กระทรวงเกษตรฯ 4 ก.ย.-ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว
และ เลขาธิการ ส.ป.ก.ชี้แจงตรงกันว่า ตามปกติของที่ดิน
ส.ป.ก.จะไม่มีน้ำประปาและไฟฟ้าใช้ จนกว่าจะมีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยอย่างเป็นรูปธรรมและขอน้ำ
ขอไฟ จากทางการได้ในอนาคต
กรณีชาวบ้านหมู่ 14 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
ร้องเรียนว่าภายหลัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ได้เดินทางมามอบหนังสืออนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือส.ป.ก.
โดยจัดสรรให้เกษตรผู้ยากไร้ รายละ 6 ไร่ แยกเป็นแปลงที่อยู่อาศัย 1 ไร่
แปลงเกษตรกรรม จำนวน 5 ไร่ รวม 63 ราย
ซึ่งมีการสร้างถนนทางเข้าหมู่บ้าน ทำระบบประปา โดยสูบน้ำบาดาลมาใช้ได้
ส่วนไฟฟ้าได้ติดตั้งเสาไฟฟ้าตลอดข้างทางเข้าไปในหมู่บ้าน สามารถใช้กระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ
แต่หลังนายกรัฐมนตรีกลับไปแล้วเพียงข้ามคืน เสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้าถูกรื้อกลับหมด
น้ำประปาถูกตัดขาด ชาวบ้านไม่มีน้ำรดต้นไม้และพืชผักที่ปลูกไว้ เริ่มเหี่ยวเฉา
วัวที่เลี้ยงไม่มีน้ำให้กิน เหมือนว่า
การมาเยือนของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ชาวบ้านถูกหลอก คล้ายผักชีโรยหน้านั้น
นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว
ร่วมกับนายสมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการ ส.ป.ก. ได้ร่วมกันชี้แจงต่อผู้สื่อข่าว
โดยนายสมปอง ระบุว่า ที่ดิน ส.ป.ก.ตามปกติแล้วจะยังไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้าใช้
เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยที่จังหวัดสระแก้ว
ได้มอบที่ดินทำกินไปเพียง 3,000 ไร่จากทั้งหมดที่มีอยู่ 30,000 ไร่
ส่วนนายกล้าณรงค์ ระบุว่า
การจะมีไฟฟ้าหรือน้ำประปาใช้ได้ในเขตที่ดิน
ส.ป.ก.นั้นจะต้องมีสิ่งปลูกสร้างขึ้นมาก่อน
จึงจะมีการติดตั้งเสาไฟฟ้าและระบบประปาตามมาซึ่งขณะนี้มีเพียงการก่อสร้างที่พักอาศัยเพียง
4 หลังเท่านั้น
ส่วนอีก 59
หลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง คาดว่าการออกทะเบียนบ้านชั่วคราวและการขอไฟฟ้า
ขอน้ำประปา
จะมีขึ้นภายในเดือนกันยายนนี้ซึ่งจากข่าวที่ออกมามันเกินความจริงและชาวบ้านโดยส่วนใหญ่ก็รับรู้ว่า
ทั้งไฟฟ้า ทั้งน้ำประปาจะมาเมื่อไหร่ หลังจากได้รับทะเบียนบ้านชั่วคราว
เพื่อไปขอน้ำประปาและไฟฟ้าจากหน่วยงานราชการต่อไป-สำนักข่าวไทย
