บอร์ด TOP ไฟเขียวเพิ่มงบและดอกเบี้ยอีก 8 หมื่นล้านบาทโครงการ CFP

กรุงเทพฯ 20 ธ.ค.- “บอร์ดไทยออยล์” ไฟเขียวเพิ่มงบประมาณโครงการพลังงานสะอาด (CFP) วงเงิน 63,028 ล้านบาท และดอกเบี้ยระหว่างการก่อสร้างประมาณ 17,922 ล้านบาท เตรียมเสนอเข้าที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 21 ก.พ. ปีหน้า ยืนยันผู้ถือหุ้นและบริษัทฯ ได้ประโยชน์สูงสุด


นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ นัดพิเศษ ครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ได้มีมติเห็นชอบเพิ่มงบประมาณในโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ CFP) ประมาณ 63,028 ล้านบาท และดอกเบี้ยระหว่างการก่อสร้างประมาณ 17,922 ล้านบาท การเพิ่มเงินลงทุนในโครงการ CFP ครั้งนี้ จะนำไปใช้เพื่อการก่อสร้าง การจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ส่วนที่เหลือ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าที่ปรึกษาต่างๆ เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการ CFP ให้แล้วเสร็จ และสามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย ที่เกี่ยวข้อง และประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. เพื่อขอมติจากผู้ถือหุ้นในการอนุมัติการเพิ่มงบประมาณในโครงการ CFP ดังกล่าว

นายบัณฑิต กล่าวว่าโครงการ CFP จะทำให้ไทยออยล์มีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบ 400,000 บาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบัน 275,000 บาร์เรลต่อวัน และสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นโครงการขนาดใหญ่ ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วกว่า 90% เมื่อโครงการสำเร็จจะสามารถตอบโจทย์การเติบโตทางกลยุทธ์ในระยะยาว ทำให้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition) ทำให้ไทยออยล์สามารถแข่งขันได้ และเป็นผู้นำ ในภูมิภาคซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง ก่อให้เกิดผลตอบแทนที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นและบริษัทฯ ในระยะยาว หากโครงการเดินหน้าต่อจะทำให้ซัพพลายเชน รวมถึงบริษัทรับเหมาก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมีงานทำ มีรายได้มาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาการเพิ่มงบรอบนี้นับเป็นครั้งที่2 จากที่เคยเพิ่มงบช่วง โควิด-19 ไปล้ว500 ล้านบาท จากงบรวมก่อสร้างเดิมประมาณ 5,375 ล้านดอลลาร์ (ราวม 182,750 ล้านบาท คิดค่าเงิน ปัจจุบันที่ 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ) โดยปัญหาล่าสุดเกิดจาก ผู้รับเหมาหลักรับเงินก่อสร้างไปแล้ว ไม่จ่ายต่อผู้รับเหมาช่วงทำให้เกิดการหยุดงานประท้วง โครงการก่อสร้างล่าช้า จากเดิมเป้าหมายที่ขยับมาใหม่จะแล้วเสร็จภายในปี 2568 โดยไทยออยล์ระบุดำเนินการบริหารจัดการโครงการอย่างดีที่สุด ทางด้านการเจรจาสัญญา การควบคุมต้นทุน และบริหารความเสี่ยง -511 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“การท่าเรือฯ” ลงนามในสัญญาจ้างเหมาต่อเรือขุดลำใหม่

“มนพร” เร่งรัด “การท่าเรือฯ” ลงนามในสัญญาจ้างเหมาต่อเรือขุดลำใหม่ ทดแทนเรือสันดอน 7 ที่เสื่อมสภาพ หวังเพิ่มศักยภาพด้านการขุดลอก สนองนโยบายกระทรวงคมนาคม ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ – ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์

ตรวจสอบความสัมพันธ์ “โกทร-ส.จ.โต้ง” หลังปรากฏข้อมูลอาจเป็นลูกแท้ๆ

กองปราบฯ เร่งตรวจสอบความสัมพันธ์ “โกทร-สจ.โต้ง” หลังปรากฏข้อมูลว่าอาจเป็นลูกแท้ๆ ของ “โกทร” ที่เกิดจากภรรยาเก่า

ข่าวแนะนำ

อธิบดีกรมที่ดิน ยันไม่ฟ้องการรถไฟฯ ปมที่ดินเขากระโดง

อธิบดีกรมที่ดิน ยันไม่ฟ้องการรถไฟฯ ปมที่ดินเขากระโดง บอกเพิกถอนหรือไม่ หลักฐานต้องชัด 100% ก่อนโพล่งต่างจากคดี “อัลไพน์” เหตุเป็นเรื่องนิติกรรม

โกทร

“สจ.จอย” ลั่นข่าวมั่ว ปม “โกทร-สจ.โต้ง” เป็นพ่อลูกกัน

จากกระแสข่าว “โกทร” และ “สจ.โต้ง” เป็นพ่อลูกกัน ทนายความ “สจ.จอย” ยืนยันไม่เป็นความจริง เป็นแค่ข่าวลือ สอบถามญาติพบว่าพ่อและแม่จริงๆ ของ “สจ.โต้ง” เสียชีวิตไปแล้ว

นายกฯ ไปมหาสารคาม

นายกฯ ลงพื้นที่มหาสารคาม ติดตามแก้ภัยแล้ง-น้ำท่วม

นายกฯ ลงพื้นที่มหาสารคาม ติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม เดินหน้าผลักดันโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน-SML พร้อมเปิดงาน “ออนซอนกลองยาวชาววาปี ของดีพื้นบ้าน สืบสานตำนานเมืองวาปีปทุม 142 ปี”

แผ่นดินไหววานูอาตู

คนไทยเสียชีวิต 1 ราย แผ่นดินไหววานูอาตู

ความคืบหน้าล่าสุดของปฏิบัติการช่วยเหลือและกู้ภัย เหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ในวานูอาตู เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่ม