สำนักงาน คปภ.เร่งช่วยเคลมสินไหมภาคใต้

กรุงเทพฯ 3 ธ.ค. – สำนักงาน คปภ. เร่งช่วยเคลมสินไหม ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ น้ำท่วมถึงคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อม 25,000-30,000 บาท


จากกรณีพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย ได้ประสบอุทกภัยเนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สิน บ้านเรือน รถยนต์ และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส สำนักงาน คปภ.ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด จึงร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย หน่วยงานภาครัฐ ช่วยเหลือภาคใต้

เบื้องต้นได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) ว่า 1.สำนักงาน คปภ.จังหวัดยะลา ได้รับผลกระทบ 8 อำเภอ 32,830 ครัวเรือน จำนวน 131,685 คน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ตรวจสอบไม่พบข้อมูลการทำประกันภัย บ้านเรือน 71 หลังและอาคารสำนักงานเทศบาลเบตง 1 แห่ง ได้รับความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบการทำประกันภัย ในส่วนของรถยนต์ได้รับความเสียหาย 420 คัน ตรวจสอบพบทำประกันภัย 215 คัน ความเสียหายประมาณ 35,275,000 บาท และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 490 ไร่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบการทำประกันภัยกับสำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา


  1. พื้นที่สำนักงาน คปภ.จังหวัดปัตตานี ได้รับผลกระทบ 12 อำเภอ มีประชาชนได้รับผลกระทบ 147,002 ครัวเรือน จำนวน 428,223 คน มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบข้อมูลการทำประกันภัย บ้านเรือนจำนวน 216 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 71,721 ไร่ ด้านการประมง จำนวน 238 ราย ความเสียหายประมาณ 26,897,000 บาท ด้านปศุสัตว์ 362,203 ตัว ในส่วนของรถยนต์ได้รับความเสียหาย 33 คัน มีประกันภัยกับบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 3 คัน และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) 30 คัน
  2. พื้นที่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน คปภ. จังหวัดนราธิวาส ได้รับผลกระทบ 13 อำเภอ จำนวน 94,189 ครัวเรือน 343,154 คน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบข้อมูลการทำประกันภัย ในส่วนของรถยนต์ได้รับความเสียหาย 3 คัน อยู่ระหว่างการตรวจสอบการทำประกันภัย บ้านเรือน จำนวน 19 หลัง พื้นที่เกษตรเสียหาย 3,726 ไร่ ปศุสัตว์ 60,432 ราย
  3. พื้นที่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน คปภ.จังหวัดสงขลา ได้รับผลกระทบ 16 อำเภอ จำนวน 212,727 ครัวเรือน 542,827 คน บ้านเรือนเสียหาย 1,594 หลัง พื้นที่การเกษตร 10,818 ไร่ บ่อปลา 1,751 บ่อ มีผู้เสียชีวิต 8 ราย สูญหาย 1 ราย บาดเจ็บ 10 ราย ตรวจสอบเบื้องต้นมีการทำประกันภัยอุบัติเหตุ จำนวน 1 ราย ทุนประกันภัยจำนวน 100,000 บาท มีรถยนต์ที่ได้รับแจ้งความเสียหายจากบริษัทประกันภัย จำนวน 433 คัน

สำนักงาน คปภ.จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่สำนักงาน คปภ. จังหวัด เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำช่วยเหลือด้านการประกันภัยที่ประสบภัยน้ำท่วม เช่น บ้านเรือน รถยนต์ การประกันชีวิต การประกันภัยอุบัติเหตุ เป็นต้น รวมทั้งดูแลป้องกันทรัพย์สินของสำนักงานไม่ให้ได้รับความเสียหายด้วย นอกจากนี้สำนักงาน คปภ. ภาคและจังหวัดได้ร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย (สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินจังหวัด) ลงพื้นที่บริจาคเครื่องอุปโภค-บริโภคให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการประกันภัยอัคคีภัย ความคุ้มครองเกี่ยวกับภัยน้ำท่วม และการทำประกันภัยเพื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบริหารความเสี่ยงให้กับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน ตลอดจนติดต่อประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ ผ่านช่องทางเพจ เฟซบุ๊ก ไลน์ ให้ประชาชนทราบในเบื้องต้นแล้ว

สำนักงาน คปภ. ขอให้ประชาชนผู้เอาประกันภัยที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยที่ได้ซื้อไว้ว่าให้ความคุ้มครองภัยน้ำท่วมหรือไม่ ได้แก่ การประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 การประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน การประกันอัคคีภัยที่ซื้อความคุ้มครองน้ำท่วมเพิ่มเติม และการประกันภัยพืชผลทางการเกษตร เช่น การประกันภัยข้าวนาปี การประกันภัยทุเรียน ในส่วนของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ให้ยึดถือแนวปฏิบัติตามมาตรฐานการซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งแบ่งเป็น 5 ระดับ คือ ระดับ A น้ำท่วมถึงพื้นรถยนต์ ประเมินค่าซ่อม 8,000-10,000 บาท ระดับ B น้ำท่วมถึงเบาะนั่ง ประเมินค่าซ่อม 15,000-20,000 บาท ระดับ C น้ำท่วมถึงส่วนล่างของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อม 25,000-30,000 บาท ระดับ D น้ำท่วมถึงส่วนบนของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อมเริ่มต้นที่ 30,000 บาทขึ้นไป และ ระดับ E รถยนต์จมน้ำทั้งคันซึ่งในกรณีนี้บริษัทจะคืนทุนประกันภัยให้กับผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์

หากมีข้อสงสัยเรื่องประกันภัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th หรือ สำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) 0-7425-2105 ต่อ 106 E-mail : Region09@oic.or.th.-515 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

วธ.เผย ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567

รัฐบาลจัดพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว อย่างยิ่งใหญ่

พระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ววันนี้ พร้อมริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนเปิดให้ประชาชนสักการะ พรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก

เปิดนาทีระทึก! เรือบรรทุก ชนเรือนำเที่ยวกลางเจ้าพระยา

ระทึก เรือพ่วงบรรทุก เฉี่ยวชนเรือนำเที่ยว จอดเทียบริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานกรุงเทพฯ ทำให้เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่เสียหาย 5 ลำ เรือเล็กจมอีก 1 ลำ