งาน Thai Water Expo และ Water Forum 2023

กรุงเทพฯ 31 ส.ค. – กระทรวงทส. จุฬาฯ อินฟอร์มา และภาคีเครือข่ายทางธุรกิจร่วมจัดงาน Thai Water Expo และWater Forum 2023 ชูแนวคิดรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน


กระทรวงทรัพยากรฯ คณะวิศวะ จุฬาฯ และภาคีเครือข่ายชั้นนำด้านทรัพยากรน้ำร่วมจัดงาน “Thai Water Expo (THW) และ Water Forum 2023” งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านเทคโนโลยีการจัดการทรัพยากรน้ำและน้ำเสียที่ครบวงจรที่สุดงานเดียวในประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ด้วยแนวคิด “เสริมสร้างความพร้อมของอาเซียน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน” ขนทัพเทคโนโลยีด้านการจัดการน้ำจากเนเธอร์แลนด์ และประเทศชั้นนำระดับโลก ปักหมุดดันไทย “เสริมสร้างความร่วมมือ ด้านการจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมในเอเชียแปซิฟิกผ่านเทคโนโลยีสีเขียว” ด้วยเวทีเสวนา “Water Forum”

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทุกระบบนิเวศ และหนึ่งในนั้นคือ “ทรัพยากรน้ำ” ซึ่งมีส่วนประกอบถึง 3 ใน 4 ของโลก ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาภัยแล้ง อุทกภัยเฉียบพลัน รวมถึงอุณหภูมิของแหล่งน้ำที่อุ่นขึ้นส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์ ด้วยประเด็นดังกล่าวเพื่อพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงนี้ และคาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านการจัดงานแสดงสินค้า นิทรรศการและกิจกรรมเจรจาธุรกิจชั้นนำ ได้ผนึกความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายด้านทรัพยากรน้ำ นำโดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  สถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทยและภาคีเครือข่ายชั้นนำ  จัดงาน Thai Water Expo (THW) และ Water Forum 2023 โดยมีเป้าหมายที่สำคัญ คือ “เสริมสร้างความพร้อมของอาเซียน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน”


นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า วันนี้ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสร้างความเสียหายในวงกว้างต่อวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม รวมถึงมิติต่างๆ การเตรียมพร้อมรับมือผ่านการกำหนดแนวทางและกลยุทธ์ในการสร้างความยั่งยืนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถือเป็นนโบายที่สำคัญที่ทางกระทรวงฯ ขับเคลื่อนมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของน้ำได้มีแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ซึ่งถือเป็นกรอบแนวทางการพัฒนาแก้ไขปัญหาทรัพยากรน้ำของประเทศที่ครอบคลุมอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย ตลอดจนการอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำ เป็นต้น ทั้งนี้ยังรวมถึงภัยแล้งและการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในทุกปี และการสร้างความรู้เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในเรื่องการอนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพผ่านแนวคิด4R ซึ่งประกอบไปด้วย Reduce – ลดการใช้น้ำ, Reuse – การนำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ , Recycle – การบำบัดน้ำเสียเพื่อคืนสู่สิ่งแวดล้อม และ Recharge – เป็นกระบวนการเติมน้ำใต้ดิน เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ในยามขาดแคลน

โดยแนวทางการทำงานทั้งหมดนี้คือหัวใจสำคัญเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน อย่างเช่นการจัดงานในวันนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านน้ำ ร่วมกันหารือ แนวทางแก้ไขปัญหา พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนอย่างสมดุลให้กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับเป้าหมายรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการบริหารการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป 

ศ.ดร.อนงค์นาฏ สมหวังธนโรจน์ รองคณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า เราในฐานะภาคของการศึกษาได้เดินหน้าสร้างการตระหนักรู้ด้านผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งในปัจจุบันการสร้างความมั่นคงทางน้ำ และกระบวนการผลิตอย่างสะอาดด้วยการใช้เทคโนโลยีสีเขียวเป็นทิศทางที่สำคัญที่ผ่านมาทางวิศวฯ จุฬาฯ ได้ตั้งเป้ารับมือต่อผลกระทบด้านวัฏจักรน้ำผ่านการนำเอาผลงานวิจัยในด้านความยั่งยืนของน้ำมาขยายผลและต่อยอดอย่างต่อเนื่อง เช่น การนำปัญญาประดิษฐ์หรือ (AI) รวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัล (IOT) เข้ามาช่วยในการคาดการณ์สถานการณ์น้ำท่วมและภัยแล้งในอนาคตเป็นต้น มากไปกว่านั้นทางคณะฯยังเล็งเห็นความสำคัญในการจัดการทรัพยากรน้ำในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะการสร้างองค์ความรู้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ อาทิ การเป็นส่วนหนึ่งในงานสัมมนาวิชาการ Water Forum ในงาน Thai Water Expo 


ปีนี้ทางคณะฯ เป็นแกนหลักรวมหน่วยงานสมาคมที่เกี่ยวข้องอาทิ สมาคมนักอุทกวิทยาไทย สมาคมการประปาแห่งประเทศไทย วิศวะกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ มาร่วมแชร์ประสบการณ์และแลกเปลี่ยนมุมมองเพื่อร่วมกันหาแนวทางในด้านการจัดการ และสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำในอนาคตให้กับไทยและภูมิภาค ทั้งนี้ทางคณะฯพร้อมสมาคมต่างๆ ร่วมจัดแสดงเทคโนโลยี ผ่านโครงการด้านน้ำ และให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่สนใจ เรามั่นใจว่าเวทีนี้จะสร้างประโยชน์ในวงกว้างให้กับผู้ที่เข้าชมในหลากหลายกลุ่ม และที่สำคัญเทคโนโลยีสีเขียวภายในงานนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมุ่งสู่การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนร่วมกัน

นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เราทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะทรัพยากรที่สำคัญของโลกอย่าง”น้ำ” เราจึงเป็นแกนกลางที่สำคัญในการเชื่อมโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันบริการจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบไร้รอยต่อผ่านการจัดงาน Thai Water Expo งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านเทคโนโลยีการจัดการทรัพยากรน้ำและน้ำเสียที่ครบวงจรที่สุดงานเดียวในประเทศไทย โดยปีนี้ได้ชูแนวคิด “เสริมสร้างความพร้อมของอาเซียน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน” ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าเวทีนี้ที่จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญให้กับภูมิภาค ร่วมกันบูรณาการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้เกิดคุณค่า และประโยชน์สูงสุดต่อทุกระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem)

งาน (THW) ในปีนี้ได้รวบรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมรวมถึงโซลูชั่นต่างๆ เกี่ยวกับการจัดการน้ำไว้อย่างครบวงจรที่สุดงานหนึ่งในภูมิภาค โดยมีบริษัทชั้นนำของโลกกว่า 200 บริษัท และพาวิลเลียนจากกว่า 7 ประเทศ อาทิ เยอรมนีญี่ปุ่น เกาหลี จีน สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และไต้หวัน พร้อมกันนี้มีโซน Insight Water ที่รวบรวม 30 องค์กรหลักด้านน้ำให้คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังจัดร่วมกับการประชุมนานาชาติ Water Forum ที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญทางด้านการบริหารจัดการน้ำจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ร่วมแบ่งปันความรู้ เทรนด์เทคโนโลยี รวมถึงโซลูชั่นด้านน้ำ ที่ทุกภาคส่วนมองว่าการจัดงานนี้จะเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อร่วมกันบริหารจัดการน้ำในอนาคตอย่างยั่งยืนต่อไป

สำหรับงาน Thai Water Expo (THW) และ Water Forum 2023 หนึ่งเวทีที่สำคัญระดับภูมิภาคและเป็นโอกาสทองของไทยในอุตสาหกรรมการจัดการทรัพยากรน้ำและน้ำเสีย โดยปีนี้จัดขึ้นร่วมกับงาน PUMPS AND VALVES ASIA (PVA) 2023 งานแสดงเทคโนโลยีเฉพาะทางด้านปั้ม วาล์ว ท่อ ข้อต่อ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อภาคอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งการจัดงานทั้งหมดนี้ถือเป็นเวทีระดับภูมิภาคหนึ่งเดียวของไทยที่รวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม และการจัดการน้ำไว้ในงานเดียว จัดระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-1 ก.ย.66 ที่ ฮอลล์ 1-4 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.thai-water.com หรือโทร 02 036 0500.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร