ลุย ‘ไฮสปีด 3 สนามบิน’ ย้ำชัด! ไม่แก้สัญญาเอื้อเอกชน

กรุงเทพ 24 ต.ค.- “สุริยะ” พร้อมเดินหน้าโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ย้ำชัด! “ไม่แก้สัญญาเพื่อเอื้อเอกชน” ยึดประโยชน์ประชาชน-ประเทศชาติเป็นหลัก มั่นใจปรับปรุงสัญญารัฐไม่เสียเปรียบ


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ออกมากล่าวอ้าง พร้อมกับโพสต์ในสื่อออนไลน์ โดยระบุว่า ตนจะไม่แก้ไขสัญญาโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนั้น เป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อนของนายสุรเชษฐ์

โดยตนขอชี้แจงว่าในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 ที่กล่าวตอบข้อซักถาม ของนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ไปอย่างชัดเจน ว่า ตนไม่มีนโยบายในการแก้ไขสัญญา “เพื่อเอื้อเอกชน” อย่างแน่นอน ซึ่งในขณะนั้น ทางเอกชนจะขอเปลี่ยนสัญญา เป็นรูปแบบทำไปจ่ายไป โดยไม่มีหลักค้ำประกัน ซึ่งผมเห็นว่ามีความเสี่ยงต่อการทิ้งงานและจะก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง


ขณะเดียวกันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้มีความคิดเห็นตรงกันว่า โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโครงการที่มีประโยชน์มหาศาลทั้งในพื้นที่ EEC และประเทศชาติ และต้องการให้การดำเนินโครงการไม่หยุดชะงัก ดังนั้นทุกฝ่ายจึงได้มีหารือกัน เพื่อให้โครงการฯ ดำเนินการต่อได้ โดยมีความโปร่งใสทุกขั้นตอนและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

หลังจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้าไปเจรจากับภาคเอกชน จนได้ข้อสรุปการแก้ไขปรับปรุงสัญญาที่เหมาะสม ให้บรรลุข้อตกลงให้โครงการสำเร็จตามแผน โดยระบุให้เอกชนต้องวางหลักค้ำประกันความสำเร็จของการเปิดเดินรถไฟในโครงการดังกล่าว โดยหากเอกชนทำไม่สำเร็จทางรัฐจะยึดหลักประกันทันที เพื่อนำมาสานต่อโครงการให้สำเร็จต่อไป

นายสุริยะ กล่าวเพิ่มว่า การปรับปรุงสัญญาครั้งนี้ “ไม่ได้เอื้อต่อเอกชน” แต่ทำเพื่อให้โครงการดังกล่าวสำเร็จและประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด โดยรัฐจะไม่เสียหายอย่างแน่นอน .513.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย