กรมบัญชีกลาง เร่งหน่วยงานรัฐขอกันเงินงบปี 63 ไว้เบิกเหลื่อมปี

กรุงเทพฯ 29 ส.ค. – กรมบัญชีกลาง เพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติ การขอกันเงินงบประมาณปี 63 ไว้เบิกเหลื่อมปี มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19


นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลังให้ออกหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการขอกันเงินงบประมาณปี พ.ศ.2563 ไว้เบิกเหลื่อมปี ตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0402.5/ว 135 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2563 แต่เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 มีผลใช้บังคับล่าช้า ประกอบกับมีการจัดทำพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ.2563 ซึ่งใช้บังคับเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 ส่งผลให้กระบวนการจัดหาพัสดุของหน่วยงานของรัฐล่าช้ากว่าปกติ ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น กรมบัญชีกลางจึงออกหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการขอกันเงินงบประมาณปี พ.ศ.2563 ไว้เบิกเหลื่อมปีเพิ่มเติม สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้


หน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุจนถึงขั้นออกประกาศเชิญชวน หรือมีหนังสือเชิญชวนและบันทึกข้อมูลในระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) แล้วแต่กรณี ให้บันทึกเป็นเอกสารสำรองเงินประเภท CX ผ่านระบบ GFMIS Web Online จากนั้นเลือกรายการเอกสารสำรองเงินที่ต้องการขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี กดยืนยันข้อมูล หากเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีสำนักงานอยู่ในภูมิภาค ต้องสรุปเลขที่เอกสารสำรองเงิน ส่งให้ส่วนราชการเจ้าของงบประมาณหรือหน่วยงานผู้เบิกแทนเป็นผู้รวบรวมและยืนยันข้อมูล และส่งให้กรมบัญชีกลางในระบบ GFMIS (กรณีที่ต้องการยกเลิกรายการที่ยืนยันแล้วในระบบ GFMIS ให้ทำหนังสือถึงกรมบัญชีกลาง ก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน 2563) ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานผู้เบิกแทน สามารถตรวจสอบผลการพิจารณาอนุมัติการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีผ่านระบบ GFMIS
อธิบดีกรมบัญชีกลางกล่าวย้ำว่า ขอให้หน่วยงานของรัฐเร่งดำเนินการขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีให้แล้วเสร็จภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน 2563 หากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด งบประมาณดังกล่าวต้องถูกพับไป
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้จัดทีมดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะทั้งในกรุงเทพมหานคร และ 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้คำแนะนำหน่วยงานของรัฐ ให้สามารถดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติดังกล่าว หากมีข้อสงสัย ติดต่อสอบถามได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 02-270-6400 ในวัน เวลาราชการ . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี