กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- ศบศ.ถกวันนี้ เตรียมคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ พร้อมเตรียมหา รมว.คลังคนใหม่ โดยเชื่อว่าจะไม่กระทบการลงทุน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพลังงาน กล่าวก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน
โดยระบุถึงการลาออกของนายปรีดี ดาวฉาย รมว.คลังเมื่อวานนี้ ว่าคงต้องรอพิจารณาก่อนว่าจะมีใครเหมาะสมมาดำรงตำแหน่งแทน ซึ่งวันนี้จะมีการหารือในที่ประชุม ศบศ. ส่วนหลังจากนี้ นายปรีดี จะมาช่วยงานในฐานะที่ปรึกษาหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ ให้นายปรีดี ไปพักรักษาตัวก่อน และเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยอยากให้ดูที่กระบวนการการทำงาน และภาพรวมของรัฐบาลเป็นหลัก
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า นายกรัฐมนตรีต้องรีบตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่อยู่แล้ว และขณะที่ยังไม่มีการแต่งตั้ง ก็ไม่ได้หมายความว่ากระบวนการต่างๆ ในการบริหารงานจะต้องหยุดชะงัก เพราะนี่คือรัฐบาลจะขาดใครก็ได้ แต่อย่าขาดนายกรัฐมนตรี ซึ่งมั่นใจว่าไม่กระทบกับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนภายในประเทศอย่างแน่นอน
โดยนายปรีดี เข้ามาดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่เพียง 27 วัน ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น หากไม่สะดวกที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อ รัฐบาลก็ต้องพยายามประคับประคอง เพื่อบริหารประเทศต่อไป โดยย้ำให้เชื่อมั่นในรัฐบาล ไม่ใช่ตัวบุคคล ส่วนภาพที่ออกเหมือนมีการเล่นการเมืองเยอะเกินไปจนกดดันให้นายปรีดีต้องลาออกนั้น นายอนุทินยิ้มและกล่าวว่า กระดูกต้องแข็งต้องกินแคลเซียมเยอะๆ
ขณะที่ความเห็นภาคเอกชน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า คนที่จะเป็นคลัง จะต้องมีความรู้ด้านการคลัง รู้เรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และก็ทำงานด้วยความโปร่งใส โดยนายกฯ ต้องดำเนินการคัดสรรบุคคลที่เหมาะสม มีความรู้ความสามารถด้านการคลังเข้ามาแทนโดยเร็ว ซึ่งประการสำคัญต้องสามารถทำงานร่วมกับทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลได้อย่างมีเอกภาพ ร่วมกันเดินหน้าขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ เพราะผู้ประกอบการต่างต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ
ส่วนการประชุม ศบศ.วันนี้จะมีการหารือถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ เบื้องต้นจะเน้นมาตรการระยะสั้น รวมถึงจะมีการรับทราบเรื่องของการดูแลการจ้างงาน ซึ่งกระทรวงแรงงานจะมารายงานให้ที่ประชุมทราบด้วย
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ สิ้นเดือนสิงหาคมตลาดแรงงานในระบบประกันสังคม ได้รับผลกระทบทั้งสิ้นแล้วเกือบ 2.19 ล้านคน แบ่งเป็นแรงงานที่ลาออกและถูกเลิกจ้าง โดยได้รับประโยชน์กรณีว่างงาน จาก พ.ร.บ.ประกันสังคมแล้ว 420,000 คน
ส่วนแรงงานที่ยังมีสถานะเป็นผู้มีงานทำในสถานประกอบการที่ประสบเหตุสุดวิสัย ไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติมีกว่า 1.7 ล้านคน โดยหากสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ดีขึ้น และสถานประกอบการต้องปิดตัวลง แรงงานกลุ่มนี้ก็จะกลายเป็นผู้ว่างงาน
ด้านกระทรวงพลังงานวางแผนจ้างงานหลายหมื่นคน ล่าสุดจับมือ 3 สมาคมวิชาชีพ ยกระดับการพัฒนาประสิทธิภาพพลังงานและพลังงานทดแทน ร่วมกับสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร สมาคมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไทย และสมาคมไฟฟ้าแสงสว่างแห่งประเทศไทย และผลักดันให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ โดยมีโครงการที่ดำเนินการจนสำเร็จเห็นเป็นรูปธรรม เช่น การพัฒนาระบบโซลาร์โดมอบแห้ง ระบบผลิตก๊าซชีวภาพระดับชุมชน การส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป
นายโกมล บัวเกตุ รองอธิบดี พพ.กล่าวว่าโครงการนี้จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยการจ้างงาน ตามแผนงานของกระทรวงพลังงานที่คาดว่าจะมีการจ้างงานหลายหมื่นคน โดยวงเงินที่ว่าจ้างจะมาจากกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และโครงการเพื่อขอใช้จ่ายเงินกู้ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ วงเงินไม่เกิน 400,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไท
