ส่วนหมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด หมวดท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM)  หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดประกันภัยและประกันชีวิต (INSUR)  สำหรับ ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่หลังเปิดประเทศ

ประธานกรรมการ สภาสภาธุรกิจตลาดทุนไทย  ยังให้ความเห็นหากเปิดเมือง แล้วเกิดการระบาดของโควิดเพิ่มขึ้น จะกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนมากน้อยเพียงใดว่า ทั้งหมดขึ้นกับมาตรการของภาครัฐว่าจะรับมือกับการระบาดอย่างไร มีมาตรการทางด้านสาธารณสุข  เช่น โรงพยาบาลหรือเตียงเพียงพอ หรือ มาตรการโฮมไอโซเลชั่นที่ดี อาจไม่ใประเด็นที่น่าห่วง เช่น ในสหรัฐ ที่ยังคงมีตัวเลขผู้ป่วยวันละเป็นแสนคน  จึงเชื่อว่านักลงทุนจะไม่ห่วง เว้นแต่ ภาครัฐหันมาใช้มาตรการปิดธุรกิจ หรือ ล็อคดาวน์อีกครั้ง 

ส่วนตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจหลังเปิดเมือง 1 พ.ย.64 นี้ นั้น ตัวเลขนักท่องเที่ยวคงยังไม่เพิ่ม  ขึ้นมากในปีนี้  แต่ปี65 ที่มีการประเมินจีดีพี ที่ 3.5 บนฐานนักท่องเที่ยว ประมาณ 10 ล้านคน แต่ หากมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่านั้น เช่น 10-15 ล้านคนขึ้นไป ถึงจะมีผลเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับ ฟันโฟลด์ ที่น่าจะไหลเข้ามาในประเทศมากขึ้นในปีหน้า  หากเราทำให้เศรษฐกิจโต ได้มากกว่า  4% เงินอาจไหลเข้ามาถึง 1 แสนล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง