กรุงเทพฯ 29 ก.ย. – กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดสัมมนาทางวิชาการ “เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมสหกรณ์” ครบรอบ 51 ปี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำชับใช้กลไกสหกรณ์ขับเคลื่อนนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้สมาชิกสหกรณ์” พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร พร้อมมอบรางวัลแก่หน่วยงานและบุคคลดีเด่นของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ประจำปี 2566
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการสัมมนาทางวิชาการ “เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมสหกรณ์” ครบรอบ 51 ปี พร้อมมอบรางวัลแก่หน่วยงานและบุคคลดีเด่นของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ประจำปี 2566
ร้อยเอกธรรมนัสมอบนโยบายการปฏิบัติงาน ตามนโยบายรัฐบาล “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ให้สมาชิกสหกรณ์ โดยสนับสนุนให้เข้าถึงทรัพยากรการผลิตเช่น ที่ดิน แหล่งน้ำ เงินทุน เทคโนโลยีและนวัตกรรม มีเครื่องมือ อุปกรณ์การตลาดที่ทันสมัย เพื่อนำไปปรับปรุงกระบวนการผลิตและแปรรูปสินค้าการเกษตร ช่วยสร้างมูลค่าและขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการสร้างอำนาจต่อรองให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม
สำหรับ “สหกรณ์” เป็นองค์กรหลักที่พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดังนั้นกรมส่งเสริมสหกรณ์จึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสหกรณ์ให้มีศักยภาพในการแข่งขัน สร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สหกรณ์เจริญก้าวหน้า ตลอดจนสามารถดูแลสวัสดิการต่างๆ แก่สมาชิก ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่งผลให้ชุมชนเข้มแข็งยิ่งขึ้นด้วย ส่วนปัญหาการทุจริตของสหกรณ์ มีอยู่เป็นส่วนน้อยมาก แต่ย้ำให้ป้องกันปราบปรามการทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ได้เร่งรัดให้กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดทำข้อมูลและโครงการต่างๆ ตามมาตรการพักหนี้เกษตรกรของรัฐบาล ซึ่งตนเองเตรียมจะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวว่า ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสหกรณ์และขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล ทั้งมาตรการพักหนี้ ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์การตลาดที่จำเป็น ตลอดจนการเชื่อมโยงการผลิต การรวบรวม การแปรรูป และการตลาดเพื่อเพื่อเพิ่มรายได้ของสหกรณ์
พร้อมทั้งยังเร่งรัดดำเนินการสำรวจพื้นที่รายแปลงส่วนที่เหลือกว่า 200,000 ไร่ เพื่อออกเอกสารสิทธิ์ กสน.3 และ กสน.5 ให้แก่เกษตรกรสมาชิกนิคมสหกรณ์ และการจัดที่ดินทำกินให้สมาชิกนิคมสหกรณ์ จัดการที่ดินในนิคมเช่า 13 นิคม 14 ป่า ให้เป็นนิคมสหกรณ์ทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีมีมาตรการป้องกันปราบปรามการทุจริตในสหกรณ์ โดยเฉพาะสหกรณ์ทุกประเภทที่มีทุนการดำเนินงาน 100 ล้านบาทขึ้นไป จะต้องมีแอปพลิเคชันให้บริการสมาชิกใช้ตรวจสอบสถานะทางบัญชีของตนเอง ตรวจสอบสถานะของสหกรณ์ รวมไปถึงการจัดตั้งสหกรณ์อย่างมีคุณภาพ การควบรวมสหกรณ์ขนาดเล็กให้เป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพมีความเข้มแข็ง ส่งเสริมสหกรณ์ที่มีอยู่ให้เติบโตขึ้น ไปจนถึงการพัฒนาบุคลากร เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ ให้มีความรู้ ทักษะในการลงพื้นที่ปฏิบัติงาน มี Growth Mindset เพื่อที่จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพสามารถเข้าไปดำเนินงานร่วมกับสหกรณ์ที่รับผิดชอบได้ มุ่งพัฒนาสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง มีธรรมาภิบาล ยกระดับความเป็นอยู่ของสมาชิกสหกรณ์ให้ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย