งาน Thai Water Expo และ Water Forum 2023

กรุงเทพฯ 31 ส.ค. – กระทรวงทส. จุฬาฯ อินฟอร์มา และภาคีเครือข่ายทางธุรกิจร่วมจัดงาน Thai Water Expo และWater Forum 2023 ชูแนวคิดรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน


กระทรวงทรัพยากรฯ คณะวิศวะ จุฬาฯ และภาคีเครือข่ายชั้นนำด้านทรัพยากรน้ำร่วมจัดงาน “Thai Water Expo (THW) และ Water Forum 2023” งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านเทคโนโลยีการจัดการทรัพยากรน้ำและน้ำเสียที่ครบวงจรที่สุดงานเดียวในประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ด้วยแนวคิด “เสริมสร้างความพร้อมของอาเซียน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน” ขนทัพเทคโนโลยีด้านการจัดการน้ำจากเนเธอร์แลนด์ และประเทศชั้นนำระดับโลก ปักหมุดดันไทย “เสริมสร้างความร่วมมือ ด้านการจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมในเอเชียแปซิฟิกผ่านเทคโนโลยีสีเขียว” ด้วยเวทีเสวนา “Water Forum”

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทุกระบบนิเวศ และหนึ่งในนั้นคือ “ทรัพยากรน้ำ” ซึ่งมีส่วนประกอบถึง 3 ใน 4 ของโลก ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาภัยแล้ง อุทกภัยเฉียบพลัน รวมถึงอุณหภูมิของแหล่งน้ำที่อุ่นขึ้นส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์ ด้วยประเด็นดังกล่าวเพื่อพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงนี้ และคาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านการจัดงานแสดงสินค้า นิทรรศการและกิจกรรมเจรจาธุรกิจชั้นนำ ได้ผนึกความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายด้านทรัพยากรน้ำ นำโดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  สถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทยและภาคีเครือข่ายชั้นนำ  จัดงาน Thai Water Expo (THW) และ Water Forum 2023 โดยมีเป้าหมายที่สำคัญ คือ “เสริมสร้างความพร้อมของอาเซียน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน”


นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า วันนี้ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสร้างความเสียหายในวงกว้างต่อวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม รวมถึงมิติต่างๆ การเตรียมพร้อมรับมือผ่านการกำหนดแนวทางและกลยุทธ์ในการสร้างความยั่งยืนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถือเป็นนโบายที่สำคัญที่ทางกระทรวงฯ ขับเคลื่อนมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของน้ำได้มีแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ซึ่งถือเป็นกรอบแนวทางการพัฒนาแก้ไขปัญหาทรัพยากรน้ำของประเทศที่ครอบคลุมอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย ตลอดจนการอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำ เป็นต้น ทั้งนี้ยังรวมถึงภัยแล้งและการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในทุกปี และการสร้างความรู้เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในเรื่องการอนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพผ่านแนวคิด4R ซึ่งประกอบไปด้วย Reduce – ลดการใช้น้ำ, Reuse – การนำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ , Recycle – การบำบัดน้ำเสียเพื่อคืนสู่สิ่งแวดล้อม และ Recharge – เป็นกระบวนการเติมน้ำใต้ดิน เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ในยามขาดแคลน

โดยแนวทางการทำงานทั้งหมดนี้คือหัวใจสำคัญเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน อย่างเช่นการจัดงานในวันนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านน้ำ ร่วมกันหารือ แนวทางแก้ไขปัญหา พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนอย่างสมดุลให้กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับเป้าหมายรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการบริหารการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป 

ศ.ดร.อนงค์นาฏ สมหวังธนโรจน์ รองคณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า เราในฐานะภาคของการศึกษาได้เดินหน้าสร้างการตระหนักรู้ด้านผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งในปัจจุบันการสร้างความมั่นคงทางน้ำ และกระบวนการผลิตอย่างสะอาดด้วยการใช้เทคโนโลยีสีเขียวเป็นทิศทางที่สำคัญที่ผ่านมาทางวิศวฯ จุฬาฯ ได้ตั้งเป้ารับมือต่อผลกระทบด้านวัฏจักรน้ำผ่านการนำเอาผลงานวิจัยในด้านความยั่งยืนของน้ำมาขยายผลและต่อยอดอย่างต่อเนื่อง เช่น การนำปัญญาประดิษฐ์หรือ (AI) รวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัล (IOT) เข้ามาช่วยในการคาดการณ์สถานการณ์น้ำท่วมและภัยแล้งในอนาคตเป็นต้น มากไปกว่านั้นทางคณะฯยังเล็งเห็นความสำคัญในการจัดการทรัพยากรน้ำในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะการสร้างองค์ความรู้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ อาทิ การเป็นส่วนหนึ่งในงานสัมมนาวิชาการ Water Forum ในงาน Thai Water Expo 


