นักเศรษฐศาสตร์ หนุนยกระดับเทคโนโลยี พัฒนาแรงงาน

กรุงเทพฯ 1 พ.ค. –นักเศรษฐศาสตร์ หนุนยกระดับเทคโนโลยี พัฒนาแรงงาน แทนพึ่งพาแรงงานราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน แนะรัฐบาลใหม่ วางยุทธศาสตร์ประเทศ ถ่วงดุลอำนาจเศรษฐกิจจีน-สหรัฐ


ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ไทย มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมเกษตร ภาคอุตสาหกรรมการผลิตใช้แรงงานทักษะสูง ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และมีอัตราการเกิดที่ต่ำมาก ยอมรับว่าระบบเศรษฐกิจไทย ต้องอาศัยแรงงานอพยพจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ดังนั้น รัฐบาลใหม่ควรมียุทธศาสตร์และนโยบายเกี่ยวกับโครงสร้างประชากรและแรงงานอพยพ ตลอดจนการตั้งถิ่นฐานของคนที่ไม่มีสัญชาติไทยให้เหมาะสม

รัฐบาลใหม่ ไม่ควรปล่อยให้มีการตั้งถิ่นฐานเป็นการถาวร โดยไม่มีการจัดระเบียบ ต้องพิจารณามิติทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และความมั่นคงให้ชัดเจน เพราะการเปิดเสรีให้ชาวต่างชาติและนักลงทุนต่างชาติในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีจำกัดและคนไทยส่วนใหญ่ ยังไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ จึงต้องทำอย่างรอบคอบรัดกุม สิ่งสำคัญ คือการใช้เทคโนโลยี มาพัฒนาแรงงานไทยให้มีศักยภาพมากขึ้น


ยอมรับว่า ประเทศไทย มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ที่ไม่ได้ทำให้สวัสดิการโดยรวมของสังคมหรือของประชาชนดีขึ้นมากนักในทางเศรษฐศาสตร์ เรียกว่า
“Immiserizing Growth” เป็นภาวะขยายตัวทางการค้า แต่ทำให้อัตราการค้าแย่ลง และอัตราการค้าที่แย่ลง กลับมีผลในทางลบ มากกว่า ผลบวกจากการขยายตัวการค้า จึงนำไปสู่ความมั่งคั่ง สวัสดิการโดยรวมลดลง ประเทศยังต้องซื้อสินค้านำเข้าในราคาสูง ขณะที่ต้องลดราคาสินค้าส่งออกลงอย่างมากเพื่อให้ขายสินค้าได้มากขึ้น ไทยจึงต้องเป็นระบบเศรษฐกิจ แบบพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศอย่างมาก

ดร.อนุสรณ์ กล่าวว่า ในปี 2566 เมื่อได้รัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งแล้ว คาดว่าไทยจะสามารถเจรจาจัดทำข้อตกลงการค้าเสรี ในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่างๆได้อย่างรอบคอบ อย่างมีกลยุทธและรัดกุมยิ่งขึ้น การเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบโลกาภิวัตน์ ที่มีการแข่งขันเชิงอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจมากขึ้นของจีนและสหรัฐอเมริกา รัฐบาลใหม่ควรวางตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ของไทย โดยเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเท่าเทียมมากขึ้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่