ภาคอุตฯ  เชื่อตั้งรัฐบาล  310  เสียงได้  กังวลขึ้นค่าแรง

กรุงเทพฯ 16 พ.ค. – ส.อ.ท. เชื่อตั้งรัฐบาล 310 เสียงได้ กังวลหากโหวตเลือกนายกฯ ล่าช้า กระทบเบิกจ่ายงบฯ 67-68 ยอมรับหวั่นนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกระทบต้นทุน ชี้ควรขึ้นตามทักษะแรงงาน


นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ว่า เชื่อว่าพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งพรรคร่วมรัฐบาล 310 เสียงได้ ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ยังต้องรอดูความชัดเจนอีกรอบ สิ่งที่กังวลคือ หากในช่วงเดือน ส.ค.–ก.ย. ยังไม่ได้ตัวนายกรัฐมนตรี  จะทำให้เกิดสุญญากาศ และจะส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 2567 และ อาจส่งผลกระทบไปถึงการพิจารณาอนุมัติงบประมาณ ปี 2568 ที่ตามช่วงเวลาจะต้องมีการอนุมัติงบในต้นปี 2567 

“ส.อ.ท.อยากให้มีการตั้งรัฐบาลได้ตามไทม์ไลน์โดยเร็ว เพราะยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขอีกมากมาย ทั้งในปี 2567 และ 2568 อย่าทะเลาะกันเลย ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ทาง ส.อ.ท. ซึ่งเป็นกลางทางการเมือง ก็พร้อมทำงานด้วย เพราะต้องการเห็นประเทศชาติเดินหน้าต่อไปในอนาคต” นายมนตรี กล่าว


รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวต่อว่า มีข้อกังวลต่อต่อนโยบายหาเสียงของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ว่ากลไกการปรับขึ้นค่าแรง ต้องผ่านที่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคี ตามกฏหมายแรงงาน คือ ลูกจ้างนายจ้าง และรัฐบาล จึงอยากให้ว่าที่รัฐบาลใหม่ ทั้งพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยมานั่งคุยกันว่าจะขึ้นค่าแรงอย่างไรที่จะควบคู่ไปกับการดูแลค่าครองชีพประชาชนไปพร้อมๆ กัน เพราะที่ผ่านมา เมื่อมีการประกาศปรับขึ้นค่าแรง บรรดาสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ก็จะพาเหรดปรับขึ้นราคาไปรอแล้ว  

ทั้งนี้ ส.อ.ท. เห็นด้วยกับการปรับขึ้นค่าแรง แต่ควรมีการพิจารณาปรับขึ้นตามทักษะความชำนาญของแรงงาน และต้องพิจารณาว่าหากปรับขึ้นค่าแรง ผลประโยชน์ที่แท้จริงจะตกอยู่กับประเทศที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด เพราะต้องเข้าใจว่าปัจจุบันแรงงานครึ่งหนึ่งในประเทศไทยเป็นแรงงานต่างด้าว และยังต้องคำนึงถึงศักยภาพในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมด้วย

นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ รองประธาน ส.อ.ท. มองว่า 310 เสียง ในการตั้งรัฐบาล เป็นกลไกที่เหมาะสมในหลักการประชาธิปไตย  เพราะจะมีเสียงฝ่ายค้านประมาณ 200 เสียงในการถ่วงดุล  แต่เงื่อนไขในการเลือกนายกรัฐมนตรี ถ้ามองในแง่บวก เชื่อว่า ส.ว. จะเห็นด้วย เนื่องจากผลการเลือกตั้งเป็นฉันทามติ ทั้งในการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ และจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ประกาศยุบสภา จนมีการประกาศเลือกตั้ง จะเห็นว่าความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมดีขึ้นเรื่อยๆ แสดงให้เห็นว่าถึงความคาดหวังกับการเลือกตั้งครั้งนี้  


ขณะที่นโยบายขึ้นค่าแรงต้องมองภาคสังคม คือ ปากท้องของประชาชน ไปพร้อมๆ กับภาคเศรษฐกิจ คือความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ทาง ส.อ.ท. ไม่ได้ปฏิเสธนโยบายประชานิยม แต่ขอให้เป็นประชานิยมที่จะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ระหว่างภาคเศรษฐกิจ ภาคสังคม และภาครัฐ โดยจะต้องเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

สภาฯ หมื่นล้าน ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก

สภาฯ หมื่นล้านแตกอีกแล้ว! รอบนี้ ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก น้ำไหลเจิ่งนองลงมายังอาคารจอดรถชั้นใต้ดินบี 1 ระดมแม่บ้านทำความสะอาด-จัดระเบียบอำนวยความสะดวก จนท.รุดซ่อมแซม

รพ.รามาธิบดี แถลงบุคลากรบาดเจ็บ 1 คน เหตุเพลิงไหม้

รพ.รามาธิบดี แถลงเหตุเพลิงไหม้ ผู้ป่วยทุกคนปลอดภัย มีบุคลากร 1 คน บาดเจ็บสูดเขม่าควัน รักษาตัวอยู่ไอซียู คาดกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ ด้านอุปนายกวิศวกรรมสถานฯ ตรวจสอบเบื้องต้นอาคารยังอยู่ในสภาพปกติ ขณะที่ พฐ. คาดไฟฟ้าลัดวงจร

“บิ๊กอ๊อด” พร้อมสู้คดีในชั้นศาล ย้ำทุกอย่างทำเพื่อสมาคม-สโมสร

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พร้อมสู้คดีในชั้นศาล หาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ฟ้อง ย้ำทุกอย่างทำเพื่อสมาคมและสโมสร

ซ่อมรถบัสทิพย์

บุกจับ 7 จนท.กองกีฬาฯ จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์เสียหาย 2.7 ล้าน

ป.ป.ช. สนธิกำลังปฏิบัติการร่วม ปปท. และ ป.ป.ป. จับกุม 7 เจ้าหน้าที่สังกัดสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ เสียหายกว่า 2.8 ล้านบาท