ขนส่งทางรางฯ ไล่บี้แก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเหลือง

กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – กรณีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองขัดข้อง วันนี้กรมการขนส่งทางรางลงพื้นที่กำชับเอกชนผู้สัมปทาน เร่งดำเนินการแก้ไข สั่งเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบซ่อมบำรุง และหาแนวทางป้องกันเหตุเกิดซ้ำ


นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทาง ลงพื้นที่ติดตามวิเคราะห์หาสาเหตุและการแก้ไขปัญหาการเดินรถ หลังเหตุแผ่นเหล็ก พร้อมทั้งชิ้นส่วนอุปกรณ์ยึดรางนำไฟฟ้า ร่วงลงสู่พื้นด้านล่าง ส่งผลให้รางนำไฟฟ้า ของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองหลุดร่วงด้านในค้างอยู่ด้านบนทางเดินยกระดับ หรือ walkway ระหว่างสถานีกลันตัน ถึงสถานีศรีอุดม เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา โดยบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด หรือ EBM ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า ได้ปรับการบริการเดินรถไฟฟ้าแบบไม่เต็มรูปแบบ

-สถานีลาดพร้าว-สถานีหัวหมาก เดินรถปกติ มีความถี่ในการเดินรถ 10 นาที/ขบวน และช่วงเวลาเร่งด่วน 5 นาที/ขบวน
-สถานีศรีเอี่ยม-สถานีสำโรง เดินรถปกติ ความถี่ในการเดินรถ 10 นาที/ขบวน
-ส่วนช่วงสถานีหัวหมาก-สถานีศรีเอี่ยม ความถี่ในการเดินรถ 25 นาที/ขบวน


โดยผู้โดยสารเปลี่ยนถ่ายขบวนรถไฟฟ้าที่สถานีศรีเอี่ยมและสถานีหัวหมาก ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางช่วงสถานีหัวหมากถึงสถานีศรีเอี่ยม ต้องรอขบวนรถนานกว่าปกติ

ทั้งนี้ ผู้โดยสารกรุณาเผื่อเวลาในการเดินทาง โดยผู้โดยสารสามารถติดตามเวลาขบวนรถไฟฟ้าที่สถานีต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน THE SKYTRAINS และหากมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องเส้นทางการให้บริการรถไฟฟ้ามหานครสายสีเหลือง จะแจ้งให้ทราบต่อไป พร้อมทั้งปรับลดค่าโดยสารร้อยละ 20 จนกว่าจะเดินรถได้ตามปกติ

อธิบดีกรมราง บอกด้วยว่า จากการลงพื้นที่พบว่าน็อตที่ยึดแผ่นบริเวณรอยต่อรองรับการขยายตัวเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของคานทางวิ่ง หลุดและขาดออกจากตำแหน่งที่ติดตั้ง ระหว่างสถานีสวนหลวงกับสถานีศรีอุดมฝั่งทิศทางมุ่งหน้าปลายทางสถานีสำโรง ส่งผลให้แผ่นเหล็กดังกล่าวหล่นลงมาที่พื้นด้านล่างจำนวน 1 ชิ้น


ดังนั้น กรมการขนส่งทางรางได้เน้นย้ำให้ EBM ตรวจสอบสภาพการขันรอบของน็อตที่ยึดแผ่นเหล็ก หรือบริเวณ expansion joint ของคานทางวิ่งทั้งหมด พร้อมทั้งพิจารณาเปลี่ยนน็อต บริเวณดังกล่าวทั้งหมดตลอดเส้นทาง และพิจารณาติดตั้งอุปกรณ์ยึดรางนำไฟฟ้าให้มีความมั่นคงแข็งแรงและอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน พร้อมทั้งดำเนินการเคลื่อนย้ายรถไฟฟ้าที่ยังคงติดค้างระหว่างสถานีบนเส้นทาง และติดตั้งรางนำไฟฟ้าให้กลับมาอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน และเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบบริเวณ expansion joint เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