กรุงเทพ 3 ก.ค. – ผู้ว่าการ กทพ.คนใหม่ไฟแรง ประกาศเดินหน้าสางปัญหา สัญญาที่ 1 และ 3 โครงการด่วนพระราม 3 และปลดล็อคให้เกิดความชัดเจนว่า โครงการระบบทางด่วน N2 สุดท้ายทำได้หรือไม่ โดยรุดคุยกับตัวแทน ม.เกษตรฯวันนี้ และมั่นใจพร้อมร่วมงานกับสหภาพแรงงานฯ กทพ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. จัดให้มมีพิธีลงนามในสัญญาจ้างผู้บริหารตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ระหว่างนายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการ กทพ.และนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ซึ่งผ่านการสรรหาเข้าดำรงตำแหน่ง และจะเริ่มงานทันทีวันนี้เป็นวันแรก
นายสุรเชษฐ์ กล่าวแสดงความมั่นใจว่า เชื่อว่าความจริงใจและความตั้งใจที่จะทำงาน รวมทั้งในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการพูดคุยพนักงานเพื่อทำความรู้จักและรับฟังปัญหา มั่นใจว่า ถ้าพนักงานเชื่อก็จะให้ความร่วมมือ พร้อมยืนยันว่า การทำงานไม่มีพวกพ้อง และต้องการสร้างผลงาน จะทำให้การทำงานได้รับการยอมรับและพร้อมทำงานร่วมกับสหภาพแรงงานฯ กทพ. และทุกคนในองค์กร
สำหรับงานเร่งด่วนที่ตั้งใจว่าจะเร่งดำเนินการ คือ การแก้ปัญหา สัญญาทางด่วนพระราม 3 สัญญาที่ 1 และ 3 ที่ล่าช้ามาระยะหนึ่ง โดยขณะนี้กำลังศึกษาอยู่รายละเอียดโครงการเพื่อจะได้เข้าไปสะสางปัญหาให้ลุล่วงโดยเร็ว และโครงการะบบทางด่วนขั้นที่ 3 (N2) ไปพร้อมกับการดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) ที่ยังมีปัญหาเนื่องจากมีแนวเส้นทางผ่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งส่วนตัวมองว่า เส้นทางนี้แม้จะไม่เหมาะที่จะก่อสร้าง ในเรื่องของผลตอบแทนจากการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า แต่พบว่าประชาชนผู้ใช้ทางและระบบขนส่ง จะได้รับประโยชน์ โดยมีผลตอบแทนทางด้านสังคมที่ดี และแม้ กทพ.เป็นรัฐวิสาหกิจต้องมองผลกำไร แต่โครงการนี้ จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรได้ ซึ่งในวันนี้ยอมรับว่าจะมีการหารือกับผู้แทนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยในเร็วๆนี้จะได้คำตอบเรื่องดังกล่าว เมื่อมีการเจรจากับทุกฝ่าย
“ผ่านมาโครงการนี้พยายามทำมาถึง 20 ปีแล้ว แต่ไม่สำเร็จ โดยหลังจากนี้จะไปหารือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีกครั้งโดยมีเพียง 2 แนวทาง ทางแรกคือไม่ทำ และทางที่สองคือการเดินหน้าต่อไปโดยไม่แตะปัญหา แม่เส้นทางนี้หากทำสำเร็จกทพ.จะขาดทุน แต่เมื่อประชาชนได้ประโยชน์ก็ต้องทำอย่างเต็มที่ โดยจะเอาข้อเท็จจริงไปหารือ เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว”นายสุรเชษฐ์ กล่าว
สำหรับโครงการอื่นที่ได้รับมอบหมาย เช่น ทางด่วนบูรพาวิถี ทางด่วนสายกระทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ก็จะเร่งศึกษาทำ ความเข้าใจและจะมีการลงพื้นที่ ขณะที่งานที่เป็นนโยบายสำคัญ ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่องการยกเลิกระบบไม้กั้นช่องผ่านทางด่วน ซึ่งกรมทางหลวงได้ยกเลิกไม้กั้นในเส้นทางมอเตอร์เวย์ไปแล้ว โดยกทพ.จะพยายามเร่งรัดงานเพื่อให้ระบบดังกล่าวเกิดการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อ ระหว่าง 2 หน่วยงาน โดยพร้อมปฏิบัติตามนโยบายกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้การดำเนินโครงการแล้วเสร็จภายในปีนี้โดยจะพยายามทำให้ได้ตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ยอมรับว่า โครงการดังกล่าวจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยการใช้พนักงานประจำด่านลดลง ซึ่งในส่วนนี้ได้แจ้งพนักงานไว้แล้วว่า ต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง โดยอาจจะเปลี่ยนให้ไปทำตำแหน่งอื่นพร้อมยืนยันว่าไม่มีนโยบายในการเลิกจ้าง
ด้านนายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่การทางพิเศษได้ผู้ว่าการคนใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ที่องค์กรต้องการผู้นำผลักดันงานในหลายโครงการที่ ซึ่งจากประวัติของนายสุรเชษฐ ก็ถือว่าเป็นที่ได้รับการยอมรับ เนื่องจากมีผลงานจากการทำงานขับเคลื่อนหลายโครงการที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. มาก่อนหน้านี้และมีความรู้ความสามารถที่จะนำมาใช้กับงานที่ กทพ. ได้ ขณะที่ภารกิจของ กทพ. ยังมีอีกมากโดยเฉพาะเรื่องการเรื่องสัญญาทางด่วนพระราม 3 ซึ่งขณะนี้ยังมีปัญหาในการตีความของกรมบัญชีกลาง โดยปัญหาหลัก คือ นิยามการจำกัดความ และการตีความ การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ซึ่งต้องทำความความชัดเจนก่อนเปิดให้มีการประมูลโครงการ
นอกจากนี้ ยังมีภารกิจที่สำคัญในการจัดการองค์กร โดยเฉพาะการเร่งสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งของรองผู้ว่าการฯ ซึ่งขณะนี้มีตำแหน่งที่ว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง และในช่วงเดือนกันยายนจะมีว่างลงอีก 2 ตำแหน่ง รวม 4 ตำแหน่ง ที่เกษียณอายุ โดยเป็นตำแหน่งรองผู้ว่าการ ฝ่ายวางแผน,การก่อสร้าง,ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายการเงิน ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายที่ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทยคนใหม่ก็ต้องหาบุคคลากรมาเติมให้เต็ม เพื่อให้ผู้ว่าการฯมีคนช่วยทำงานได้อย่างเต็มที่ . – สำนักข่าวไทย