กรุงเทพฯ 30 ม.ค.-ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ย้ำกิจกรรมเลือกตั้ง ทั้งก่อนเลือกและช่วงเลือกตั้ง จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 40,000-50,000 ล้านบาท กระตุกเศรษฐกิจไทยไปพร้อมท่องเที่ยวฟื้นช่วงไตรมาส 2 โต 1-1.5% และดันให้เศรษฐกิจไทยตลอดปีจีดีพีเพิ่มขึ้นโตได้ 3-4%
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ว่า แม้จะยังไม่มีความชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาเมื่อไหร่ แต่คาดการณ์ว่าน่าจะมีการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2566 โดยจะเห็นว่าตั้งแต่ช่วงต้นปี 66 ที่ผ่านมา หลายพรรคการเมืองได้โหมโรงทำกิจกรรมในด้านต่างๆ กันมากขึ้น ซึ่งคาดว่าในช่วงนี้ไปจนถึงนายกฯ ประกาศยุบสภา จากที่หลายพรรคการเมืองทำกิจกรรมในด้านต่างๆ จะมีเม็ดเงินลงพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 1,000-2,000 ล้านบาทแล้ว
นอกจากนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา และรู้วันเลือกตั้งที่ชัดเจน โดยคาดว่าช่วงการจัดกิจกรรมหาเสียงเต็มรูปแบบของพรรคการเมืองทุกพรรคไปจนถึงวันเลือกตั้งจริง จะมีเม็ดเงินสะพัดทุกกิจกรรมลงในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศในระดับรากหญ้าไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 เติบโตไปพร้อมกับการท่องเที่ยว โดยดันจีดีพีไทยให้สูงขึ้นในช่วงไตรมาสดังกล่าว 1-1.5% และคาดว่าจะดันให้เศรษฐกิจไทยในช่วงตลอดปี 2566 มีอัตราการเติบโตเป็นบวก 3-4% ได้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย