ไอคอนสยาม 30 พ.ค.-ก.พลังงาน จับมือ ปตท.สผ.- เชฟรอนฯ ลงนาม สัญญา สำรวจ-แบ่งปันผลผลิต แหล่งปิโตรเลียมในอ่าวไทย รวม3 แปลง รวมพื้นที่ กว่า 35,000 ตร.กม. เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานให้ประเทศในระยะยาว
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ,นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.และผู้บริหารบริษัท เชฟรอน ออฟชอว์(ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันทำพิธีลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิตกับบริษัทผู้ได้รับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย จำนวน 3 แปลง ตามมติครม.เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 ที่อนุมัติให้บริษัทปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท สผ. เป็นผู้ได้รับสิทธิ สัญญาแบ่งปันผลผลิตหมายเลข G1/65 และ G3/65 ขนาดพื้นที่รวม20,133.87 ตารางกิโลเมตร และบริษัทเชฟรอนฯ เป็นผู้ได้รับสิทธิ์สัญญาแบ่งปันผลผลิตหมายเลข G2/65 ขนาดพื้นที่15,030.14 ตารางกิโลเมตร
รมว.พลังงาน ระบุว่าการให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในครั้งนี้เป็นการเพิ่มโอกาสในการพบแหล่งปิโตรเลียมใหม่ของไทย หลังจากไม่ได้มีการเปิดสำรวจพื้นที่ใหม่มาเป็นเวลา 16 ปี ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศในระยะยาว โดยการสำรวจมีระยะเวลารวม 6 ปี ก่อให้เกิดการลงทุนไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาทรวมถึงยังได้รับประโยชน์พิเศษในรูปแบบของค่าตอบแทนการลงนามซึ่งเป็นเงินอุดหนุนเพื่อการพัฒนาปิโตรเลียมในประเทศไทยเป็นเงินประมาณ 640 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากสามารถพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมในเชิงพาณิชย์ได้ในพื้นที่สำรวจทั้ง 3 แปลง ซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ1 ปีจะรู้ผล แต่จากแนวโน้มมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากมีพื้นที่อยู่ใกล้กับแหล่งผลิตเดิม จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่รัฐบาลในรูปแบบของค่าภาคหลวง ,ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมและส่วนแบ่งปิโตรเลียมที่เป็นกำไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าได้.-สำนักข่าวไทย