นนทบุรี 12 ต.ค.- รองอธิบดีกรมการค้าภายในแจ้งข่าวดีอยู่ระหว่างเจรจากับประเทศจีนเพื่อขอซื้อปุ๋ยเคมีหลังนำคณะเจรจาซื้อปุ๋ยกับซาอุฯได้มาเพิ่มหลายแสนตัน มั่นใจปริมาณสตอกปุ๋ยเพียงพอ แต่ราคายังสูงอยู่ ย้ำราคาต้องเป็นธรรมไม่เอาเปรียบมากเกินไป ชี้ได้ขอให้ผู้ค้าปุ๋ยทุกรายช่วยกันคิดราคาไม่แพงมากเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรทั่วไทยพร้อมส่งทีมออกตรวจโกดังทุกพื้นที่
ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า หลังจากที่ไทยนำคณะเยือนประเทศซาอุฯในช่วงปลายเดือน ส.ค.65 ที่ผ่านมา โดยได้มีการตกลงซื้อปุ๋ยจากบริษัทซาบิกและบริษัทมาเดนของซาอุดิอาระเบีย รวม 425,000 ตัน ทำให้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาปริมาณสตอกปุ๋ยทั่วประเทศได้เพิ่มขึ้น จากประมาณ 900,000 ตัน ในช่วงสิ้นไตรมาสแรกของปี เป็น 1.4 ล้านตัน ในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 3 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 56% และกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างเจรจากับประเทศที่เป็นแหล่งผลิตปุ๋ยเคมีเพิ่มเติม เช่น จีน ที่คาดว่าจะเปิดประเทศมากขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง เพื่อช่วยลดต้นทุนและปริมาณปุ๋ยเคมีเพียงพอให้แก่เกษตรกรทั่วประเทศกันต่อไป
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศได้ติดตามและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการฉวยโอกาสจำหน่ายปุ๋ยในราคาสูงเกินสมควร ซึ่งมีโทษตามกฎหมาย จำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยกำชับไปยังตัวแทนจำหน่ายทุกรายให้ขายปุ๋ยเคมีในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุนห้ามฉวยโอกาสขายแพงเกินสมควร
อย่างไรก็ตาม ได้รับรายงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจโรงงานของผู้นำเข้าและผู้ผลิตปุ๋ยเคมีรายใหญ่ 2 ราย ได้แก่ บริษัทเทอราโกร เฟอร์ติไลเซอร์ จำกัด และบริษัทไทยเซ็นทรัลเคมีจำกัด (มหาชน) ณ อ.นครหลวงจ.พระนครศรีอยุธยา และร่วมกับนายวีระพงศ์ สืบค้า พาณิชย์จังหวัดปทุมธานี ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์การจำหน่ายปุ๋ยเคมีในเขต อ. สามโคก จ. ปทุมธานี ไม่พบการกักตุนหรือการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ โดยปริมาณสต็อกปุ๋ยเคมี ทั้งสูตรหลักและสูตรทางเลือก มีเต็มโกดังทั้ง 2 โกดังถึง 1 แสนตัน
หรือกว่า 2 ล้านกระสอบเพียงพอต่อเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าว ดังนั้น กรณีเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนมาที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด จะมีการตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย