ไขข้อสงสัย ที่มาราคาหุ้น IPO

11 เม.ย. – ราคาหุ้น IPO ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนตัดสินใจว่าจะจองซื้อหุ้นหรือไม่ ซึ่งการที่จะรู้ว่าราคามีความเหมาะสมหรือไม่ก็ต้องศึกษา รู้ที่มาที่ไปว่าทำไมถึงกำหนดออกมาเป็นราคานี้


ถ้าพูดถึงราคาหุ้น IPO ทุกวันนี้ยังมีนักลงทุนสงสัยและมีคำถามว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีส่วนร่วมในการกำหนดราคาหุ้น IPO ด้วยหรือไม่ ซึ่งความจริงนั้นทั้งสองหน่วยงานไม่มีหน้าที่หรือมีส่วนร่วมในการกำหนดราคาหุ้น IPO เลย ผู้ที่มีส่วนร่วมในการกำหนดราคาหุ้น IPO มี 3 ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (Lead Underwriter) ที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor หรือ FA) และบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ (Issuer)

สำหรับการกำหนดราคาหุ้น IPO นั้น จะมี 2 ลักษณะ คือ หากเป็นกรณีที่มีการเสนอขายให้กับนักลงทุนประเภทสถาบัน ก็จะมีกระบวนการสำรวจความต้องการจองซื้อหุ้นของนักลงทุนสถาบันหรือที่เรียกกันว่า Book Building โดยผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ จะร่วมกันกำหนดช่วงราคา IPO (IPO Price Range) ที่จะเสนอขายต่อนักลงทุนสถาบัน เช่น กำหนดช่วงราคา 5.00 – 5.50 บาท


จากนั้นก็จะส่งแบบฟอร์มแสดงความสนใจที่จะจองซื้อหุ้น IPO (Book Building Form) ไปให้นักลงทุนสถาบัน โดยนักลงทุนสถาบันที่สนใจจะส่งแบบฟอร์มกลับมา พร้อมทั้งระบุระดับราคาที่สนใจและระบุจำนวนหุ้นที่ต้องการในแต่ละระดับราคามาด้วย

โดยผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์จะรวบรวมแบบฟอร์มแสดงความสนใจฯ ที่ได้รับกลับมาจากนักลงทุนสถาบัน เพื่อนำมาสรุปว่าในแต่ละระดับราคา นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจและมีความต้องการที่จะจองซื้อหุ้นจำนวนมากน้อยเพียงใด และนำผลสรุปดังกล่าวมาพิจารณากำหนดเป็นราคา IPO ร่วมกับบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์

ดังนั้น การทำ Book Building เป็นการนำกลไกตลาด (Market Mechanism) ที่มี Demand และ Supply เข้ามาช่วยในการกำหนดราคา ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การตั้งราคาหุ้น IPO มีความเหมาะสม เพราะนักลงทุนสถาบันจะเป็นผู้ให้ข้อมูลว่าราคาใดอยู่ในระดับที่นักลงทุนสถาบันสนใจซื้อและคิดว่าเหมาะสม


ลักษณะที่ 2 เป็นกรณีที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ประเมินแล้วว่า อาจไม่มีนักลงทุนสถาบันให้ความสนใจ เนื่องด้วยขนาดหรือด้วยลักษณะธุรกิจของบริษัทก็ตาม จึงเสนอขายให้นักลงทุนทั่วไปได้เท่านั้น กระบวนการทำ Book Building ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะการทำ Book Building จะทำกับนักลงทุนสถาบันเท่านั้น ดังนั้น การกำหนดราคาหุ้น IPO ของกรณีนี้ ผู้จัดการการจำหน่ายหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ จะร่วมกันพิจารณากำหนดราคา IPO ที่เหมาะสมที่จะเสนอขายให้กับนักลงทุน หรือที่เรียกว่า Fixed Price

นอกจากนี้ ที่มาในการกำหนดราคาหุ้น IPO ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ ค่า P/E Ratio (อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น) มาพิจารณา โดยเปรียบเทียบค่า P/E Ratio ของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ทำธุรกิจประเภทเดียวกัน หรือมีลักษณะธุรกิจเหมือนหรือคล้ายคลึงกัน

โดยค่า P/E Ratio จะมี 2 ประเภท ได้แก่ P/E Ratio ที่ใช้ผลการดำเนินงานของบริษัท 4 ไตรมาสย้อนหลังมาคำนวณ ซึ่งจะได้ค่าในอดีต หรือเรียกว่า Historical P/E โดยนักลงทุนสามารถดู Historical P/E ของบริษัทจดทะเบียนได้จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือใน Trading Application ของบริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ ได้เป็นการทั่วไป

สำหรับ P/E Ratio ที่ใช้ผลการดำเนินงาน EPS ของบริษัทในอนาคตมาคำนวณ หรือที่เรียกว่า Forward P/E จะเป็นค่าที่จะสะท้อนการเติบโตในอนาคตของบริษัท โดยในเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในแบบไฟลลิ่งหรือหนังสือชี้ชวนจะไม่มีค่า Forward P/E แสดงอยู่ เนื่องจากเป็นการใช้ตัวเลขผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัทมาคำนวณ ดังนั้น โดยทั่วไปแล้วจะเห็น Forward P/E ในบทวิเคราะห์ ซึ่งนักวิเคราะห์จะเป็นผู้ประเมินและจัดทำประมาณการผลการดำเนินงานของบริษัทออกมา

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ใช้ในการพิจารณา คือ ดูการเติบโตของธุรกิจโดยรวม การเติบโตของยอดขายและกำไรสุทธิจะเติบโตได้มากน้อยเพียงใดในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า ความเป็นผู้นำในธุรกิจ ความสามารถในการทำกำไร ไม่ว่าจะเป็นอัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรสุทธิ ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น รวมถึงอัตราหนี้สินต่อทุน ที่จะรองรับการเติบโตได้ในอนาคต

โดยผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ก็จะนำข้อมูลข้างต้นเหล่านี้มาพิจารณาเพื่อกำหนดช่วงราคา IPO หรือราคา IPO ที่เหมาะสมต่อไป เช่น หากประเมินแล้วว่าบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์มีการดำเนินธุรกิจที่เติบโตสูงกว่า ความสามารถในการทำกำไรดีกว่า ก็ควรมีค่า P/E Ratio ที่สูงกว่า

ในทางกลับกัน หากบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์มีการดำเนินธุรกิจที่มีการเติบโตต่ำกว่า ความสามารถในการทำกำไรน้อยกว่า ก็ควรมีค่า P/E Ratio ที่ต่ำกว่า ซึ่งมีผลต่อการกำหนดราคาหุ้น IPO โดยอยากจะให้นักลงทุนเข้าใจว่า P/E Ratio สูงไม่ได้หมายความว่าหุ้นแพงเสมอไป และ P/E Ratio ต่ำก็ไม่ได้หมายความว่าหุ้นถูกเสมอไปเช่นกัน นักลงทุนต้องเข้าไปพิจารณาให้ถ่องแท้ว่าสาเหตุที่ P/E Ratio สูงนั้น สูงเพราะอะไร P/E Ratio ต่ำ ต่ำเพราะอะไร เมื่อทราบถึงสาเหตุแล้วก็จะสามารถสรุปผลได้ว่าหุ้นแต่ละตัวถูกหรือแพง

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมักจะได้ยินเสมอว่า ราคาหุ้น IPO ที่กำหนดขึ้นมาเป็นราคาที่มีส่วนลด (Discount) ส่วนการที่จะให้ส่วนลดมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภาวะตลาดโดยรวม แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ ปริมาณและความต้องการและความสนใจของนักลงทุน เช่น ในช่วงที่ตลาดไม่ดี มีความผันผวนสูง นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน ในการกำหนดราคาอาจให้ Discount มากพอสมควร เช่น 20 – 30%

