กรุงเทพฯ 14 กพ.- บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (GC) แจ้งการจ่ายปันผล งวดครึ่งปีหลังของปี 2565 จำนวน 0.25 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้น XD ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 โดยเป็นการจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานปี 2565 รวม 1 บาทต่อหุ้น
นางสาวภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงินและบัญชี บริหาร พีทีที โกลบอล เคมิคอลส์จำกัด (มหาชน) (GC) เปิดเผยผลประกอบการในปี 2565 ว่าบริษัทขาดทุนสุทธิ 8,752 ล้านบาท ลดลง 119% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 44,982 ล้านบาท บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 678,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากปีก่อนจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นจากการเปิดประเทศ ทำให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซีย-ยูเครนกระทบต่อราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสูงขึ้นอย่างมาก เช่นเดียวกับราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน
สำหรับ ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปี 2566 ยังคงมีความท้าทายจากสถานการณ์ต่างๆ ทั้งการยืดเยื้อของสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน นำมาซึ่งมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและพลังงานต่อประเทศรัสเซีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งอุปทานและราคาพลังงานทั่วโลก และนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อและความกังวลทางเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลก ในขณะที่มีปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดประเทศของประเทศจีนอย่างเป็นทางการ จากภาพรวมดังกล่าว IMF ได้ปรับประมาณการอัตราการเติบโตของ GDP โลกในปี 2566 ลงเหลือ 2.9% (ณ เดือนมกราคม2566) คาดว่าความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่น่าจะยังสามารถเติบโตได้ แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนจากปัญหาเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินของแต่ละประเทศ กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้นบริษัทคาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2566 อยู่ที่เฉลี่ย 85-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์การเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันของโลก (ณ เดือนตุลาคม 2565) ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปริมาณความต้องการใช้ในปีนี้ไปอยู่ที่ระดับ 101.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตลาดน้ำมันดิบยังคงมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในปีหน้า ทั้งสถานการณ์ขาดแคลนพลังงานของโลก การฟื้นตัวของอุปสงค์ โดยเฉพาะในประเทศจีนภายหลังการเปิดประเทศเพิ่ม
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย และบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แนะนำให้ ซื้อ หุ้น GC (BUY, TP66) มอง slightly negative ต่อขาดทุนสุทธิ 4Q 22 ของ PTTGC ที่ -968 ลบ. แย่ลงy-y q-q และ แย่กว่าที่เราคาด เพราะ รายการปรับมูลค่าสินค้าของ allnex หากตัดรายการพิเศษออกขาดทุนปกติ-4,967 ลบ. ต่ำกว่าคาด -4% โดยการแย่ลง y-y q-q เพราะ ธุรกิจปิโตรเคมีอัตรากำไรแย่ลงจากเผชิญ oversupply ส่วนธุรกิจโรงกลั่นมีปิดซ่อม และมี stock loss ซึ่งภาพดังกล่าวจะดีขึ้นใน 1Q23F เพราะ ความต้องการใช้พลาสติกของจีนฟื้นตามการเปิดเมืองหนุน spread โอเลฟินส์ รวมถึงไม่มีปิดซ่อมใหญ่โรงกลั่น และราคาน้ำมันดิบฟื้นจากช่วงธ.ค. 22 ทั้งนี้เราปรับลดกำไรปกติ 2023F ลง -26% สะท้อนการฟื้นตัวของจีนที่ช้ากว่าคาด แต่ไม่ได้เปลี่ยนภาพ การฟื้นตัวของปี 2023F ที่พลิกทำกำไร y-y หลัง stock + hedging loss ลดลงมาก รวมถึง อัตรากำไรฝั่งปิโตรเคมีฟื้นตัว.-สำนักข่าวไทย