19 ธ.ค. – “พีระพันธุ์” ลุยติดตามสถานการณ์น้ำท่วม 3 จังหวัดภาคใต้ ชุมพร-สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช พร้อมพบปะให้กำลังใจประชาชนใน 9 พื้นที่ สั่งเตรียมความพร้อมและประสานงานทุกภาคส่วน มุ่งฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดทางภาคใต้ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนในหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งตนได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหาจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช ได้แก่ 1.โรงเรียนวัดปากด่าน ต. สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร 2.โรงเรียนครนพิทยาคม ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร 3. เทศบาลบ้านนาโพธิ์ ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร 4.โรงเรียนทุ่งตะโก ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร 5.ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยชั่วคราว บ้านบ่อน้ำร้อน ม.5 ต.กรูด อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฏร์ธานี 6.วัดปากคู ต.ช้างซ้าย จ.สุราษฎร์ธานี 7.โรงครัวชั่วคราว สี่แยกกาญจนดิษฐ์ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี 8.โรงเรียนบ้านเผียน ต.เทพราช อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 9.วัดคงคาเลียบ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พร้อมสั่งการให้หน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมทั้งหน่วยงานในกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน เร่งประสานงานให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
“น้ำท่วมคราวนี้หนักมาก แม้จะเป็นลักษณะมาเร็วไปเร็ว แต่ก็มาหนัก มาแรง มาเยอะ และมีปริมาณน้ำมากกว่าทุก ๆ ปี ไล่ตั้งแต่ชุมพรลงไป พื้นที่บางแห่งแม้วันนี้จะไม่มีน้ำท่วมแล้ว แต่ก็ทิ้งความเสียหายไว้มาก ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง บ้านเรือนที่อยู่อาศัย รวมทั้งโรงเรียนของเด็ก ๆ ที่ไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ และที่สำคัญคือมีผู้เสียชีวิต ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบและสูญเสียในครั้งนี้ด้วย” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราต้องช่วยกันวันนี้ก็คือ การฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน และขอขอบคุณทุก ๆ ฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือ ทั้งทางด้านกองทัพที่ส่งทหารมาช่วยฟื้นฟู และทาง อบต. ที่พยายามจัดงบประมาณเร่งด่วนมาทําความสะอาดโรงเรียน ตลอดจน สส.ในพื้นที่และผู้ประกอบการหลายรายที่ได้จัดหาเครื่องอุปโภคบริโภค รวมไปถึงวัตถุดิบในการทําอาหารมาดูแลประชาชน
“ ในส่วนของกระทรวงพลังงานที่ผมรับผิดชอบอยู่ ก็ต้องขอบคุณทาง ปตท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่ได้กรุณาจัดถุงยังชีพไปช่วยพี่น้องประชาชน น้ำท่วมครั้งนี้ก็ต้องยอมรับว่าหนักมาก ในหลายพื้นที่ก็เคยรุนแรง แต่ก็ไม่รุนแรงเท่านี้ ถึงแม้จะไปเร็ว แต่สร้างความเสียหายทิ้งไว้เยอะ เหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันคนละไม้ละมือ และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่บริจาคสิ่งของมา รวมทั้งหน่วยราชการทุกภาคส่วนที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือ อย่างน้อยก็ทำให้พี่น้องชาวภาคใต้ก็รู้สึกมีขวัญกําลังใจ ซึ่งก็ต้องช่วยดูแลกันต่อไปครับ” นายพีระพันธุ์กล่าว. -517-สำนักข่าวไทย