ก.พลังงานจะซื้อไฟฟ้าชีวมวลหน่วยละไม่เกิน 2.44 บาท

กรุงเทพฯ  12 พ.ค. – กระทรวงพลังงานระบุจะรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนไม่เกินหน่วยละ 2.44 บาท


นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผย นโยบายในการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรูปแบบต่าง ๆ นับจากนี้ไปว่า จะรับซื้อจากโครงการใหม่ในราคา 2.44 บาทซึ่งเป็นระดับราคาที่ไม่เป็นภาระกับผู้บริโภคเท่านั้น  สาเหตุเพราะในช่วงต้นปีนี้ ภาครัฐเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ SPP Hybrid Firm รูปแบบต่าง ๆ มาแล้ว 17 ราย รวม 300 เมกะวัตต์ ด้วยราคารับซื้อเฉลี่ย  2.44 บาทต่อหน่วย

ดั้งนั้นต่อจากนี้ไป การจะรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนโครงการใหม่เพิ่มเติม จะไม่ซื้อในราคาที่สูงกว่า 2.44 บาทต่อหน่วย  เพราะหากซื้อในราคาที่สูงกว่า จะไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ชนะการประมูลขายไฟฟ้าชีวมวลไปแล้ว   และยืนยันว่า โครงการที่มีมาก่อนหน้านี้ จะรับซื้อตามอายุสัญญาที่มีไว้กับภาครัฐต่อเนื่องไป แม้เป็นโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง


“หากยังตั้งเกณฑ์ว่า การรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานชีวมวลต้องมีราคารับซื้อแพง โอกาสรับซื้อจะมีน้อยลง เพราะกระทรวงพลังงานไม่ต้องการให้ผู้บริโภคต้องรับภาระจ่ายค่าไฟฟ้าในสูงขึ้น จึงประกาศมาตรการชัดเจนว่า การรับซื้อไฟฟ้าจากนี้ไป จะต้องไม่แพงกว่าราคาขายส่ง แต่ถ้าผู้ประกอบการรายใดสามารถผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลหรือพลังงานทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ในราคาไม่แพง ก็จะรับซื้อ เพราะเทคโนโลยีทำได้อยู่แล้ว ” นายศิริกล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในระยะ 4-5 ปีนับจากนี้ไป โดยภาพรวมแล้ว ภาครัฐยังไม่มีความจำเป็นต้องซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตของภาคเอกชนเพิ่มเติมเพราะมีความมั่นคงเพียงพอ แต่เพื่อเป็นการสนับสนุนให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานชีวมวลในการผลิตไฟฟ้า กระทรวงพลังงานยังสนับสนุนที่จะซื้อไฟฟ้าเพิ่มเติมในราคาที่ไม่เป็นภาระต่อผู้บริโภค อันนี้ชัดเจนว่า กระทรวงพลังงานไม่ได้จำกัดการรับซื้อ โดยกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างพิจารณาและเตรียมโครงการที่จะประกาศรับซื้อ 

ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 250-300 เมกะวัตต์ จะมีหลักเกณฑ์ที่แตกต่างออกไป โดยจะมีมาตรการพิเศษแต่ดำเนินการโดยไม่เป็นภาระกับผู้บริโภค ส่วนการผลิตไฟฟ้าจากขยะก็เป็นคนละเงื่อนไขเช่นกัน  ขณะที่โครงการโซลาร์รูฟท็อป จะมีนโยบายออกในในช่วงต่อไปเพราะเป็นโครงการที่มีความสำคัญมาก-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง