ตลท. 20 ส.ค. – ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยชี้ดัชนีหุ้นไทยร่วงหลุด 1,300 จุด มาจากภาวะตื่นตกใจระยะสั้น ความกังวลข่าวพบ 2 หญิงไทยติดชื้อโควิด-19 ขณะที่กองทุนรีท PROSPECT เปิดเทรดกองรีทแรกของปี 63
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า การที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1,300 จุด เนื่องจากนักลงทุนเกิดการตื่นตกใจ ( Panic ) ระยะสั้นจากข่าวที่ประเทศไทยพบ 2 หญิงไทยติดชื้อโควิด-19 หลังผ่านการกักตัว 14 วันแล้ว ซึ่งเชื่อว่าดัชนีหุ้นไทยมี Down Side ไม่มาก และจะไม่ดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดเหมือนที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยยังเชื่อว่าประเทศไทยสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ดี
นายไพบูลย์ แนะนำว่าในภาวะที่ตลาดผันผวนสูงและดอกเบี้ยต่ำ การลงทุนในกองทุนรีทเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะการลงทุนในกองรีทจะให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก เพราะมองว่าต้องใช้เวลาอีก 2 ปี ดอกเบี้ยจึงจะค่อย ๆ เริ่มปรับขึ้นมาสู่ระดับปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ PROSPECT ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล เป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่ลงทุนในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ทำการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก โดยราคาเปิดเทรดอยู่ที่ 10 บาท เท่ากับราคา IPO
โดยโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ตั้งอยู่บริเวณถนนบางนา-ตราด กม. 23 ประกอบด้วย พื้นที่เขตประกอบการอุตสาหกรรม ที่เป็นพื้นที่เขตประกอบการทั่วไป (General Zone) และเขตปลอดอากร (Free Zone) แบ่งเป็นพื้นที่เขตประกอบการทั่วไป และเขตปลอดอากร มีประเภทอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานที่หลากหลาย และยังสามารถให้บริการที่ครบวงจร (One-Stop Service) ที่จำเป็นต่อการเริ่มดำเนินธุรกิจ เช่น การขอใบอนุญาตผู้ประกอบการในเขตปลอดอากร ใบอนุญาตโรงงาน บัตรส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น
PROSPECT เสนอขายหน่วยทรัสต์ต่อผู้ลงทุน ในราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่าเสนอขาย 2,450 ล้านบาท โดยจะนำเงินระดมทุนดังกล่าวรวมกับเงินจากการกู้ยืมจากธนาคารเข้าลงทุนในสินทรัพย์เริ่มแรก มูลค่าการเข้าลงทุน 3,500 ล้านบาท ได้ประมาณการเงินจ่ายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในปีแรก (First Year Yield) ที่อัตรา 1.112 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็น 11.1 % และมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล ปีละไม่น้อยกว่า 2 ครั้งในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี โดยจะจ่ายไม่น้อยกว่า 2 ครั้งต่อรอบปีบัญชี
นายวิชญ ศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด มองว่าไทยยังเป็นฐานการผลิตที่น่าสนใจ ทั้งความพร้อมด้านสาธารณูปโภค และเทคโนโลยี ซึ่งมั่นใจว่าหลังวิกฤติโควิด การลงทุนจากจีน และยุโรปจะเข้ามาที่ภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะไทยมากขึ้น ขณะที่พื้นที่ตั้งของ PROSPECT เป็นทำเลที่มีศักยภาพ เดินทางสะดวก และมีความพร้อมรองรับด้านเทคโนโลยีและการให้บริการ และมีโซนปลอดอากร เหมาะสำหรับผู้ผลิตที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ .-สำนักข่าวไทย