participants in Wife Carrying World Championships in Finland

คู่รักอเมริกันคว้าแชมป์ “วิ่งแบกเมียชิงแชมป์โลก”

ซงกายาร์วี 6 ก.ค. – คู่รักชาวอเมริกันคว้าแชมป์การแข่งขันวิ่งแบกภรรยาชิงแชมป์โลกประจำปี 2568 และปีนี้มีคู่รักหญิงรักหญิงลงแข่งด้วยเป็นครั้งแรก การแข่งขันแบกภริยาชิงแชมป์โลก (Wife Carrying World Championships) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 2535 ที่เทศบาลซงกายาร์วี (Sonkajärvi) ประเทศฟินแลนด์ รางวัลเป็นเบียร์ปริมาณเท่าน้ำหนักตัวภรรยา ปีนี้มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 200 คนจาก 18 ประเทศ การแข่งขันในปีนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากการแข่งขันแบบทีม ซึ่งมีทีมเข้าร่วม 9 ทีมจาก 3 ประเทศ หนึ่งในผู้เข้าร่วมที่ถูกพูดถึงมากที่สุด คือ เซเวรี อัลโลเนน ชายที่แข็งแกร่งที่สุดของฟินแลนด์ในปี 2567 การแข่งขันรายการนี้ เขาเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งในการแข่งขันประเภทสปรินต์ และอันดับที่ 4 ในการแข่งขันหลัก ส่วนคู่สามีภรรยาที่คว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันประเภทหลัก คือ แคเลบและจัสติน โรสเลอร์ คู่สามีภรรยาจากสหรัฐ คว้าตำแหน่งสูงสุดในการแข่งขันประเภทหลัก นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกของการแข่งขันรายการนี้ที่มีการเปิดตัวการแข่งขันประเภทหญิงแยกต่างหาก โดยมีคู่หญิงรักหญิง 5 คู่ลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขันประเภทใหม่ แต่ใช้รูปเดียวกันกับการแข่งดั้งเดิม โดยผู้เป็นสามีทำหน้าที่เป็นผู้แบกภรรยา วิ่งผ่านเส้นทางการแข่งขันที่มีอุปสรรคต่าง […]

Musk's last appearance with Trump

“อีลอน มัสก์” ตั้งพรรคการเมือง

วอชิงตัน 6 ก.ค. – ความสัมพันธ์ที่เคยสนิทสนมเข้าขากันได้ดีระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กับนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน แตกร้าวไปอีกขั้น เมื่อนายมัสก์ประกาศตั้งพรรคการเมือง โดยอ้างว่ากฎหมายงบประมาณของทรัมป์จะทำให้สหรัฐล้มละลาย นายมัสก์ เจ้าของธุรกิจหลายอย่าง เช่น รถไฟฟ้าเทสลา โพสต์ข้อความในเอ็กซ์ (X) ที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ด้วยคะแนนเสียงที่มีผู้สนับสนุน 2 ต่อ 1 พรรคอเมริกา (America Party) ได้ก่อตั้งขึ้นแล้วเพื่อคืนเสรีภาพให้แก่ทุกคน เขาตอบโพสต์ที่ผู้ถามในเอ็กซ์ถึงสิ่งที่ทำให้เปลี่ยนท่าทีจากรักใคร่ไปเป็นโจมตีนายทรัมป์ว่า คือการเพิ่มยอดขาดดุลงบประมาณที่สูงอย่างไร้สติอยู่แล้ว 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 64.77 ล้านล้านบาท) ในรัฐบาลโจ ไบเดน ไปเป็น 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 80.97 ล้านล้านบาท) เพราะจะทำให้ประเทศล้มละลาย ก่อนหน้านั้น 1 วันนายมัสก์ได้โพสต์ถามผู้ติดตามบัญชีเอ็กซ์ของเขาว่า ควรตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือไม่ เขาเคยพูดว่า จะเริ่มตั้งพรรคการเมืองใหม่และใช้เงินสนับสนุนเพื่อแย่งชิงเก้าอี้สมาชิกสภาของผู้ที่สนับสนุนกฏหมายลดภาษีและงบประมาณจำนวนมหาศาลที่นายทรัมป์เพิ่งลงนามบังคับใช้เป็นกฏหมายเมื่อวันชาติสหรัฐ 4 กรกฎาคม นายมัสก์ได้ทุ่มเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐช่วยนายทรัมป์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปลายปี 2567 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำกระทรวงการประสิทธิภาพรัฐบาลหรือโดจ […]

Damages from Texas flooding

น้ำท่วมเท็กซัสหาย-ตายเพิ่ม ชี้เลิกจ้างคนส่งผล

เท็กซัส 6 ก.ค.- เหตุน้ำท่วมฉับพลันในรัฐเท็กซัสของสหรัฐมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 43 คน และมีผู้สูญหายเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 27 คน อดีตเจ้าหน้าที่ชี้ว่า การตัดลดจำนวนเจ้าหน้าที่ด้านสภาพอากาศมีผลให้การแจ้งเตือนภัยล่าช้า เจ้าหน้าที่รัฐเท็กซัส ทางตอนกลางค่อนไปทางใต้ของสหรัฐแถลงว่า เหตุน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในพื้นที่เทศมณฑลเคอร์เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากพายุฝนฟ้าคะนองทำให้เกิดฝนตกหนัก จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 43 คนแล้ว ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 15 คน และปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง นายดัลตัน ไรซ์ ผู้จัดการเมืองเคอร์วิลล์แถลงว่า ในกลุ่มผู้สูญหายรวมเด็กนักเรียนหญิง 27 คนจากแคมป์มิสติกที่เป็นกิจกรรมค่ายฤดูร้อนสำหรับนักเรียนหญิงล้วน ซึ่งมีเด็กเข้าร่วมประมาณ 750 คน และพื้นที่ตั้งค่ายอยู่ใกล้แม่น้ำกัวดาลูป ศูนย์กลางเหตุน้ำท่วมในเทศมณฑลเคอร์ที่มีฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 15 นิ้ว และอาจมีผู้สูญหายในอีกหลายพื้นที่ ส่วนผู้ได้รับความช่วยเหลือมีมากกว่า 850 คน หลายคนต้องปีนหนีกระแสน้ำท่วมขึ้นไปอยู่บนต้นไม้    โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่า เขาและสตรีหมายเลข 1 ขอสวดภาวนาให้กับทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วมในรัฐเท็กซัส และยกย่องเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่กล้าหาญว่า กำลังปฏิบัติภารกิจอย่างสุดความสามารถ นางคริสตี โนม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิกล่าวว่า ประธานาธิบดีพร้อมตอบรับคำของผู้ว่าการรัฐเท็กซัสที่ต้องการให้ประกาศภัยพิบัติ เพื่อให้สามารถจัดสรรความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางมายังรัฐนี้ เธอกล่าวด้วยว่า […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Tariff chart included Vietnam and Indonesia

อินโดฯ หวังได้ข้อตกลงการค้าสหรัฐดีกว่าเวียดนาม

จาการ์ตา 3 ก.ค.- อินโดนีเซียจะลงนามข้อตกลงมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.1 ล้านล้านบาท) กับหุ้นส่วนในสหรัฐในสัปดาห์หน้า โดยหวังว่าจะทำให้ได้ข้อตกลงการค้ากับสหรัฐที่ดีกว่าข้อตกลงการค้าสหรัฐกับเวียดนาม นายไอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีประสานงานด้านกิจการเศรษฐกิจของอินโดนีเซียเปิดเผยกับสื่อในวันนี้ว่า อินโดนีเซียจะลงนามบันทึกความเข้าใจกับหุ้นส่วนทางธุรกิจในสหรัฐในวันที่ 7 กรกฎาคม เรื่องการลงทุนและซื้อสินค้าในสหรัฐมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหวังว่าการแก้ไขดุลการค้ากับสหรัฐจะช่วยให้อินโดนีเซียได้ข้อตกลงการค้ากับสหรัฐที่ดีกว่าเวียดนาม ก่อนที่การพักการใช้ภาษีศุลกากรรายประเทศอัตราใหม่เป็นเวลา 90 วันจะสิ้นสุดลงในเวลา 00.00 น.วันที่ 9 กรกฎาคมตามเขตเวลาตะวันออกฤดูร้อนของสหรัฐ ซึ่งช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียได้เสนอเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การเจรจาการค้าระหว่าง 2 ประเทศ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายนว่าจะเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากอินโดนีเซียในอัตราใหม่ร้อยละ 32 ข้อมูลของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐระบุว่า อินโดนีเซียได้ดุลการค้าสหรัฐ 17,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 578,620 ล้านบาท) ในปี 2567.-814.-สำนักข่าวไทย

Trump calls on US central bank head to quit immediately

“ทรัมป์” กดดันประธานเฟดลาออกทันที

วอชิงตัน 3 ก.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เรียกร้องให้นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด (Fed) ลาออกทันที เพิ่มการกดดันนายพาวเวลล์ ที่ไม่ยินยอมลดอัตราดอกเบี้ยตามที่เขาต้องการ นายทรัมป์โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาในเช้าวันนี้ตามเวลาสหรัฐว่า “ช้าเกินไปแล้ว” ควรลาออกทันที พร้อมกับแนบลิงก์บทความข่าวของบลูมเบิร์กเรื่องนายบิล พัลต์ ผู้อำนวยการสำนักงานกำกับดูแลการให้สินเชื่อบ้านของสหรัฐ (FHFA) เรียกร้องให้สอบสวนนายพาวเวลล์ กรณีให้การต่อวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ข่าวเรื่องสำนักงานใหญ่ของเฟดในกรุงวอชิงตันใช้ของราคาสูงและฟุ่มเฟือยในการบูรณะซ่อมแซม เป็นรายงานบิดเบือนและไม่ถูกต้องในหลายประเด็น นายทรัมป์วิจารณ์นายพาวเวลล์มาโดยตลอดเรื่องไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ได้กล่าวเมื่อต้นปีนี้ว่า ยังไม่คิดจะปลดจากตำแหน่ง ล่าสุดในการประชุมผู้ว่าการธนาคารกลางที่โปรตุเกสเมื่อวานนี้ นายพาวเวลล์ยอมรับตามที่มีผู้ตั้งคำถามว่า เฟดคงจะลดอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ หากรัฐบาลสหรัฐไม่ประกาศอัตราภาษีศุลกากรใหม่กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเมื่อเดือนเมษายน นายพาวเวลล์ วัย 72 ปี ดำรงตำแหน่งประธานเฟดมาตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 โดยได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีทรัมป์สมัยแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 และได้รับการเสนอชื่ออีกครั้งโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม 2569 เขาเคยกล่าวเมื่อนายทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ว่า จะไม่ลาออกหากนายทรัมป์ขอ […]

Prime Minister Hun Manet and Professor Jean-Marc Sorel

กัมพูชาได้ทนายมือดีมาช่วยคดีศาลโลก

พนมเปญ 3 ก.ค.- กัมพูชาเผยได้นักกฎหมายระหว่างประเทศที่เคยช่วยให้กัมพูชาชนะคดีเขาพระวิหารกลับมาช่วยในการยื่นเรื่องพิพาทดินแดน 4 จุดเข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศอีกครั้ง กัมพูชายังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการเดินหน้ายื่นเรื่องพิพาทดินแดน 4 จุดกับไทยได้แก่ บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย เข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) ล่าสุดสื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฌอง-มาร์ค โซเรล นักกฎหมายระหว่างประเทศชาวฝรั่งเศสที่เคยช่วยให้กัมพูชาชนะคดีพื้นที่โดยรอบปราสาทเขาพระวิหารเมื่อปี 2556 กลับมาช่วยคดีอีกครั้ง หลังจากที่กัมพูชาได้ยื่นเรื่องอย่างเป็นทางการต่อ ICJ ไปเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะผู้แทนทนายความระหว่างประเทศเดินทางถึงกัมพูชาเมื่อเย็นวันอังคารเพื่อหารือเกี่ยวกับการยื่นฟ้องคดีต่อ ICJ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาประกาศผ่านสื่อโซเชียลในวันเดียวกันว่า ได้พบปะกับนายโซเรลเพื่อหารือเรื่องการเดินหน้ากระบวนการนำข้อพิพาทขึ้นสู่การพิจารณาของ ICJ และระบุว่า นายโซเรลเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายและทนายความซึ่งช่วยให้กัมพูชาชนะการตีความคำตัดสินของศาลโลกกรณีพื้นที่โดยรอบปราสาทเขาพระวิหารเมื่อปี 2556 หลังจากที่ศาลเคยมีคำตัดสินเมื่อปี 2505 ว่าตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา นอกจากนี้นายฮุน มาเนตยังได้กล่าวขณะเข้าร่วมงานแห่งหนึ่งว่า การแสวงหาข้อยุติในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเป็นกลไกสันติภาพที่ดีที่สุดทั้งต่อไทยและกัมพูชา เนื่องจากกลไกดังกล่าวรับประกันได้ว่า เพื่อนบ้านทั้งสองจะยังคงเป็นมิตรและร่วมมือกันต่อไปไม่ว่าผลการตัดสินของศาลจะออกมาอย่างไร เพราะรัฐบาลสามารถนำคำตัดสินของศาลไปอธิบายให้ประชาชนทราบเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาล รวมถึงการถอนทหารออกจากพื้นที่ขัดแย้งตามคำตัดสินของศาล ด้านนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาได้เข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพรมแดนที่ติดกับเวียดนามในจังหวัดไพรแวง ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ชายแดนกัมพูชา-เวียดนามส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับเวียดนามต่อไป โดยเน้นย้ำว่า “เพื่อนบ้านที่ดีเปรียบเหมือนทองคำ แต่เพื่อนบ้านที่เลวเปรียบเหมือนทุ่นระเบิด” นายฮุนเซนกล่าวว่า พรรคประชาชนกัมพูชาได้ดูแลความสัมพันธ์กับเวียดนามมาอย่างยาวนาน […]

Trump posts made deal with Vietnam

“ทรัมป์” ประกาศบรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม

วอชิงตัน 3 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับเวียดนาม โดยสหรัฐจะเก็บภาษีศุลกากรร้อยละ 20 กับสินค้านำเข้าจากเวียดนาม ขณะที่เวียดนามจะเก็บภาษีศุลกากรร้อยละ 0 กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์เรื่องนี้ลงในทรูธโซเชียลเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมตามเวลาสหรัฐ หลังจากสนทนากับนายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ก่อนที่การพักใช้ภาษีศุลกากรรายประเทศอัตราใหม่เป็นเวลา 90 วันจะสิ้นสุดลงในเวลา 11.00 น.วันที่ 9 กรกฎาคมตามเวลาไทย เดิมนายทรัมป์ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเวียดนามในอัตราร้อยละ 46 แต่ได้บรรลุข้อตกลงเป็นเก็บร้อยละ 20 กับสินค้าเวียดนาม และร้อยละ 40 กับสินค้าถ่ายลำจากประเทศที่ 3 ขณะที่เวียดนามจะเก็บภาษีร้อยละ 0 กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียดเรื่องประเภทของสินค้าที่จะถูกเก็บภาษีแตกต่างกัน โดยเฉพาะสินค้าถ่ายลำที่ส่วนใหญ่ผลิตในจีนและตีตราว่าผลิตในเวียดนาม ด้านรัฐบาลเวียดนามยังไม่ยืนยันรายละเอียดอัตราภาษีในแถลงการณ์ที่แสดงความยินดีต่อข้อตกลงกับสหรัฐ ซึ่งเวียดนามระบุว่า เป็นแถลงการณ์ร่วมเรื่องกรอบการค้า และแสดงความมุ่งมั่นว่าจะเปิดตลาดโดยให้สิทธิพิเศษแก่สินค้าสหรัฐ รวมถึงยานยนต์แรงม้าสูง นอกจากนี้เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามยังได้ขอให้สหรัฐรับรองเวียดนามในฐานะเศรษฐกิจระบบตลาด และยกเลิกข้อจำกัดเรื่องการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีสูงมายังเวียดนามตามที่เวียดนามเรียกร้องมานาน แต่ทั้งเวียดนามและสหรัฐไม่ได้ความเห็นในเรื่องนี้ ปัจจุบันสหรัฐเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของเวียดนาม การค้าของสหรัฐกับเวียดนามได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่นายทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้าจีนจำนวนมหาศาลในการดำรงตำแหน่งสมัยแรกปี 2560-2564 เนื่องจากผู้นำเข้าของสหรัฐต้องการหลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาษีจีน […]

Dalai Lama delivers statement at Tibetan Religious Conference in Dharamshala

จับตาคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งดาไล ลามะ

ธรรมศาลา 2 ก.ค.- การคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งดาไล ลามะ ซึ่งเป็นตำแหน่งประมุขคณะสงฆ์ของศาสนาพุทธในทิเบต นอกจากเป็นที่ติดตามอย่างยิ่งสำหรับสาวกผู้ศรัทธาแล้ว ยังเป็นที่ติดตามของจีน อินเดีย และสหรัฐด้วยเหตุผลเชิงยุทธศาสตร์ ดาไล ลามะ องค์ปัจจุบันซึ่งเป็นองค์ที่ 14 มีชื่อเดิมว่า ลามะ โทนดุบ จะมีอายุครบ 90 พรรษา ในวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ เป็นลูกชาวนา บ้านเกิดอยู่ในพื้นที่ที่เป็นมณฑลชิงไห่ของจีนในปัจจุบัน และได้รับการรับรองจากคณะผู้ค้นหาของรัฐบาลทิเบตว่า เป็นดาไล ลามะองค์ที่ 13 กลับชาติมาเกิด ขณะที่มีอายุได้เพียง 2 ขวบ จากนั้นได้ย้ายไปยังพระราชวังโปตาลา กรุงลาซาในปี 2483 ขณะมีอายุ 5 ขวบเศษ และได้รับการสถาปนาเป็นผู้นำจิตวิญญาณของชาวทิเบตอย่างเป็นทางการ ทรงลี้ภัยอยู่ในเมืองธรรมศาลา ทางเหนือของอินเดียมาตั้งแต่ปี 2502 หลังจากประสบความล้มเหลวในการลุกฮือต่อต้านการปกครองของรัฐบาลจีนสมัยเหมา เจ๋อตุง ดาไล ลามะ องค์ปัจจุบันระบุในหนังสือชื่อ Voice for the Voiceless ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษและวางจำหน่ายเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ว่า ผู้สืบทอดตำแหน่งองค์ถัดไปจะเกิดนอกประเทศจีน ทรงขอให้ชาวทิเบตไม่ยอมรับผู้ที่ถูกเลือกด้วยวัตถุประสงค์ทางการเมืองจากผู้ใด […]

tails of Qantas planes

แฮกเกอร์เจาะข้อมูลผู้โดยสารแควนตัส 6 ล้านราย

ซิดนีย์ 2 ก.ค.- สายการบินแควนตัสของออสเตรเลีย แจ้งว่า แฮกเกอร์ได้เจาะระบบเข้าฐานข้อมูลที่มีข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสาร 6 ล้านราย ขณะนี้กำลังสอบสวนว่า มีข้อมูลถูกขโมยจำนวนเท่าใด แควนตัส ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติและสายการบินใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์วันนี้ว่า แฮกเกอร์ได้เล็งเป้าหมายเป็นศูนย์บริการลูกค้าแห่งหนึ่ง แล้วเข้าถึงแพลตฟอร์มบริการลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทภายนอกที่มีข้อมูลของลูกค้า 6 ล้านราย ประกอบด้วยชื่อ ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด และหมายเลขบัตรสมาชิกสะสมไมล์ แควนตัสทราบเรื่องนี้หลังจากตรวจพบกิจกรรมผิดปกติบนแพลตฟอร์มดังกล่าว และได้เร่งดำเนินการควบคุมการเจาะระบบโดยทันที ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบจำนวนข้อมูลที่ถูกขโมย ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนสำคัญ และยังไม่พบว่ามีผลกระทบต่อการดำเนินงานหรือความปลอดภัย นับเป็นการเจาะระบบครั้งใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย หลังจากออปตัส (Optus) ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมและเมดิแบงก์ (Medibank) บริษัทประกันสุขภาพชั้นนำถูกเจาะระบบขโมยข้อมูลลูกค้าแห่งละ 9.7 ล้านรายในปี 2565 และทำให้ออสเตรเลียต้องออกกฎหมายกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้น เหตุการณ์ครั้งนี้ซ้ำเติมแควนตัสที่กำลังหาทางกอบกู้ชื่อเสียงที่เสื่อมเสียจากหลายเรื่อง เช่น เลิกจ้างพนักงานภาคพื้นดินอย่างผิดกฎหมายในปี 2563 ช่วงโควิดระบาดทั้งที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล จำหน่ายบัตรโดยสารของเที่ยวบินที่ยกเลิกไปแล้ว ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐ แจ้งว่า กลุ่มเกอร์ชื่อสแคตเตอร์สไปเดอร์ (Scattered Spider) ได้เล็งเป้าหมายเป็นสายการบิน โดยที่สายการบินฮาวายเอียนแอร์ไลน์ของสหรัฐและสายการบินเวสต์เจ็ตของแคนาดาได้แจ้งแล้วว่า ถูกเจาะระบบ.-814.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen and Hun Manet at the event marking 74th founding anniversary of CCP June 28,2025

กัมพูชายืนยันไม่เจรจาถ้าไทยไม่เปิดด่าน

พนมเปญ 2 ก.ค.- ผู้นำกัมพูชายืนกรานจะไม่มีการเจรจากับไทยอย่างแน่นอน ตราบใดที่ฝ่ายไทยยังไม่ยอมเปิดด่านพรมแดนทั้งหมดตามปกติ เว็บไซต์ขแมร์ไทม์สรายงานว่า นายฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าววานนี้ขณะไปร่วมงานวันประมงแห่งชาติที่จังหวัดตาแก้วว่า กัมพูชาจะไม่ยอมเจรจากับไทยเพื่อลดความขัดแย้งพรมแดน ตราบใดที่ไทยยังไม่ยอมเปิดด่านทั้งหมดตามปกติ การแก้ไขสถานการณ์ขณะนี้ขึ้นอยู่กับฝ่ายไทย เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายปิดด่านก่อน ทำให้กัมพูชาต้องตอบโต้ในแบบเดียวกัน แต่หากไทยยอมเปิดจุดผ่านแดนทั้งหมดอย่างครบถ้วน กัมพูชาก็จะยอมร่วมเจรจาระหว่างผู้นำกองทัพเกี่ยวกับการลดกำลังทหาร แต่หากปล่อยให้สถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ก็ไม่สามารถจะบรรลุความไว้วางใจระหว่างกันได้ ผู้นำกัมพูชายังได้ตำหนิฝ่ายไทยว่า มีความคลุมเครือและมีความไม่สอดคล้องกันระหว่างฝ่ายนโยบายและฝ่ายปฏิบัติ ประกอบกับขาดการประสานงานกันระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการหาทางแก้ปัญหาที่ชัดเจน น่าเชื่อถือ และมีความยั่งยืน โดยยกตัวอย่างเรื่องการปิดด่านว่า รัฐบาลไทยสั่งการอย่างหนึ่ง  แต่ทหารกลับปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง นายฮุน มาเน็ตยังได้ส่งข้อความไปยังสื่อไทยที่กล่าวหากัมพูชาว่าปฏิบัติไม่ดีต่อคนไทย กรณีที่มีรายงานว่ามีรถยนต์ของคนไทยตกค้างอยู่ในฝั่งกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนว่า กัมพูชาได้ยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่มีรถยนต์ของไทยตกค้างอยู่ในกัมพูชา อีกทั้งยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยที่ว่า กัมพูชาแทรกแซงการเมืองไทย โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชากับ นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ตามด้วยการที่นายฮุน เซนวิจารณ์ตระกูลชินวัตรต่อสาธารณชน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุว่า การจะปลดหรือแต่งตั้งใครในทางการเมืองของไทยเป็นเรื่องภายในของไทย ไม่เกี่ยวกับกัมพูชา แต่หากมีปัญหากระทบถึงกัมพูชา กัมพูชาก็จำเป็นต้องตอบโต้.-816(814).-สำนักข่าวไทย

US Senate passes Trump's sweeping tax-cut, spending bill, sends to House

จับตาร่าง กม.งบทรัมป์ หลัง สว. ผ่านเฉียดฉิว

วอชิงตัน 2 ก.ค.- สมาชิกวุฒิสภา (สว.) สหรัฐผ่านความเห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายและลดภาษีจำนวนมหาศาลของรัฐบาลแล้วเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐด้วยคะแนนเสียงเฉียดฉิว และจะต้องประนีประนอมกับร่างฯ ของสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เพื่อให้ประธานาธิบดีลงนามบังคับใช้ต่อไป ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการลงนามบังคับใช้ร่างกฎหมายวันบิ๊กบิวตีฟูล (One Big Beautiful Bill Act: OBBBA หรือ OBBA) ภายในวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งตรงกับวันชาติของสหรัฐ ร่างฯ นี้จะต่ออายุกฎหมายลดภาษีและการจ้างงาน (Tax Cuts and Jobs Act) ปี 2560 ของรัฐบาลทรัมป์สมัยแรกที่จะหมดอายุในสิ้นปีนี้ ตัดลดโครงการสวัสดิการสังคม เพิ่มงบประมาณกลาโหมและการควบคุมคนเข้าเมือง และจะทำให้สหรัฐมีหนี้สินเพิ่มขึ้นอีกจากหนี้สินปัจจุบันที่สูงถึง 36.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,175 ล้านล้านบาท) สว. สหรัฐผ่านความเห็นชอบร่างฯ ฉบับ สว. ที่มีการอภิปรายกันตลอดทั้งคืนด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 50 โดยอาศัยเสียงของรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์เป็นผู้ตัดสิน เนื่องจาก […]

1 2 3 4 5 6 677