GC เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 ดีขึ้นตามคาด

กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เผยผลประกอบการไตรมาส 1/68 สะท้อนทิศทางการฟื้นตัวที่ชัดเจนจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนเชิงรุก การปรับโครงสร้างธุรกิจ และการดำเนินกลยุทธ์ Holistic Optimization อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเดิมตั้งเป้าเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็น 5.5 พันล้านบาท จาก 4.5 พันล้านบาทในปีนี้


GC แจ้งว่า มีรายได้ไตรมาส 1 ปี 2568 อยู่ที่ 132,547 ล้านบาท และมีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (Adjusted EBITDA) อยู่ที่ 5,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102% จากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนความสำเร็จของการบริหารต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวทาง Holistic Optimization แม้ยังคงขาดทุนสุทธิที่ 2,567 ล้านบาท แต่ถือว่าปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2567 ที่รายงานขาดทุนสุทธิ 11,738 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ ผลประกอบการที่ดี เป็นผลมาจากการใช้วัตถุดิบอีเทนในกลุ่มธุรกิจโอเลฟินส์มากขึ้น ส่งผลให้ Adjusted EBITDA ปรับตัวดีขึ้น การบริหารต้นทุนต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษยังคงเติบโตดี โดย allnex มียอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่ลดลงเป็นผลจากการปรับโครงสร้างของ Vencorex

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงรักษาฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานกว่า 12,000 ล้านบาท และเงินสดรวมกว่า 37,000 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส ซึ่งสะท้อนถึงสภาพคล่องที่มั่นคง และความสามารถในการบริหารจัดการภายใต้ภาวะตลาดที่ผันผวน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่สนับสนุนกลยุทธ์ธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงและคาร์บอนต่ำ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว


นายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GC กล่าวว่า แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั่วโลกยังเผชิญความกดดันจากความไม่แน่นอน ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน อุปทานส่วนเกิน และมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ GC ได้เตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน โดยมุ่งปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความยืดหยุ่นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ได้ดำเนินมาตรการพลิกสถานการณ์ธุรกิจอย่างจริงจัง ภายใต้แนวทาง Holistic Optimization และ Asset Light ซึ่งเดิมตั้งเป้าเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายที่ 4,500 ล้านบาท แต่จากความคืบหน้าในการดำเนินงานที่ชัดเจน คาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายใหม่ที่ 5,500 ล้านบาทต่อปี ภายในปี 68 เพื่อรองรับความท้าทายที่เข้มข้นยิ่งขึ้น

โดยครอบคลุม 4 แนวทางหลัก ได้แก่
-Holistic Optimization: ปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานแบบองค์รวม พร้อมเดินหน้าต่อยอดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในเพื่อยกระดับประสิทธิภาพทั่วทั้งองค์กร
-Portfolio Transformation: บริหารจัดการสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าและลดต้นทุนในระยะยาว
-OPEX Saving: ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการควบคุมต้นทุนในทุกส่วนขององค์กรโดยไม่กระทบต่อคุณภาพการดำเนินงาน
-Other Enhancements: เพิ่มความสามารถในการจัดหาวัตถุดิบและเพิ่มความเป็นเลิศด้านการค้า

ทั้งนี้ GC ได้วางแผนรับมือสถานการณ์ความไม่แน่นอนอย่างรอบด้าน ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทฯ ประเมินว่า ผลกระทบโดยตรงยังอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากสินค้าที่ GC ผลิตในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จำหน่ายภายในประเทศ ขณะที่สัดส่วนการส่งออกจากฐานการผลิตอื่นของ GC ไปยังสหรัฐฯ มีไม่ถึง 1% สำหรับผลกระทบทางอ้อมจากภาวะเศรษฐกิจโลกและการเปลี่ยนแปลงของทิศทางการค้า บริษัทฯ ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเสริมความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ โดยได้วิเคราะห์สถานการณ์ในหลายรูปแบบ (scenario analysis) และวางแผนรับมือทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในทุกกรณี



ขณะเดียวกัน GC ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด GC StandOut # แตกต่างอย่างยั่งยืน โดยมุ่งพัฒนาความสามารถในการแข่งขันผ่านนวัตกรรม กระบวนการทำงานที่ทันสมัย และการต่อยอดจุดแข็งเฉพาะตัวอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการสร้างความแตกต่างผ่านการขยายธุรกิจในกลุ่มเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษและวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ Coating Resin พลาสติกชีวภาพ และเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ซึ่งดำเนินงานผ่านธุรกิจระดับโลกอย่าง allnex และ NatureWorks เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มของตลาดโลกที่มุ่งสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนและการลดการปล่อยคาร์บอนอีกด้วย. -511- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]