ครม.เคาะร่าง พ.ร.ก.จัดการอาชญากรรมออนไลน์ รับจ้างเปิดบัญชีม้า คุก 3 ปี ปรับ 3 แสน

กรุงเทพฯ 24 ม.ค. – ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.ก.จัดการอาชญากรรมออนไลน์ ระงับธุรกรรมต้องสงสัย ใครเปิดบัญชีม้า โทษหนักคุก 3 ปี ปรับ 3 แสนบาท เผยสถิติ 1 มี.ค.-31 ต.ค.65 มีคดีออนไลน์กว่า 114,000 คดี เสียหายกว่า 22,000 ล้านบาท เฉลี่ย 800 คดี/วัน


น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ปัจจุบันปัญหามิจฉาชีพหลอกลวงให้ประชาชนโอนเงินผ่านการติดต่อทางโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวรวดเร็ว จากสถิติตั้งแต่ 1 มีนาคม – 31 ตุลาคม 2565 มีคดีออนไลน์เกิดขึ้นกว่า 114,000 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 22,000 ล้านบาท เฉลี่ย 800 คดี/วัน อีกทั้งยังไม่มีกฎหมายเฉพาะที่ให้อำนาจสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจ สามารถระงับการทำธุรกรรมใดๆ ที่ต้องสงสัยว่าเป็นธุรกรรมผิดทางอาญา โดยเฉพาะการหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินไปยังบัญชีผู้อื่นเป็นทอดๆ อย่างรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า “บัญชีม้า” ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถระงับการทำธุรกรรมหรืออายัดเงินได้ทันท่วงที

ดังนั้น ครม.จึงมีมติอนุมัติร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. …. เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายควบคุมเป็นการเฉพาะเพื่อคุ้มครองประชาชนอย่างเร่งด่วน สาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่หลอกลวงประชาชนให้โอนเงินผ่านการติดต่อทางโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และลงโทษผู้ที่เปิดบัญชีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำเงินหรือทรัพย์สินมาใช้ทำผิดอาญา โดยมีรายละเอียด อาทิ


  1. กำหนดให้มีกลไก “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” เพื่อกำหนดแนวทางในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกำหนดหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธาน และมีกรรมการโดยตำแหน่ง 8 คน
  2. สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ มีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูล
  3. ผู้ให้บริการโทรคมนาคม มีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูล และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงาน ปปง. และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้
  4. สำนักงาน กสทช. เป็นหน่วยงานจัดทำระบบฐานข้อมูลกลางเท่าที่จำเป็น เกี่ยวกับข้อมูลการลงทะเบียนผู้ใช้งาน ข้อความสั้น เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนและป้องกัน
  5. ขั้นตอนในการระงับการทำธุรกรรม อาทิ 1) กรณีสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจพบเหตุอันควรสงสัยเอง หรือได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงาน ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจระงับการทำธุรกรรม แล้วแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมต่อไปทันทีเป็นการชั่วคราว หากตรวจสอบแล้วไม่พบเหตุสงสัย ให้สามารถดำเนินการทำธุรกรรมต่อไปได้ 2) กรณีได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจระงับการทำธุรกรรม และแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราว เพื่อให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา 48 ชั่วโมง และให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์นั้น ภายในเวลา 7 วัน นับแต่วันได้รับแจ้ง
  6. การแจ้งข้อมูลหรือหลักฐาน สามารถแจ้งผ่านทางโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ กรณีแจ้งทางโทรศัพท์ให้ผู้ระงับการทำธุรกรรมบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร และส่งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน
  7. กำหนดบทลงโทษ แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้ 1) ห้ามมิให้ผู้ใดเปิดบัญชี บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตน และห้ามไม่ให้ผู้ใดยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้ซิมโทรศัพท์ของตนในทั้งที่รู้หรือควรจะรู้ ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในการทุจริตหรือทำผิดกฎหมาย ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2) ห้ามไม่ให้ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายบัญชี บัตรอิเล็กทรอนิกส์ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือซิมโทรศัพท์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการกระทำความผิดอาญา ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,0000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

น.ส.รัชดา กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมให้รับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบทุกประเด็น เพื่อให้การตรวจพิจารณาร่างพระราชกำหนดเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีผลบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถคุ้มครองและปกป้องประชาชนจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ ก่อนส่งร่างพระราชกำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว

จับตัวการใหญ่แก๊ง SIM BOX ชาวจีน

จับตัวการใหญ่แก๊ง SIM BOX ชาวจีน ว่าจ้าง 4 คนไทย ติดตั้ง SIM BOX รับสัญญาณโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชา หลอกลวงคนไทย ตรวจสอบประวัติพบคดียาวเป็นหางว่าว ทั้งในไทยและไต้หวัน