กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – กรมเจ้าท่า ถือฤกษ์“ครบรอบ 161 ปี เปิดตัวเรือไฟฟ้าต้นแบบเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมนำมาให้บริการ ประชาชน ในเดือนธันวาคม 2563 นี้ พร้อมแสดงความมั่นใจเรือไฟฟ้า จะช่วยให้ค่าโดยสารถูกลงในอนาคต
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 161 ปี กรมเจ้าท่า โดยในงานได้นำเรือไฟฟ้าจากบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด และบริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด ความยาวลำเรือ 20 เมตร ความกว้าง 6.3 เมตร กินน้ำลึก 2.35 เมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 78 คน นำมาแสดง
สำหรับเรือไฟฟ้าที่จะนำมาให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ดำเนินโครงการโดยบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด(มหาชน) (EA) คือเรือไฟฟ้า MINE Smart Ferry ขับเคลื่อนจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ขนาด 800 KWh สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 200 คน ซึ่งขณะนี้ต่อเสร็จแล้วจำนวน 1 ลำ และมีแผนดำเนินการต่อเรือเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2563 จำนวน 15 ลำ ภายในเดือนมีนาคม 2564 จำนวน 12 ลำ รวมจำนวนทั้งสิ้น 28 ลำ สำหรับใช้เป็นเรือโดยสารให้บริการรับ-ส่งในแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด ทั้งนี้จะเริ่มนำเรือไฟฟ้าออกให้บริการผู้โดยสารได้ภายในเดือนธันวาคม 2563
สำหรับข้อดีของเรือไฟฟ้า จะช่วยยกระดับการให้บริการทั้งความสะดวกสบายด้วยการติดแอร์ เน้นความสะอาดและการออกแบบที่ปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสาร อีกทั้งยังประหยัดต้นทุนด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากพลังงานจากแบตเตอรี่ซึ่งดีกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงเพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้เรือโดยสารมากขึ้นเพื่อเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัด
ด้านนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่าหลังการทดสอบเรือไฟฟ้าในวันนี้ ซึ่งภาพรวมถือว่าน่าพอใจ และจะมีการปรับปรุงระบบอีกเล็กน้อย โดยหลังจากผ่านการทดสอบแล้ว ในปลายปี 2563 จะมีการนำเรือไฟฟ้าไปให้บริการทางทะเลในจังหวัดท่องเที่ยวเช่น จังหวัดภูเก็ต ,กระบี่และพังงา โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตในปลายปีนี้ คาดว่าจะมีเรือไฟฟ้าให้บริการ 30 ลำ และในอนาคตจะมีเรือให้บริการในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวที่กล่าวไปแล้วประมาณ 200 ลำ
นอกจากนี้จะมีการพัฒนาเรือไฟฟ้ามาวิ่งให้บริการไปแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารไหนแม่น้ำเจ้าพระยาก็พร้อมมีการปรับเปลี่ยนเรือมาใช้เรือพลังงานไฟฟ้าที่ทำจากอลูมิเนียม โดยจะมีการเปลี่ยนจากเรือไม้ตามรอบที่หมดอายุ โดยคาดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปลายปี 2563 เป็นต้นไป
อนาคต กรมเจ้าท่า เตรียมที่จะมีการเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่เพื่อรองรับการให้บริการแก่ประชาชนในจังหวัดรอบนอกมากขึ้น ซึ่งจากเดิมเอกชนมีการเดินเรือจากท่าเรือสาทรไปยังจังหวัดนนทบุรี และ อ.ปากเกร็ด ในอนาคตก็จะมีการขยายถึงจังหวัดปทุมธานี และอีกฝั่งหนึ่งก็จะมีการขยายไปถึงจังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้ท่าเรือสาทร เป็นศูนย์กลางระหว่างสองฝั่งเนื่องจาก เป็นท่าเรือที่มีบริการเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้า ซึ่งการเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่นี้ก็จะพยายามผลักดันให้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าด้วย
ทั้งนี้อธิบดีกรมเจ้าท่าระบุด้วยว่า การนำเรือไฟฟ้า ที่ผลิตจากอลูมิเนียม มาให้บริการเรือโดยสาร เชื่อว่าในอนาคตจะมีส่วนสำคัญทำให้ค่าโดยสารของเรือโดยสารถูกลง แม้ขณะนี้ต้นทุนในการเดินเรือไฟฟ้า จะมีการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ในราคาสูง แต่ทิศทางของแบตเตอรี่ก็มีราคาถูกลงเรื่อยๆ ขณะที่การใช้เรืออลูมิเนียมจะมีข้อดี เมื่อเปรียบเทียบกับเรือไม้ ในเรื่องของต้นทุนบำรุงรักษา รวมทั้งสภาพตัวเรือที่มีน้ำหนักเบา จะช่วยให้ผู้ประกอบการ ที่ใช้เรือไฟฟ้า ผลิตจากอลูมิเนียม มีต้นทุนเชื้อเพลิงถูกกว่าเรือใช้น้ำมันถึง 40 เปอร์เซ็นต์
ส่วนประเด็นเรื่องของ การรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีและกระทรวงคมนาคม เพื่อยกระดับความมั่นใจในการใช้บริการ หลังในช่วงที่ผ่านมามีอุบัติเหตุทางเรือ เกิดขึ้นติดกัน ทั้งที่เกาะสมุยจังหวัดสุราษฎร์ธานีและในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าทุกพื้นที่ ทำการตรวจเรือโดยสารใหม่ ในแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งระบบ โดยจะให้ดำเนินการภายในสัปดาห์นี้เป็นต้นไป . – สำนักข่าวไทย