กรุงเทพฯ 11 ธ.ค.- ลูกหนี้เฮ! รัฐเคาะโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ช่วยลูกหนี้รายย่อย-เอสเอ็มอี พักและยกเว้นดอกเบี้ย 3 ปี แฮคัท หนี้ NPL ไม่เกิน 5,000 บาทต่อราย จ่าย 10% ปิดจบหนี้ ครอบคลุมลูกหนี้ 1.9 ล้านราย ยอดหนี้รวม 8.9 แสนล้านบาท เริ่มลงทะเบียนพรุ่งนี้วันแรก
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือและหนังสือแสดงเจตนารมย์ในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ระหว่างกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและเอสเอ็มอี ซึ่งในช่วงเริ่มต้นการช่วยเหลือจะครอบคลุมลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจ NON-Bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งประกอบด้วย 2 มาตรการ ได้แก่ มาตรการที่ 1 “จ่ายตรง คงทรัพย์” เป็นการช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อบ้าน รถ และ SMEs ขนาดเล็ก โดยลดค่างวดและพักภาระดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งลูกหนี้จะชำระค่างวดขั้นต่ำ 50 70 และ 90% ของค่างวดเดิม ในปีที่ 1 2 และ 3 ตามลำดับ ซึ่งค่างวดที่จ่ายจะนำไปตัดชำระเงินต้นทั้งหมด หากลูกหนี้สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขครบ 3 ปี ซึ่งดอกเบี้ยที่พักไว้ตลอด 3 ปี จะได้รับการยกเว้นทั้งหมด และช่วยให้ภาระหนี้โดยรวมของลูกหนี้ลดลง 1567 โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นสินเชื่อที่ทำสัญญาก่อน 1 ม.ค.2567 และมีสถานะหนี้ ณ 31 ตุลาคม 2567 เป็นหนี้ที่ค้างชำระเกิน กว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 365 วัน หรือเป็นหนี้ที่ไม่ค้างชำระ/ค้างชำระไม่เกิน 30 วัน เคยมีประวัติค้างชำระเกิน 30 วัน และได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตั้งแต่ 1 ม.ค.2565
มาตรการที่ 2 “จ่าย ปิด จบ” เป็นการช่วยลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่ค้างชำระเกิน 90 วัน เป็นหนี้เสีย (NPL) ณ 31 ต.ค.2567 แต่มียอดคงค้างหนี้ไม่สูง ไม่เกิน 5,000 บาท โดยลูกหนี้จะต้องเข้ามาเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อชำระหนี้บางส่วน เบื้องต้น 10% สามารถเข้าร่วมมาตรการได้มากกว่า 1 บัญชี ซึ่งมาตรการนี้จะสามารถเปลี่ยนจากหนี้เสียให้กลายเป็นปิดจบหนี้และเริ่มต้นใหม่ได้เร็วขึ้น
นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน โดยเชื่อว่ามาตรการนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ภาครัฐและเอกชนจึงร่วมกันออกโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและ SMEs ขนาดเล็ก ครอบคลุมลูกหนี้รวมจำนวน 2.1 ล้านบัญชี เป็นลูกหนี้ 1.9 ล้านราย และมียอดหนี้รวมประมาณ 8.9 แสนล้านบาท เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนได้ในวันที่ 12 ธันวาคม 2567 เวลา 8.30 น. ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 23.59 น. เชื่อว่า จะมีคนเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก
นายพิชัย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนไทยอยู่ที่ 16 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้มีสัดส่วนเป็นหนี้ NPL กว่า 1 ล้านล้านบาท คาดว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยลดหนี้ NPL ได้มากกว่า 10%
“ยอมรับเศรษฐกิจไทยปี 67 ซบเซา สภาพัฒน์ฯ ประเมินว่า GDP อยู่ในกรอบ 2.3-2.8 ส่วนปี 68 จะเติบโตแตะถึงระดับ 3% ซึ่งส่วนตัวอยากเห็น GDP ขึ้นไปถึง 3.5% ด้วย“ นายพิชัย กล่าว
