กมธ.ไอซีที ฝากการบ้าน สว.ชุดใหม่

รัฐสภา 25 มิ.ย.- กมธ.ไอซีที ฝากการบ้าน สว.ชุดใหม่ สานต่อคุมเข้ม อาชญากรรมทางไซเบอร์ ทั้งระงับหมายเลข แก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษ แนะธนาคารทำแอปฯ ตรวจสอบใบหน้า แก้ไขปัญหาบัญชีม้า หลังมีเหยื่อออนไลน์หนักขึ้นทุกวัน


พล.อ. อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา ประชุมนัดสสุดท้าย สำหรับ กมธ.ไอซีที จึงฝากการบ้านให้ สว.ชุดใหม่ สานต่อมาตรการป้องกันและปราบปราม อาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cybercrime) ผ่านหลายแนวทาง ประกอบด้วย

  1. กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลผู้ประกอบการโทรคมนาคมต้องมีมาตรการบังคับให้ค่ายมือถือปฏิบัติตามพระราชกำหนดฯ อาทิ การระงับเลขหมายที่ใช้ในการกระทำความผิดในทันที เพื่อมิให้นำไปใช้หลอกลวงประชาชนอีกต่อไป และบังคับใช้มาตรการ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมให้รับผิดชอบชิมการ์ดของตนเองทุกเลขหมาย
  2. กสทช. ควรใช้อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมาย กำหนดหลายมาตรการดูแลค่ายมือถือ
  3. หลายหน่วยงาน ทั้งภาคธนาคาร ภาคโทรคมนาคม และตำรวจไซเบอร์ ร่วมดูแลผู้ประสบเหตุหลอกลวงออนไลน์ มาตรฐานเดียวกัน
  4. มาตรการป้องกันและปราบปราม ควรนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้เกิดความรวดเร็วแม่นยำ ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ทันเหตุการณ์
  5. หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องควรประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยแจ้งความคืบหน้าการติดตามตัวผู้กระทำความผิดหรือการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายในแต่ละกรณีให้สาธารณชนรับทราบ เตือนประชาชนทุกช่องทาง เช่น บิลบอร์ดบนทางด่วนหรือตามสี่แยก รวมทั้งในบริเวณพื้นที่ส่วนราชการต่าง ๆ
  6. ควรประชาสัมพันธ์หมายเลขแจ้งเหตุของทุกธนาคาร เพื่อให้ช่วยแจ้งระงับธุรกรรมได้อย่างทันท่วงที หลายหน่วยงาน ควรเผยแพร่ ข้อมูลการจับกุม การลงโทษ วิธีการหลอกลวง แนวทางการป้องกัน และข้อมูลอื่น ๆ ที่ประชาชนตระหนักถึงผลเสียหาย ตื่นรู้ ป้องกันตนเอง
  7. ภาคธนาคารควรจัดทำแอปพลิเคชัน ตรวจสอบใบหน้าผู้รับโอนเงิน ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องบัญชีม้าได้อย่างดี.
  8. ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานการทำงานระหว่างกันและอาศัยหน่วยงานที่มีอำนาจให้ช่วยดำเนินการทันทีไปพลางก่อน การแก้ไข พ.ร.ก.ป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์ เพราะการหลอกลวงยังเกิดขึ้นทุกวัน นายกรัฐมนตรี ต้องลงมาสั่งการด้วยตนเอง เพราะปัญหาหนักขึ้นอย่างมาก
  9. ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายในขั้นต้นจนกว่าคดีจะถึงที่สุด คล้ายกับกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่าง ๆ
    10.ประเทศไทยควรเป็นผู้นำในการก่อตั้งองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับอาเซียน ผ่านเวทีประชุมนานาชาติ เพราะไทยได้รับความเดือดร้อน เสียหายมากหลายหมื่นล้านบาท โดยเสนอผ่านกระทรวงการต่างประเทศนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการอาเซี่ยนในกรอบที่เกี่ยวข้อง คณะทำงาน WG-AS ผลักดันการประชุมระดับต่าง ๆ เพื่อเสนอระดับผู้นำประเทศ โดยนำแนวทางของ EU มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของอาเซียน
  10. ดาวเทียมวงโคจรต่ำ มีประโยชน์สำหรับอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล จึงต้องระวังหากมีการนำมาใช้ในการหลอกลวงประชาชน ปัจจุบันยังไม่มีการอนุญาตให้บริการดาวเทียมวงโคจรต่ำในประเทศไทย จึงต้องหาแนวทางป้องกัน
  11. การเร่งรัดให้ ยืนยันตัวตนหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนทั้งหมด เพื่อให้ธนาคาร ตรวจสอบรายชื่อเจ้าของซิมการ์ดจากเลขหมายบัตรประชาชน กรณีชิมการ์ด จดทะเบียนในนามบริษัท ต้องระวังมิจฉาชีพเริ่มใช้ชิมการ์ดของบริษัทนิติบุคคล ใช้โทรหลอกลวงออนไลน์
  12. การใช้โทรศัพท์หลอกลวงหรือการโอนเงินออกจากบัญชี สามารถสืบค้นต้นตอหรือร่องรอยที่มาที่ไปได้ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือพิจารณาจากความเป็นเจ้าของชิมการ์ดและเจ้าของบัญชี.-515 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร