fbpx

นักวิชาการฟันธงไทยมีโอกาสขยายตลาด กรณีสงครามการค้า

กรุงเทพฯ 24 เม.ย.- ผลศึกษาผลกระทบจากสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐกับจีนต่อประเทศไทย พบไทยมีโอกาสขยายมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 8,000-20,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.01-0.04 ของ GDP ไทย


นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการ ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐกับจีน กรณีที่ทั้ง 2 ฝ่ายใช้มาตรการทางภาษีกีดกันสินค้าระหว่างกัน จะทำให้สินค้าของทั้ง 2 ฝ่ายที่ส่งออกระหว่างกัน จะถูกส่งเข้ามาขายในไทยมากขึ้น ขณะเดียวกันทั้ง 2 ชาติก็จะหันมานำเข้าสินค้าจากไทยเข้าไปทดแทนเช่นกัน ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่าในภาพรวมผลบวกต่อไทย มีมากกว่าผลลบ กล่าวคือ ส้มหล่นที่ไทย ได้อานิสงส์จากการส่งออกเพิ่มขึ้น 8,000-20,000ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.10-0.25 ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทย และจะส่งผลให้ไทยมี GDP เพิ่มขึ้น 2,000-5 ,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.01-0.04 ของ GDP ไทย ดังนั้น ไทยจะตัองเร่งปรับตัวด้วยการปรับผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆให้มีคุณภาพสูงขึ้น แม้ว่าอนาคตอาจจะมีสินค้าไม่ได้มาตรฐานเข้ามาในไทยบ้าง แต่เชื่อว่าการใช้มาตรการมาตรฐานสินค้าเข้ามาดูแลและควบคุมจะทำให้ไทยได้สินค้ามีคุณภาพสูงขึ้นได้

สำหรับ สินค้าที่ไทยได้รับประโยชน์จากกรณีสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนได้แก่ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าที่ไทยเสียประโยชน์ได้แก่ สารเคมี ยา เหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็ก อลูมิเนียม รถยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์ เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ไทยได้รับประโยชน์จากกรณีจีนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ ได้แก่ ผลไม้ ข้าวสาลี ข้าวโพด และผลไม้แปรรูป และ สินค้าที่ไทยเสียประโยชน์ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ถั่วเหลือง ฝ้าย เครื่องบินและชิ้นส่วนอุปกรณ์ เป็นต้น 


ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเสนอแนะให้ไทย สร้างห่วงโซ่การผลิตของจีนกับสหรัฐให้เพิ่มขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงสร้างความร่วมมือทางการค้ากับสหรัฐ เช่น FTA ไทย-สหรัฐ และผลักดัน RCEP หรือ ASEAN + 6 ให้เป็นรูปธรรม ส่วนกรณีที่ไทยสามารถร่วมมือกับทางอาลีบาบานั้น โดยรวมไทยน่าจะได้ประโยชน์จากการเข้าร่วมในการขายสินค้าโดยเฉพาะกลุ่มสินค้า ข้าว ผลไม้เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้