ด้านนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นงานที่ ธปท. ให้ความสำคัญและผลักดันมาต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและเศรษฐกิจเติบได้อย่างยั่งยืน โดยโครงการนี้มี 2 จุดสำคัญที่ต่างจากที่ผ่านมา คือ (1) การปรับโครงสร้างหนี้ที่เน้นตัดเงินต้น และลดภาระผ่อนในช่วง 3 ปี เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ (2) การร่วมสมทบเงิน (Co-payment) จากภาครัฐและสถาบันการเงินเพื่อช่วยลดภาระจ่ายของลูกหนี้ โดยชื่อของโครงการนี้สะท้อนความตั้งใจของทุกฝ่าย โดย “คุณสู้” สะท้อนถึงลูกหนี้ที่พร้อมจะสู้ต่อในการแก้ไขปัญหาหนี้ ส่วน “เราช่วย” คือ ภาครัฐและสถาบันการเงินที่พร้อมช่วยเหลือลูกหนี้ เพื่อลดภาระและปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น ความสำเร็จของโครงการนี้ จึงถือเป็นความร่วมมือจากทั้งลูกหนี้ ภาครัฐ และเจ้าหนี้ ในการแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน
ขณะที่นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก พร้อมสนับสนุนภาครัฐในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย และผู้ประกอบธุรกิจรายเล็ก ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้การช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ รวมถึงบริษัทลูกในกลุ่มได้ราว 1.5 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้กว่า 4 แสนล้านบาท โดยการร่วมมือกับภาครัฐเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ภายใต้โครงการนี้ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมธนาคารไทยในการจัดการปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ไม่ทำให้ใครต้องตกไปอยู่นอกระบบจากโครงสร้างหรือข้อจำกัดของระบบ และภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” นั้น ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบอย่างเป็นธรรม กระตุกพลังในการปรับโครงสร้าง เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน
Mr. Giorgio Gamba ประธานสมาคมธนาคารนานาชาติ กล่าวว่า สมาคมธนาคารนานาชาติพร้อมสนับสนุนโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและ SMEs และมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศอย่างเต็มที่ โดยเห็นพ้องกับแนวทางการดำเนินการของโครงการ โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของสถาบันการเงินในการช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการสมทบเงินร่วมกับภาครัฐ (Co-payment) ผ่านกลไกการจัดตั้งแหล่งเงินทุนกลางภายใต้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) โดยสมาคมธนาคารนานาชาติยินดีให้ความร่วมมือและดำเนินการตามโครงการ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางให้สามารถชำระหนี้และไปต่อได้
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ กล่าวว่า สถาบันการเงินของรัฐ พร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ และ ธปท.ในการสนับสนุนโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” อย่างเต็มที่ โดยโครงการนี้จะช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีโอกาสรอดให้สามารถฟื้นตัวกลับมาชำระหนี้ได้ และยังมีการออกแบบกลไกการส่งเสริมวินัยทางการเงินควบคู่กับการป้องกันไม่ให้ลูกหนี้เสียวินัยในการชำระหนี้ด้วย
ทั้งนี้ สถาบันการเงินของรัฐอยู่ระหว่างการหารือกับ ธปท. และกระทรวงการคลัง ในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ลูกหนี้ของกลุ่ม Non-bank รวมถึงการพิจารณามาตรการเพิ่มเติม เพื่อส่งผ่านความช่วยเหลือไปยังลูกหนี้กลุ่มเปราะบางในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งจะไม่ทับซ้อนกับกลุ่มลูกหนี้ของโครงการนี้ ทั้งนี้ คาดว่ามีลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติที่ได้รับความช่วยเหลือผ่านมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและผู้ประกอบการ SMEs ทั้ง 2 มาตรการของสถาบันการเงินของรัฐ จำนวนประมาณ 6 แสนบัญชี คิดเป็นยอดหนี้กว่า 4.5 แสนล้านบาท.-516-สำนักข่าวไทย