กฟผ.เตรียมรับมือเจดีเอหยุดจ่ายก๊าซฯ

กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – กฟผ.เตรียมรับมือแหล่งก๊าซธรรมชาติพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียหยุดจ่าย ยันไม่กระทบการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ และความมั่นคงระบบไฟฟ้า


นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.ได้รับการประสานจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แจ้งการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) และระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติของโรงแยกก๊าซและท่อส่งก๊าซธรรมชาติไทย – มาเลเซีย จะนะ ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 7 กันยายน 2563 รวม 10 วัน เพื่อหยุดซ่อมบำรุงรักษาประจำปี ส่งผลให้ไม่สามารถจ่ายก๊าซธรรมชาติให้โรงไฟฟ้าจะนะได้ ซึ่งปกติโรงไฟฟ้าจะนะจะเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าหลักของภาคใต้ มีกำลังผลิตทั้งสิ้น 1,476 เมกะวัตต์ ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงประมาณวันละ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

สำหรับมาตรการรองรับการหยุดจ่ายก๊าซฯ ของ กฟผ. ประกอบด้วย ด้านระบบผลิตไฟฟ้าได้เตรียมการให้โรงไฟฟ้าจะนะ เดินเครื่องด้วยเชื้อเพลิงสำรอง คือ น้ำมันดีเซลและโรงไฟฟ้ากระบี่เดินเครื่องด้วยน้ำมันเตา ซึ่งได้ทดสอบระบบเพื่อเตรียมความพร้อมของโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งประสานการไฟฟ้ามาเลเซีย เพื่อขอซื้อไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน ด้านระบบส่งไฟฟ้าได้ตรวจสอบสายส่งไฟฟ้าและอุปกรณ์สำคัญให้พร้อมใช้งาน โดยจุดที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ สายส่งที่เชื่อมโยงระหว่างภาคกลาง – ภาคใต้ ด้านเชื้อเพลิงได้สำรองน้ำมันเต็มความสามารถจัดเก็บก่อนเริ่มหยุดจ่ายก๊าซฯ ซึ่งปริมาณน้ำมันจะมีเพียงพอต่อความต้องการใช้ตลอดช่วงการหยุดจ่ายก๊าซ รวมทั้งสามารถรองรับ หากการทำงานล่าช้าได้มากกว่า 10 วัน และด้านบุคลากร ได้จัดเตรียมทีมฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานกับ ปตท. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมรองรับ หากเกิดเหตุการณ์นอกเหนือจากที่คาดการณ์หรือไฟฟ้าดับ


“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าระบบไฟฟ้าของภาคใต้จะมีความมั่นคง ประชาชนมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ กฟผ. เตรียมความพร้อมมาตรการรองรับต่าง ๆ รวมทั้งทีมงานติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยได้เช่นกัน จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันใช้ไฟฟ้าอย่างรู้คุณค่าระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 7 กันยายน 2563 เพื่อร่วมกันประหยัดทรัพยากรและอนุรักษ์พลังงานของประเทศ”’ รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง