สศก.เผยดัชนีรายได้เกษตรกร ครึ่งปีแรกโตร้อยละ 15

กรุงเทพฯ 11 ก.ค.-  สศก.โชว์ดัชนีรายได้เกษตรกร ครึ่งปีแรก พบว่า มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หมวดพืชผล สร้างรายได้มากสุด


นางสาวจริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการเกษตรโดยวัดจากดัชนีรายได้เกษตรกรช่วงครึ่งปีแรก 2560 (ม.ค. – มิ.ย.) พบว่า ภาพรวมรายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.01 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 จากดัชนีผลผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.68 โดยสินค้าสำคัญที่มีการผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า อ้อยโรงงาน ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน เงาะ มังคุดและกุ้งขาวแวนนาไม และดัชนีราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.86 จากสินค้าสำคัญที่มีราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา อ้อยโรงงาน ทุเรียน และมังคุด ประกอบกับภาวะภัยแล้งในปีก่อนได้คลี่คลายและสภาพอากาศในปี 2560 เอื้ออำนวยต่อผลผลิตสำคัญ

หากวิเคราะห์รายหมวดสินค้าสำคัญ พบว่า หมวดพืชผล สร้างรายได้ให้เกษตรกรมากที่สุด โดยขยายตัวร้อยละ 21.42  รองลงมาคือ หมวดประมง ขยายตัวร้อยละ 17.81 ส่วนหมวดปศุสัตว์ หดตัวร้อยละ 4.56 ตามลำดับ ส่วนสินค้าสำคัญที่สร้างรายได้แก่เกษตรกร ได้แก่ มังคุด ทุเรียน ข้าวเปลือกเจ้า ยางพารา อ้อยโรงงาน กุ้งขาวแวนนาไม เงาะ และ ปาล์มน้ำมัน ซึ่งเมื่อจำแนกแต่ละสินค้า พบว่า มังคุด รายได้เกษตรกรผู้ปลูกมังคุดช่วงครึ่งปีแรก 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 116.39 เป็นผลมาจากดัชนีผลผลิตมังคุดปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.28 เนื่องจากสภาพอากาศมีความเย็นเหมาะสม  และดัชนีราคาเพิ่มขึ้น ร้อยละ  84.50 เนื่องจากตลาดยังมีความต้องการต่อเนื่อง ทุเรียน รายได้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนช่วงครึ่งปีแรก 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 79.29 เป็นผลมาจากดัชนีผลผลิตทุเรียนปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 42.91จากสภาพอากาศปีนี้มีความเย็นเหมาะสม ส่งผลให้ออกดอกได้มากขึ้น ในทางเดียวกันดัชนีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.46 เพราะปริมาณผลผลิตทุเรียนกว่า 60% ของทุเรียนทั้งประเทศส่งออกไปยังต่างประเทศทั้งจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และเวียดนาม ข้าวเปลือกเจ้า รายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือกเจ้า ช่วงครึ่งปีแรก 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 71 เป็นผลมาจากดัชนีผลผลิตข้าวเปลือกปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 88.81 ซึ่งเป็นข้าวนาปรังที่ปลูกในเขตชลประทานไม่ได้รับผลกระทบจาก     ภัยแล้ง ส่วนดัชนีราคาปรับตัวลดลง ร้อยละ 3.84 ตามกลไกตลาดที่มีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น


ยางพารา รายได้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราช่วงครึ่งปีแรก 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 53.28 เป็นผลมาจากดัชนีราคายางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 55.86 เนื่องจากกลุ่มผู้ส่งออกยาง 3 ประเทศทั้งไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ได้กำหนดนโยบายควบคุมปริมาณการส่งออก  ส่วนดัชนีผลผลิตปรับตัวลดลง ร้อยละ 1.66 ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา สภาพอากาศทางภาคใต้ของประเทศไทยและประเทศมาเลเซียมีฝนหนักอย่างต่อเนื่องและเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่สำคัญของการปลูกยางอ้อยโรงงาน รายได้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยโรงงานช่วงครึ่งปีแรก 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 45.31 เป็นผลมาจากดัชนีผลผลิตอ้อยโรงงานปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.88 จากคุณภาพผลผลิตอ้อยในปีการผลิต 2559/60 อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประกอบกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านกระบวนการผลิตน้ำตาลของโรงงานทุกแห่งส่งผลดีต่อผลผลิตน้ำตาลทราย ในทางเดียวกันดัชนีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 34.70 จากราคาน้ำตาลทรายโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นทั่วโลก ได้ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนน้ำตาล ส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายได้ปรับตัวสูง

กุ้งขาวแวนนาไม รายได้เกษตรกรผู้ปลูกกุ้งขาวแวนนาไมช่วงครึ่งปีแรก 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 17.81 เป็นผลมาจากดัชนีผลผลิตกุ้งขาวแวนนาไมปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.16 จากสภาพอากาศปีนี้มีความเหมาะสม และได้แก้ไขปัญหาโรคกุ้งตายด่วน (EMS) รวมทั้งมีการปรับโครงสร้างฟาร์มโดยมีการจัดการฟาร์มอย่างเป็นระบบในทางเดียวกันดัชนีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.93 เนื่องจากผลกระทบต่อเนื่องจากปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยเงาะ รายได้เกษตรกรผู้ปลูกเงาะช่วงครึ่งปีแรก 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.71 เป็นผลมาจากดัชนีผลผลิตเงาะปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 56.07  เนื่องจากสภาพอากาศที่เหมาะสม ส่วนดัชนีราคาปรับตัวลดลง ร้อยละ 28.42      ตามกลไกตลาดที่มีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นปาล์มน้ำมัน รายได้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันช่วงครึ่งปีแรก 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.04 เป็นผลมาจากดัชนีผลผลิตปาล์มน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.72  เนื่องจากสภาพอากาศที่เหมาะสม ส่วนดัชนีราคาปรับตัวลดลง ร้อยละ 6.70 ตามกลไกตลาดที่มีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ช่วงต้นปี 2560 กระทบกับผลผลิตยางพาราและกุ้งขาวแวนนาไม แต่ในภาพรวมในช่วงครึ่งปีแรกก็ยังคงขยายตัว ส่วนความต้องการสินค้าเกษตรไทยในต่างประเทศบางชนิดปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา จากจีนที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ และน้ำมันปาล์ม ทั้งจากจีนและอินเดียเพื่อชดเชยสต็อกและบริโภคในประเทศ ตลอดจนความต้องการใช้น้ำตาลเพิ่มขึ้นจากอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในเอเชีย-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]