ถ้าในภาวะที่ตลาดสดใส นักลงทุนมีความเชื่อมั่น มีความสนใจสูงก็อาจจะให้ Discount ที่ลดลง ทั้งนี้การกำหนดราคาและให้ส่วนลดไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การตั้งราคาของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ในแต่ละกรณี แต่ละสถานการณ์

การที่ราคา IPO มี Discount ก็เพื่อทำให้หุ้นมีความน่าสนใจและลดความเสี่ยงให้กับนักลงทุน รวมทั้งเพื่อให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมในการลงทุน ยกตัวอย่างเช่น บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์กับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ดำเนินธุรกิจเดียวกัน มีอัตราการเติบโต มีความสามารถในการทำกำไร และมีอัตราส่วนทางการเงินที่เหมือนกันทุกประการ

คำถาม คือ ถ้าบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ตั้งราคาเสนอขายหุ้น IPO เท่ากับ Valuation ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจองซื้อหุ้น IPO ของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ เพราะสามารถที่จะซื้อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่เหมือนกันในตลาดหลักทรัพย์ได้ทันที และไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาด เช่น สมมติว่า ตลาดหุ้นเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันทำให้ตลาดปรับลดลง นักลงทุนก็สามารถขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงได้ทันที แต่ถ้าจองซื้อหุ้น IPO และมีปัจจัยลบเข้ามากระทบและส่งผลต่อตลาดหุ้นโดยรวมในช่วงวันจองซื้อหุ้น ก็อาจทำให้นักลงทุนมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจจองซื้อหุ้น IPO นักลงทุนควรศึกษาและอ่านข้อมูลจากหนังสือชี้ชวน บทวิเคราะห์ เพื่อให้เข้าใจธุรกิจ โอกาสและการเติบโตในอนาคต รวมถึงความเสี่ยงของบริษัท เพื่อดูให้แน่ใจว่าราคาหุ้น IPO เหมาะสมแล้วหรือไม่ ซึ่งบทวิเคราะห์ก็จะเป็นตัวช่วยให้กับนักลงทุน สามารถทราบราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ได้ประเมินเอาไว้ รวมถึงประเมินข้อมูลอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น P/E Ratio อัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ รวมถึงติดตามการให้ข้อมูลจากผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ เช่น การจัดโรดโชว์นำเสนอข้อมูลของผู้ออกหลักทรัพย์ รวมถึงการประเมิน Valuation ที่เหมาะสม

สุดท้ายนี้ อยากจะให้ข้อคิดกับนักลงทุนว่า เวลาซื้อของสักชิ้น เช่น โทรศัพท์มือถือก็ยังต้องดูแล้วดูอีกว่าจะซื้อยี่ห้อไหน แต่ละรุ่นใช้งานอะไรได้บ้าง เปรียบเทียบราคา และคุณสมบัติของแต่ละยี่ห้อ ดังนั้น เวลาจองซื้อหุ้น IPO ก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วนเหมือนซื้อของด้วยเช่นกัน

และอย่าลืมว่า การลงทุนในหุ้นเป็นการซื้ออนาคต ดังนั้น ทุกข้อมูลจึงมีความสำคัญในการประเมินการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคตว่าเป็นอย่างไร เพราะถ้าประเมินถูกต้องก็จะรู้ว่าราคาหุ้น IPO นั้นถูกหรือแพง

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจลงทุนหุ้น IPO การศึกษาข้อมูลและรายละเอียดก่อนลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่อยู่ระหว่างคำขอเข้าจดทะเบียน (Upcoming IPO) รอเสนอขาย และสามารถดาวน์โหลดหนังสือชี้ชวน รวมถึงบทวิเคราะห์ ได้ฟรี!!! ที่ >> คลิกที่นี่

และสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ที่อยากเรียนรู้และทำความเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น ตลอดจนการนำแนวคิดและขั้นตอนในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมาใช้เพื่อคัดกรองบริษัทที่มีพื้นฐานดีเหมาะแก่การลงทุน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “ลงทุนหุ้นมั่นใจ ต้องเข้าใจปัจจัยพื้นฐาน” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่

บทความโดย สมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้