ปีนี้ทางคณะฯ เป็นแกนหลักรวมหน่วยงานสมาคมที่เกี่ยวข้องอาทิ สมาคมนักอุทกวิทยาไทย สมาคมการประปาแห่งประเทศไทย วิศวะกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ มาร่วมแชร์ประสบการณ์และแลกเปลี่ยนมุมมองเพื่อร่วมกันหาแนวทางในด้านการจัดการ และสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำในอนาคตให้กับไทยและภูมิภาค ทั้งนี้ทางคณะฯพร้อมสมาคมต่างๆ ร่วมจัดแสดงเทคโนโลยี ผ่านโครงการด้านน้ำ และให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่สนใจ เรามั่นใจว่าเวทีนี้จะสร้างประโยชน์ในวงกว้างให้กับผู้ที่เข้าชมในหลากหลายกลุ่ม และที่สำคัญเทคโนโลยีสีเขียวภายในงานนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมุ่งสู่การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนร่วมกัน

นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เราทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะทรัพยากรที่สำคัญของโลกอย่าง”น้ำ” เราจึงเป็นแกนกลางที่สำคัญในการเชื่อมโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันบริการจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบไร้รอยต่อผ่านการจัดงาน Thai Water Expo งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านเทคโนโลยีการจัดการทรัพยากรน้ำและน้ำเสียที่ครบวงจรที่สุดงานเดียวในประเทศไทย โดยปีนี้ได้ชูแนวคิด “เสริมสร้างความพร้อมของอาเซียน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน” ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าเวทีนี้ที่จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญให้กับภูมิภาค ร่วมกันบูรณาการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้เกิดคุณค่า และประโยชน์สูงสุดต่อทุกระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem)

งาน (THW) ในปีนี้ได้รวบรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมรวมถึงโซลูชั่นต่างๆ เกี่ยวกับการจัดการน้ำไว้อย่างครบวงจรที่สุดงานหนึ่งในภูมิภาค โดยมีบริษัทชั้นนำของโลกกว่า 200 บริษัท และพาวิลเลียนจากกว่า 7 ประเทศ อาทิ เยอรมนีญี่ปุ่น เกาหลี จีน สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และไต้หวัน พร้อมกันนี้มีโซน Insight Water ที่รวบรวม 30 องค์กรหลักด้านน้ำให้คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังจัดร่วมกับการประชุมนานาชาติ Water Forum ที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญทางด้านการบริหารจัดการน้ำจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ร่วมแบ่งปันความรู้ เทรนด์เทคโนโลยี รวมถึงโซลูชั่นด้านน้ำ ที่ทุกภาคส่วนมองว่าการจัดงานนี้จะเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อร่วมกันบริหารจัดการน้ำในอนาคตอย่างยั่งยืนต่อไป

สำหรับงาน Thai Water Expo (THW) และ Water Forum 2023 หนึ่งเวทีที่สำคัญระดับภูมิภาคและเป็นโอกาสทองของไทยในอุตสาหกรรมการจัดการทรัพยากรน้ำและน้ำเสีย โดยปีนี้จัดขึ้นร่วมกับงาน PUMPS AND VALVES ASIA (PVA) 2023 งานแสดงเทคโนโลยีเฉพาะทางด้านปั้ม วาล์ว ท่อ ข้อต่อ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อภาคอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งการจัดงานทั้งหมดนี้ถือเป็นเวทีระดับภูมิภาคหนึ่งเดียวของไทยที่รวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม และการจัดการน้ำไว้ในงานเดียว จัดระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-1 ก.ย.66 ที่ ฮอลล์ 1-4 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.thai-water.com หรือโทร 02 036 0500.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 2 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]