กกร. ห่วงจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า 

กรุงเทพฯ  8 มิ.ย.- กกร.แนะเพิ่มกำลังซื้อช่วงรอจัดตั้งรัฐบางใหม่ ยอมรับล่าช้าครึ่งปี จีดีพีหดเหลือร้อยละ 1-2 กระทบเศรษฐกิจไทย กังวลขยับค่าแรง 450 บาท เงินเฟ้อพุ่งร้อยละ 0.82 ทำหนังสือถึงนายกฯ เร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง 


นายผยง  ศรีวณิช ประธานคณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชน 3 สถาบัน กล่าวว่า  ที่ประชุม กกร.  มองว่า เศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีหลังอาจฟื้นตัวได้น้อยกว่าที่คาด  หลังเศรษฐกิจโลกในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2566 แผ่วลง  เพราะเศรษฐกิจจีนไม่ได้ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง   ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปเผชิญแรงกดดันจากภาวะอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อสูง การฟื้นตัวไตรมาส  2  ล่าช้ากว่าที่คาด ทำให้เศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีหลังยังอยู่ในภาวะชะลอตัว จนกว่าประเทศใหญ่อย่างเช่นประเทศจีนจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา

สำหรับเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่องจากการท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว  คาดว่าทั้งปีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 30 ล้านคน ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการจ้างงาน และสร้างรายได้เข้าประเทศ  นอกจากนี้ รายได้ในภาคเกษตรและเกษตรอุตสาหกรรมยังขยายตัว ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังใช้จ่ายบริโภคเพิ่มมากขึ้น   ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากการฟื้นตัวที่ล่าช้าของเศรษฐกิจโลก  คาดว่าการส่งออกในปี 2566  หดตัวร้อยละ -1.0-00 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา GDP ขยายตัวร้อยละ 3-3.5 อัตราเงินเฟ้อร้อยละ 2.7-3.2  โดยเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยท้าทาย  หลัง กนง. ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีกร้อยละ 0.25  เพิ่มเป็นร้อยละ 2  และมีแนวโน้มว่าจะยังปรับชั้นต่อไปด้วยเหตุว่าเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในระดับสูง  


“ปัญหาภัยแล้ง ที่ประชุม กกร. มองว่าเป็นเรื่องที่มีผลกระทบสูง  หลังจากทั่วโลกเผชิญกับปัญหา เอลนีโญในปีนี้  อาจสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ 36,000 ล้านบาท    กกร.  จึง ทำหนังสือส่งถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 เสนอให้เร่งจัดทำมาตรการรับมือภัยแล้ง ทั้งในระยะเร่งด่วนและในระยะยาว  มองว่าปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม เป็นตันทุนค่าเสียโอกาสของประเทศ” นายผยง กล่าว   

ทั้งนี้ มีปัจจัยที่อาจกระทบต่อเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า ได้แก่ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาทต่อวัน อาจทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 0.82  ถ้าไม่มีการเพิ่มทักษะแรงงานและผลิตภาพแรงงานให้เหมาะสมไปพร้อมกับการปรับเปลี่ยน  ราคาน้ำมันดีเซลอาจเพิ่มสูงขึ้น หากมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท สิ้นสุดลงในวันที่20 ก.ค. 66   เป็นตันทุนค่าขนส่งของผู้ประกอบการ ปัจจัยเหล่านี้จะกดดัน ตันทุนของทั้งผู้ประกอบการและครัวเรือนนอกจากนี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อาจซ้ำเติมตันทุนของผู้ประกอบการโดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ตังนั้นมองว่าการปรับชั้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. จะต้องรักษสมดุลระหว่างเศรษฐกิจไทยที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และไม่ทั่วถึง เพื่อช่วยพยุงให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ ที่ประชุม กกร. ยังคงมองว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์หลัก ที่ช่วยชับเคลื่อน เศรษฐกิจที่สำคัญในขณะนี้ การดูแลนักท่องเที่ยวให้มีความสะดวก ปลอดภัย จะเป็นแรงจูงใจดึงดูดให้ต่างชาติเลือกเตินทางเข้ามาในประเทศมากขึ้น ภาครัฐควรมีมาตรการสนับสนุนเพื่สร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ปัญหาคอขวดเรื่องการเพิ่มจำนวนเครื่องบินให้กับสายการบินของไทย ยังเป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว ซึ่งหากสามารถแก้ไขปัญหาสายการบินให้เพียงพอ นอกจากนี้ยังต้องแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำตามพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยเฉพาะตามเกาะ


ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ประทศไทยมีโอกาสในการดึงดูดนักธุรกิจจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนและทำงานเป็น Hub มากขึ้นจากอานิสงส์ของความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลให้เกิดการย้ายฐานการผลิต เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นเป้าหมายของนักลงทุนทั่วโลก ดังนั้น ภาครัฐควรมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการลงทุน โดยเฉพาะการปฏิรูปกฎหมาย กฎระเบียบเพื่อยกระดับ

ความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ (Ease of Doing Business) เช่น การปรับปรุงปฏิรูปการขอวีซ่าให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นต้น ที่ประชุม กกร.มีความกังวล เรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออก ซึ่งติดลบติดต่อกัน 7 เดือน ทำให้คำสั่งซื้อลดลง แต่ภาคอุตสาหกรรมยังคงต้องมีการรักษาการผลิต เพื่อพยุงการจ้างแรงงานให้ไม่ได้รับผลกระทบ หากการส่งออกยังไม่มีการฟื้นตัว อาจส่งผลกระทบต่อ

อุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก โดยมี 19 กลุ่มอุตสาหกรรม จาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรกล เฟอร์นิเจอร์ เป็นการผลิตเพื่อหล่อเลี้ยงกิจการและดูแลภาคแรงางนในโรงงานเท่านั้น หากมีปัจจัยเสี่ยงกระทบเพิ่ม อาจเกิดปัญหาหนักเพิ่ม  

นายเกรียงไกร  เธียรนุกูล  ประธานสภาอุตหสการรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า คงอาศัยเครื่องจักรจาการท่องเที่ยวอย่างเดียวไม่ได้ จึงต้องอาศัยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ แม้จะมีข้อจำกัดบางประการในช่วงเป็นรัฐบาลรักษาการ ยังพอมีช่องทางกระตุ้นให้เกิดกำลังซื้อ เพราะขณะนี้ค่าครองชีพสูงกว่ารายได้ของแรงงาน  ขอให้เข้มงวดกรวดขันการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ กระทบยอดขายเอสเอ็มอี 19 กลุ่ม ขณะนี้ผู้ประกอบการทำการผลิตสินค้าเพื่อยังชีพดูแลแรงงาน ต้องหาทางเพิ่มแหล่งทุนให้เอสเอ็มอี ในช่วงรอจัดตั้งรัฐบาลใหม่ช่วงเดือนสิงหาคม  หากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าออกไป มาตรการต่าง การดึงดูดการลงทุน จากต่างชาติอาจรอไม่ได้ ทำให้แผนที่คาดการณ์ไว้ หากเลื่อนไป 1-2 เดือนอาจรอได้ หากเลื่อนออกไป ครึ่งปี หรือ 1 ปี นักลงทุนต่างชาติ คงหนีไปลงทุนประเทศอื่นแทน และอาจทำให้จีดีพีคาดการณ์เดิมร้อยละ 3-3.5 เหลือร้อยละ 1-2 .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”