กรุงเทพฯ 21 มิ.ย.-กระทรวงมหาดไทยประกาศความสำเร็จการจัดการขยะอาหารจากครัวเรือน เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและบรรลุเป้าหมายประเทศไทยที่ยั่งยืน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในงานประกาศความสำเร็จดังกล่าว พร้อมด้วย ดร.วันดีกุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย และนางกีต้า ซับบระวาล ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย
นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ทำโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนในระดับครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง เป็นรูปธรรม และในวันที่ 29 มกราคม 2562 ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการแยกขยะเศษอาหารสู่ถังขยะอินทรีย์หรือถังขยะเปียกครัวเรือน จาก 4 หน่วยงาน คือ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกและสภาสตรีแห่งชาติในบรมราชินูปถัมภ์ และได้ทำมาอย่างต่อเนื่องโดยได้นำร่องใน 4 จังหวัด คือ จังหวัดลำพูน จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดเลย จนกระทั่งมาถึงวันประกาศความสำเร็จการจัดการขยะอาหารจากครัวเรือนในวันนี้ โดยหลังจากนี้จะมีอีก22 จังหวัดเข้าร่วมโครงการและจังหวัดที่เหลือในลำดับถัดไป
นอกจากนี้ ในโอกาสเดียวกันนี้ ทางธนาคารกสิกรไทย โดยนายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย ได้มอบเงินจำนวน 816,400 บาทให้กับนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเพื่อสนับสนุนการซื้อคาร์บอนเครดิตจากโครงการขยะเปียก ลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 3,140 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ โดยมีราคาตันละ 260 บาทบาทในโอกาสนี้ด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้ตั้งเป้าหมายโครงการขยะเปียกลดโลกร้อน ด้วยว่า ใน 10 ล้านครัวเรือนจะสามารถผลิตคาร์บอนเครดิตให้ได้ 20 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี 2567 อีกด้วย ตามเจตนารมณ์การแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2065 อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย