นนทบุรี 14 มี.ค. – รองอธิบดีกรมการค้าภายใน นำคณะผู้ประกอบการลุยรับซื้อ “กระเทียม” ในจังหวัดลำพูน กว่า 80 ตัน ดันราคาสูง 22 บาท/กก. ระบุกรมฯ จะติดตามและประเมินสถานการณ์การผลิต ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินสถานการณ์เป็นระยะ และเตรียมพร้อมดำเนินการรับมือด้านปริมาณและราคาไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้บริโภค
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 กรมฯ ร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน เร่งดำเนินการเชื่อมโยงผลผลิตพืช 3 หัวอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ประสานผู้ประกอบการรับซื้อ เข้าไปรับซื้อกระเทียมสดคละไซส์ ในราคา 22 บาท/กก. ปริมาณรวม 80 ตัน จากกลุ่มแปลงใหญ่กระเทียมและหอมแดงบ้านใหม่สวรรค์ หมู่ 11 ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในพื้นที่ จ.ลำพูน เพื่อนำผลผลิตที่มีคุณภาพไปกระจายสู่ตลาดปลายทาง ทั้งร้านอาหาร โรงแรม สถานบริการต่างๆ ที่มีความต้องการใช้กระเทียมต่อไป
ล่าสุดการเข้าไปรับซื้อผลผลิตกระเทียม ส่งผลให้ราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นว่าปีที่ผ่านมา โดยราคาตลาดกระเทียมสด ปีนี้อยู่ที่ 21-22 บาท/กก. สูงกว่าปีที่แล้วที่ 14 บาท/กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 54 ส่วนราคากระเทียมแห้ง ปีนี้อยู่ที่ 80 บาท/กก. สูงกว่าปีที่แล้วที่ 68 บาท/กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 ถือว่าเป็นราคาที่อยู่ในเกณฑ์ดีกว่าปีที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้นำทัพดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการ “อมก๋อยโมเดล” ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยจัดให้มีพิธีลงนามสัญญาข้อตกลงมาตรฐาน และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การรับซื้อพืช 3 หัว (หอมหัวใหญ่ หอมแดง กระเทียม) ปี 2566 ในราคานำตลาดตั้งแต่ต้นฤดูกาลผลิต ภายใต้โครงการ “ขับเคลื่อนการบริหารจัดการพืช 3 หัว อมก๋อยโมเดล @เชียงใหม่” โดยผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรเครือข่ายภาคเอกชน 16 ราย ประกอบด้วย ผู้รวบรวม ผู้ส่งออก ตลาดกลาง อาทิ ตลาดไท ลาดสี่มุมเมือง ตลาดศรีเมือง และตลาดล้านเมือง ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง อาทิ แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี เดอะมอลล์ และท็อปส์ สถานีให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิง อาทิ พีที พีทีที สเตชั่น บางจาก และเชลล์ เข้ารับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกร จำนวน 23 กลุ่ม 5 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน และศรีสะเกษ ปริมาณรับซื้อรวม 22,800 ตัน หอมหัวใหญ่ 7,300 ตัน หอมแดง 7,500 ตัน กระเทียม 8,000 ตัน
โดยตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมที่ผ่านมา ในช่วงที่สถานการณ์ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก กรมฯ ได้เข้าไปเชื่อมโยงรับซื้อผลผลิตโดยตรงจากแหล่งผลิตในราคานำตลาดอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1.หอมแดง อ.ราษีไศล อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ อ.บ้านโฮ่ง อ.ลี้ จ.ลำพูน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ 2.หอมหัวใหญ่ อ.แม่วาง อ.ฝาง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย และ 3.กระเทียม อ.ขุนยวม อ.ปาย อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน อ.ฝาง อ.เวียงแหง อ.แม่แตงอ.เชียงดาว อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่
“กรมฯ จะติดตามและประเมินสถานการณ์การผลิต ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมิณสถานการณ์เป็นระยะและเตรียมพร้อมดำเนินการรับมือด้านปริมาณและราคาไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้บริโภค ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อดูแลพี่น้องเกษตรกรให้สามารถขายสินค้าเกษตรได้ในเกณฑ์ดีตลอดฤดูกาล ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ” นายกรนิจ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
