กรุงเทพฯ 7 ก.พ. – ตลท.เผย เดือน ม.ค.2566 Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยจากเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่องและจีนเปิดประเทศ ขณะที่ ก.พ.66 Fund Flow ไหลออกระยะสั้น ยังไม่ผิดปกติ ส่วนเงินบาทกลับมาอ่อนค่า อาจมีแรงเทขายแต่ไม่น่ารุนแรง
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าเดือน ม.ค.2566 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยจากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่องและมีข่าวดีจากการเปิดประเทศของจีน ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติและมูลค่าการส่งออกจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งในอนาคตอันใกล้ ขณะที่เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวมทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทยกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2566 จะเติบโตน้อยกว่าในปี 2565 ที่ 3.4% แต่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในหลายประเทศ โดยได้ปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2566 ว่าจะขยายตัวที่ 2.9% เพิ่มขึ้นจาก 2.7% ตามที่ได้เผยแพร่รายงานเมื่อเดือน ต.ค. 2565 ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกคลายความกังวลเกี่ยวกับการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง อีกทั้งเงินเฟ้อที่ลดลงอาจนำไปสู่การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศอื่นๆ เร็วกว่าคาด
สำหรับภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน ม.ค.2566 SET Index ปิดที่ 1,671.46 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า โดยปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค และปรับเพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบผลตอบแทนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง และกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีในไตรมาสสุดท้ายปี 2565 โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มบริการ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
สำหรับเดือน ก.พ.2566 คาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดยังไปได้ต่อ ส่วนที่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาต่างชาติขายออกสุทธิติดกันหลายนวัน ยังมองว่าไม่รุนแรง ทั้งนี้การไหลเข้า-ออก ของเงินทุน เป็นเรื่องปกติ ขณะที่การท่องเที่ยวยังส่งผลดีต่อเนื่องต่อตลาดทุน โดยเฉพาะการที่จีนเปิดประเทศ ส่วนช่วงนี้ที่เงินบาทกลับมาอ่อนค่า ส่งผลให้อาจมีแรงเทขายแต่ไม่น่ารุนแรง ตลาดจะหาสมดุลได้
ด้าน นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัว แม้สภาพคล่องเศรษฐกิจโลกลดลงแต่ไม่ลดลงเร็วเกินกว่าคาด นักลงทุนจึงต้องเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับนโยบายการลงทุน และความสามารถทางธุรกิจของแต่ละ บจ. ขณะที่มองว่าการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในช่วงเดือน พ.ค.2566 จะส่งผลกระทบต่อตลาดทุนก็ต่อเมื่อรู้ผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะการประกาศนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง เนื่องจากการเลือกตั้งในไทยไม่ใช่การชนะเลือกตั้งแบบพรรคเดียว แต่จะเป็นแบบพรรคผสม จึงต้องรอดูนโยบายเศรษฐกิจที่ชัดเจนเสียก่อน.-สำนักข่าวไทย