ไทย รุกมณฑลเจ้อเจียง วางกรอบร่วมมือกันไว้ 4 ด้านหลัก

นนทบุรี 18 พ.ย.-รมว.พาณิชย์ ปลื้มหลังพบเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประจำมณฑลเจ้อเจียง แจ้งข่าวดี 2 ฝ่ายพร้อมร่วมมือการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยวางกรอบความร่วมมือระหว่างกัน 4 ด้านสำคัญ หวังขยายมูลค่าการค้าและการลงทุน เชื่อเป็นดันเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนได้แน่

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการให้การต้อนรับ และหารือทวิภาคีร่วมกับ นายอี้ เลี่ยนหง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประจำมณฑลเจ้อเจียง สำหรับการเยือนไทยครั้งแรก เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ว่าเป็นโอกาสอันดีที่ได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันภายหลังจากที่นายเชี่ย เป่าหลง อดีตเลขาธิการพรรคฯ มณฑลเจ้อเจียง ได้เยือนไทย เมื่อ 6 ปีที่แล้ว และยินดีต่อความสำเร็จของนครหางโจวและมณฑลเจ้อเจียงในการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 19 และเอเชี่ยนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา


อย่างไรก็ตาม การพบปะกันครั้งนี้ได้ให้ความสำคัญกับการเพิ่มพูนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความร่วมมือระดับมณฑล เนื่องด้วยนักลงทุนจากเจ้อเจียงเป็นนักลงทุนอันดับต้นของจีนในไทย โดยเฉพาะใน EEC โดยเฉพาะในสาขา e-commerce/ โลจิสติกส์/ พลังงานใหม่ และขยายความร่วมมือผ่านนิคมอุตสาหกรรมไทย – จีน ที่จังหวัดระยอง เนื่องด้วยมณฑลเจ้อเจียงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคุณภาพสูง มีเศรษฐกิจภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง ทั้งเป็นฮับด้านดิจิทัล โดยเฉพาะเมืองหางโจว ตลอดจนบูรณาการเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี (Yangtze River Delta: YRD)

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเตรียมพร้อมยกระดับความร่วมมือ 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1) เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน 2) ดิจิทัล/ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และความร่วมมือทางวิชาการ 3) การพัฒนาที่ยั่งยืน รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และ ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว และ 4) การส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์และการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยในส่วนของไทย โดยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศและBOI ภายใต้ทีมประเทศไทยจะพัฒนาความร่วมมือกับมณฑลเจ้อเจียงในระยะต่อไป โดยจะดำเนินการผ่านกลไก 3 ประการ ได้แก่


(1)การประชุมคณะทำงานไทย – มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งฝ่ายไทยขับเคลื่อนโดยสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้

(2)การจัดทำ MOU เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับกรมพาณิชย์ เจ้อเจียง โดยเฉพาะประเด็นด้านการค้าบริการดิจิทัล ในฐานะที่เจ้อเจียง เป็นฮับด้านดิจิทัลของจีน ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีการทำงานร่วมกับ Alibaba และ Tmall มาโดยตลอด นอกจากนี้การส่งเสริมความร่วมมือด้านดิจิทัล โดยการจัดทำ MOU ระหว่าง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กับกรมพาณิชย์เจ้อเจียง จะสามารถช่วยขยายความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ด้าน AI/ Big Data/ Cloud Computing ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องได้

(3)การจัดทำ MOU เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและความเชื่อมโยงทางยุทธศาสตร์ระหว่าง EEC ของไทยกับเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี (Yangtze River Delta: YRD) ของจีนต่อไป


ปัจจุบันมณฑลเจ้อเจียงมีมูลค่าทางเศรษฐกิจจำนวน 7.88 ล้านล้านหยวน โต 6.3% มีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศจีน มีมูลค่าการค้าไทย-เจ้อเจียง มีจำนวน 15,900 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา และมณฑลเจ้อเจียงมีมูลค่าการลงทุนในประเทศไทยกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้านำเข้าสําคัญจากเจ้อเจียงไปยังไทย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แผ่นรีดที่ทำด้วยเหล็ก ผ้าทอใยสังเคราะห์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ ของใช้ที่ทำด้วยพลาสติก และสินค้าส่งออกจากไทยไปมณฑลเจ้อเจียงที่สำคัญ ได้แก่ เศษทองแดง โพลิเมอร์ของเอทีลินในลักษณะขั้นปฐม ผลไม้สด ยางสังเคราะห์ วงจรรวมที่ใช้ในทางอิเล็กทรอนิกส์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

สร้างสถานการณ์ ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธที่ปัตตานี

คนร้ายสร้างสถานการณ์ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธ ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบลายนิ้วมือ หาตัวผู้ก่อเหตุ

กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น

“สมศักดิ์” กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจำกัด-ยับยั้ง การแพร่ระบาด พร้อมเตือนรับประทานหมูดิบ เสี่ยงโรคหูดับตลอดชีวิต