fbpx

เงินบาทอ่อนค่าสวนทางหุ้นไทยเพิ่มขึ้น

กรุงเทพฯ 10 ธ.ค.- เงินบาทอ่อนค่าลงจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาดส่วนหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ว่า เงินบาททรงตัวในกรอบแคบๆ ที่ระดับประมาณ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะทยอยอ่อนค่าในช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้ เงินบาทขยับอ่อนค่าลง หลังจากที่เงินดอลลาร์ฯ ทยอยได้รับแรงหนุนมากขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด เช่น  ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ตลอดจนความหวังต่อมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่สภาคองเกรสสามารถผ่านร่างกฎหมายต่ออายุการจัดสรรเงินทุนเป็นการชั่วคราวให้แก่หน่วยงานรัฐบาล ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐฯ จนถึงวันที่ 22 ธ.ค. นี้ 

ในวันศุกร์ (8 ธ.ค.) ที่ผ่านมาเงินบาทอยู่ที่ 32.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (1 ธ.ค.) สำหรับสัปดาห์ถัดไป (11-15 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.50-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยและเศรษฐกิจปีหน้าของเฟด (12-13 ธ.ค.) ตลอดจนสัญญาณเกี่ยวกับการผลักดันแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ข้อมูลเงินทุนระหว่างประเทศเดือนต.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษ ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย.ของจีน ตลอดจนดัชนี PMI ขั้นต้นประจำเดือนธ.ค. ของประเทศชั้นนำหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน 


ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,706.52 เพิ่มขึ้น 0.40% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณ 2.27% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 52,137.24 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 538.86 จุด ลดลง 1.07% จากสัปดาห์ก่อน ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงต้นสัปดาห์ ท่ามกลางแรงกดดันจากการขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ อย่างไรก็ดี ดัชนี SET กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีแรงหนุนจากเงินลงทุนที่ไหลเข้าใน LTF/RMF อีกทั้งในช่วงปลายสัปดาห์ ยังได้รับปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน 

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (11-15 ธ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,695 และ 1,685 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,720 และ 1,730 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย. ของประเทศแถบยุโรป-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ ส่วนปมหลอกนายกฯ ยืนยันเป็นตำรวจตัวเล็กจะไปทำกับผู้นำประเทศได้อย่างไร ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่กระทบบริหารตำรวจทั่วประเทศ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว