กรุงเทพฯ 31 พ.ค.- “พิชัย” พร้อมผลักดันเงินลงทุนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ย้ำเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่างชาติ ดึงเอกชน รัฐวิสาหกิจ ลงทุนเพิ่ม หวังดันจีดีพีปี 69 โตร้อยละ 4-4.5 เดินหน้าขาดดุลงบประมาณลดลง
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อสภาในการพิจารณาจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท คาดการณ์รายรับ 2.99 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ 8.6 แสนล้านบาท ร้อยละ 4.3 ของจีดีพี โดยรวมยอดการชำระคืนหนี้สาธารณะไปด้วย จำนวน 1.5 แสนล้านบาท นับว่าสุทธิการขาดดุลเพื่อใช้ในด้านต่างๆ เพียงร้อยละ 3.5 ของจีดีพีเท่านั้น และขาดดุลลดลงจากปีก่อน โดยจัดสรรงบประมาณด้านการลงทุน 8.64 แสนล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 22.9 ของยอดงบประมาณทั้งหมด ยอมรับว่าเป็นที่จับตาของหลายฝ่าย จึงตั้งเป้าหมายในปีถัดไป ทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณลดลงต่อเนื่อง เหลือร้อยละ 3.6 ของจีดีพี ในปี 70 และร้อยละ 3.3 ในปี 71 และร้อยละ 3.1 ในปี 72
จากการหารือกับหลายองค์กรระหว่างประเทศ มองว่ารัฐบาลควรขาดดุลงบประมาณในภาวะแบบนี้ควรมีสัดส่วนร้อยละ 3.25 ของจีดีพี ต่างยอมรับการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนงบประมาณประจำ นับลดลงไป 28,000 ล้านบาท นับเป็นสิ่งที่ดี ต้องควบคุมให้ใช้จ่ายลดลงและมีประสิทธิภาพ นับว่างบประจำเบิกจ่ายจริงเพียงร้อยละ 70 จึงควรนำมาปรับใช้เป็นงบด้านลงทุนแทน เมื่อรัฐบาลมุ่งพัฒนาปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ผลักเศรษฐกิจให้เติบโตต่อเนื่องผ่านงบลงทุน ในอดีตจีดีพีไทยเคยเติบโตร้อยละ 6-7 มีเงินลงทุนภาครัฐและเอกชรวมกันร้อยละ 40 ของจีดีพี จึงต้องดึงความเชื่อมั่นเอกชนให้กลับไปลงทุนในระดับเดิมเพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทย
เพื่อทำให้เกิดควาเชื่อมั่น รัฐบาลต้องมุ่งเน้นให้เกิดการลงทุน ทำให้เกิดความมั่นใจกับเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้การใช้งบลงทุน 8.64 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจไทย 19 ล้านล้านบาท นับว่าน้อยมาก จึงต้องดึงงบลงทุนจากรัฐวิสาหกิจและส่วนอื่นๆ เข้ามาร่วมเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพิ่ม ผ่านการลงทุนด้านต่างๆ เพราะการลงทุนภาคเอกชน นับเป็นเครื่องจักรสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทย รัฐบาลจึงต้องมุ่งเน้นในด้านต่างๆ ประกอบด้วย
1.การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การสร้างถนน ท่าเรือน้ำลึก พัฒนาสนามบิน 2 แสนล้านบาทในปี 69
2.การลงทุนพัฒนาระบบน้ำ 1.34 แสนล้านบาท ปรับปรุงทั้งระบบเพื่อยกระดับภาคเกษตร
3.การลงทุนโดยไม่ใช้งบประมาณรัฐ รองรับความต้องการใช้พลังงานอย่างเพียงพอ
4.การแก้ไขกฎระเบียบ อำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ การใช้ที่ดิน ทรัพย์อิงสิทธิในที่ดินของรัฐ เพื่อตั้งโรงงาน ขยายการลงทุนในระยะยาว หากทำให้เกิดความเชื่อมั่น การลงทุนจะไหลเข้ามา รัฐบาลมุ่งผลักดันจีดีพี ท่ามกลางเหตุการณ์ ทรัมป์ 2.0 หวังดันจีดีพีในปี 69 โตร้อยละ 4-4.5 หากเงินเฟ้อร้อยละ 1.5 รัฐบาลยืนยันจัดทำงบประมาณในปี 69 ทำให้เกิดความเชื่อมั่นการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นไปตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มุ่งเน้นดูแลฐานะการเงินของประเทศให้เข้มแข็ง คำนึงถึงการเติบโตเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน.-515-สำนักข่าวไทย