เร่งลงทุนโครงข่ายคมนาคม พลิกโฉมประเทศ

กรุงเทพฯ 12 ม.ค.- “ศักดิ์สยาม” ดันเม็ดเงินกว่า 1.2 แสนล้านบาท เร่งลงทุนโครงข่ายคมนาคมในปี 2566 หวังดันจีดีพีประเทศฟื้นตัว 2.35% เพิ่มขีดความสามารถพลิกโฉมประเทศ พร้อมกางแผนลุยโปรเจกต์ปีนี้ ครอบคลุมบก-น้ำ-ราง-อากาศ


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานสัมมนา Seminar 2022 By Transport Journal และกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “THAILAND SEAMLESS : MOVING FORWARD & GO GREEN” มิติใหม่ “คมนาคม” ก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้รอยต่อ พร้อมด้วยนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม โดยหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมงานสัมมนา

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า จากนโยบายภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และสามารถเชื่อมโยงการเดินทาง      ได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้สามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 2 – 3 ปีที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในหลายมิติไปพร้อม ๆ กัน ทั้งทางถนน ราง น้ำ และอากาศ เพื่อให้โครงข่ายคมนาคมครอบคลุม เชื่อมต่อ เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนไทย พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ โดยกระทรวงฯ มีแผนที่จะลงทุนในอนาคตทั้งแผนระยะกลางและระยะยาว เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยมีความพร้อมสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการที่มีความสะดวก รวดเร็ว ตรงเวลา ราคาสมเหตุสมผล และสามารถเข้าถึงการบริการได้ง่ายและเท่าเทียม รวมถึงรูปแบบการพัฒนาต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศ ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26) ว่า ประเทศไทยมีเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และจะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) ด้วยเป้าหมายดังกล่าว กระทรวงฯ จึงได้มุ่งมั่นพัฒนาระบบทางถนนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเร่งรัดการพัฒนาระบบขนส่งทางราง เพื่อให้เป็นรูปแบบการเดินทางหลักสำหรับการเดินทางของประชาชน และการขนส่งสินค้า เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการการขนส่งทางน้ำ และการขยายท่าอากาศยานให้รองรับ การเดินทางทางอากาศได้มากขึ้น ซึ่งกระทรวงฯ ได้วางกรอบแนวทางการพัฒนาระบบการคมนาคมของไทยไปสู่อนาคต ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมีโครงการสำคัญ ดังนี้

  1. โครงการแผนแม่บทการพัฒนา MR-Map ที่มุ่งเน้นการกระจายความเจริญไปในพื้นที่   ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยโครงข่าย MR-Map ประกอบด้วย โครงข่ายทางรถไฟและมอเตอร์เวย์ซึ่งมีการพัฒนา   อยู่ในพื้นที่เดียวกัน สำหรับการออกแบบแนวเส้นทาง MR-Map จะเป็นแนวตรงเพื่อลดระยะเวลาการเดินทาง ช่วยลดต้นทุนค่าขนส่ง ลดผลกระทบจากการเวนคืนที่ดิน และลดการแบ่งแยกชุมชนออกเป็นสองฝั่ง
  2. โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย – อันดามัน (Land Bridge) ซึ่งเป็นหนึ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคม เพื่อบูรณาการรูปแบบการขนส่งเชื่อมโยงสองฝั่งทะเลเป็นแบบท่าเรือเดียวเชื่อม 2 ฝั่ง (One Port Two Sides) และมีการนำเทคโนโลยีอัตโนมัติมาช่วยในการดำเนินการ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ ปัจจุบันโครงการฯ อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการลงทุน คาดว่าจะเสนอ ครม. ให้ความเห็นชอบในหลักการได้ภายในเดือนมกราคม 2566 โดยตามแผนจะเริ่มก่อสร้างในปี 2568 และจะก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการในปี 2573
  3. การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางถนน กระทรวงฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายสำเร็จเป็นรูปธรรมแล้ว อาทิ 1) การปรับความเร็วสูงสุดบนทางหลวงเป็นความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเส้นทางที่ได้มาตรฐานตามที่กฎกระทรวงกำหนด ปัจจุบันได้เปิดใช้งานแล้ว 11 สายทาง ระยะทางรวม 218 กิโลเมตร 2) การพัฒนานำระบบ M-Flow มาใช้ในการจัดเก็บค่าผ่านทาง โดยเป็นระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น ทำให้รถสามารถวิ่งผ่านด่านได้อย่างสะดวก คล่องตัว ไม่ต้องหยุด หรือชะลอรถ ช่วยแก้ปัญหารถติดบริเวณหน้าด่าน ปัจจุบันเปิดใช้งานแล้ว 4 ด่าน บนมอเตอร์เวย์ M9 โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กำลังขยายผลการพัฒนาระบบเพื่อใช้กับด่านบนทางพิเศษอีก 3 ด่าน ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2566 3)

การพัฒนาโครงข่ายมอเตอร์เวย์เชื่อมโยงภูมิภาค อาทิ มอเตอร์เวย์M6 สายบางปะอิน – นครราชสีมา มอเตอร์เวย์ M81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี ทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ และมอเตอร์เวย์ M82 สายบางขุนเทียน – เอกชัย – บ้านแพ้ว 4) การพัฒนาโครงข่ายถนนสายใหม่ เชื่อมโยงภูมิภาคและประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) จังหวัดบึงกาฬ และถนนแนวใหม่เชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน – สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม และ 5) การพัฒนาโครงข่ายทางถนนมอเตอร์เวย์/ทางพิเศษในอนาคต อาทิ ทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย ช่วงจตุโชติ – วงแหวนรอบนอกพรุงเทพฯ รอบที่ 3 และทางพิเศษสายเมืองใหม่ – เกาะแก้ว – กะทู้ จังหวัดภูเก็ต เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีแผนก่อสร้าง Missing Link เพื่อเติมเต็มโครงข่าย ทางถนนให้แล้วเสร็จเป็นรูปธรรมทำให้ระบบโลจิสติกส์ของประเทศมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จากการพัฒนาโครงข่ายทางถนนแล้วเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กระทรวงฯ ได้เริ่มให้บริการระบบขนส่งสาธารณะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV Bus) ในหลายเส้นทาง ปัจจุบันมีรถโดยสารไฟฟ้าให้บริการแล้ว จำนวน 318 คัน และภายในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,250 คัน

  1. การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางราง กระทรวงฯ มีนโยบายในการมุ่งส่งเสริมการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากทางถนนไปสู่ทางราง ทั้งการเดินทางในเมือง การเดินทางระหว่างเมือง และการขนส่งสินค้า โดยในปัจจุบันได้เปิดให้บริการระบบรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล แล้ว จำนวน 11 สาย ระยะทางรวม 212 กิโลเมตร อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 4 สาย ระยะทางรวม 114 กิโลเมตร อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการลงทุน และจะเปิดประมูลอีก 4 สาย คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2574 สำหรับอนาคตมีแผนดำเนินการเพิ่มเติมอีก 8 สาย อาทิ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีแดง การพัฒนารถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ และช่วงนครปฐม – ชุมพร รวมถึงโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ช่วงบ้านไผ่ – มุกดาหาร – นครพนม การพัฒนารถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ – หนองคาย และรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา) เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล แก้ไขปัญหาจราจร และปัญหามลพิษ
  2. การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางน้ำ กระทรวงฯ เร่งผลักดันการพัฒนาท่าเรือ และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการขนส่งทางน้ำ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือ อาทิ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 การพัฒนาท่าเรือกรุงเทพฝั่งตะวันตกเป็นท่าเรืออัตโนมัติ (Automated Container Terminal) การจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ โครงการจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาท่าเรือสำราญ (Marina) ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย และโครงการเรือขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งกระทรวงฯ ได้ให้ความสำคัญ ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้ผลักดันการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2563 ปัจจุบัน มีเรือโดยสารไฟฟ้าที่ให้บริการอยู่จำนวนทั้งสิ้น 51 ลำ และจะเพิ่มเป็น 69 ลำ ในปี 2566
     
  3. การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางอากาศ กระทรวงฯ มีแผนในการเพิ่มศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทางอากาศให้มากขึ้น เพื่อรองรับปริมาณการเดินทางทางอากาศ และเพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าสู่ประเทศไทยว่าจะมีสูงถึง 200 ล้านคน ในปี 2574 กระทรวงฯ จึงมีแผนการพัฒนาท่าอากาศยาน ดังนี้ 1) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 โดยเร่งรัดดำเนินการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคนต่อปี 2) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา เพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ EEC ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 15.9 ล้านคนต่อปี 3) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 40 ล้านคนต่อปี ในปี 2570 และ 4) การพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 เพื่อขยายขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารจากเดิม 12.5 ล้านคนต่อปี เป็น 18 ล้านคนต่อปี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ 2566 กระทรวงฯ มีวงเงินลงทุนทั้งในและนอกงบประมาณภาคคมนาคม จำนวน 124,839 ล้านบาท สามารถจำแนกตามแหล่งเงินได้เป็น เงินงบประมาณ 35,396 ล้านบาท และเงินนอกงบประมาณ (รายได้รัฐวิสาหกิจ เงินกู้ และ PPP) จำนวน 89,443 ล้านบาท ซึ่งจากแผนการลงทุนตามแผนปี 2566 จะทำให้เกิดการจ้างงานและมีการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการคมนาคมและขนส่งอย่างต่อเนื่อง เพิ่มศักยภาพให้เกิดการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน และยกระดับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เดินหน้าอย่างก้าวกระโดดต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร […]

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]