กรุงเทพฯ 1 มี.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด ปี 2566 ยอดขายรถยนต์ BEV ของไทยเติบโตได้กว่า 270% หรือแตะ 50,000 คัน จากปัจจัยหนุนรอบด้าน ดันส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ BEV เพิ่มขึ้น 5.8% ของตลาดรถยนต์ไทย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ปี 2566 มีโอกาสที่ยอดขายรถยนต์ BEV จะสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดถึง 271.6% (YoY) ไปแตะระดับ 50,000 คัน เพิ่มขึ้นจาก 13,454 คันในปี 2565 ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ BEV เพิ่มขึ้นไปเป็นไม่น้อยกว่า 5.8% ของตลาดรถยนต์ไทยรวมที่คาดว่าจะทำได้ระหว่าง 865,000-895,000 คัน
แม้มีปัจจัยกดดันจากเรื่องระบบ Ecosystem ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคหลังมีการเคลมปัญหาชิ้นส่วนและการใช้งานบ่อยขึ้น รวมถึงประเด็นการรออะไหล่ที่ยาวนานเนื่องจากยังไม่มีฐานผลิตในไทย ประกอบกับเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว ซึ่งแรงหนุนหลัก มาจากทั้งปัจจัยด้านอุปสงค์จากความต้องการรถยนต์ BEV ที่ยังอยู่ในระดับสูงของผู้บริโภค อันเป็นผลของ (1) มาตรการกระตุ้นด้านราคาที่ถูกจุดจากทางภาครัฐและ (2) การเร่งกระจายจุดชาร์จรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งาน ประกอบกับ ปัจจัยด้านอุปทาน โดยมีสัญญาณบวกจาก (1) สถานการณ์การขาดแคลนชิปในการผลิตรถยนต์ที่เริ่มคลี่คลายขึ้นตามลำดับทำให้โอกาสส่งมอบรถยนต์ทำได้ดีขึ้น (2) ค่ายรถต่างส่งสัญญาณบุกตลาดมากขึ้นในไทย ไม่ว่าจะจากจีน ตะวันตก ญี่ปุ่น หรือแม้แต่เกาหลีใต้ โดยเตรียมเปิดตัวรถยนต์ BEV รุ่นใหม่ในไทยปีนี้หลายรุ่นหลาย Segment ตั้งแต่รถยนต์นั่งไปจนถึงรถปิกอัพ ซึ่งจะทำให้มีตัวเลือกรถยนต์ BEV มากขึ้นในตลาด (3) ยอดขายรถยนต์ BEV ในจีนตกลงมาก ทำให้จีนมีโอกาสส่งออกมาทำตลาดในไทยแทนมากขึ้น หลังรัฐบาลกลางจีนไม่ต่ออายุมาตรการให้เงินอุดหนุนในการซื้อรถยนต์ BEV
ทั้งนี้ ปัจจัยต่างๆ ข้างต้น เป็นตัวช่วยสนับสนุนให้ผู้ซื้อรถ BEV ในไทยมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงสภาวะการแข่งขันในตลาดรถ BEV ที่คงจะรุนแรงขึ้น แต่หากประเมินจากสภาพเศรษฐกิจที่กำลังซื้อของผู้บริโภคส่วนใหญ่ในประเทศยังมีความไม่แน่นอนแล้ว ทำให้รถยนต์ BEV ค่ายจีนที่เน้นจับตลาด Mass ด้วยระดับราคาต่ำกว่าค่ายรถสัญชาติอื่นชัดเจน และปัจจุบันยังสามารถส่งมอบรถยนต์ BEV ถึงมือลูกค้าได้เร็วขึ้นกว่าอดีต น่าจะส่งผลให้รถยนต์ BEV ของค่ายจีนในไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะนี้ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าน่าจะมีโอกาสที่สัดส่วนยอดขายรถยนต์ BEV ของค่ายจีนในปี 2566 อาจเพิ่มขึ้นเป็น 85% ต่อยอดขาย BEV รวม จากปี 2565 ที่สัดส่วนอยู่ที่ 78%
ในระยะถัดไป การแข่งขันในตลาดรถยนต์ BEV ไทยมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อหลายค่ายรถยังรุกตลาดต่อเนื่องและผู้บริโภคมีข้อมูลใหม่ๆ ถึงประสบการณ์การใช้รถยนต์ BEV ทำให้มองว่าค่ายรถ BEV ที่จะประสบความสำเร็จในไทยอาจต้องมีแบรนด์ที่เข้มแข็ง มีการลงทุนเรื่องการบริการหลังการขาย การซ่อมบำรุงและจัดหาอะไหล่ได้รวดเร็ว น่าเชื่อถือและทั่วถึง.-สำนักข่าวไทย