Workers lifted out of collapsed Los Angeles tunnel

คนงาน 31 ชีวิตรอดจากอุโมงค์ LA ทรุดตัว

ลอสแอนเจลิส 10 ก.ค. – เกิดเหตุอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ในนครลอสแอนเจลิส หรือแอลเอ (LA) ของสหรัฐ ทรุดตัวพังลงมาบางส่วน มีคนงาน 31 คนติดอยู่ภายใน และได้รับการช่วยเหลือนำตัวขึ้นมาด้านบนอย่างปลอดภัย แถลงการณ์ของหน่วยงานดับเพลิงแอลเอระบุว่า เหตุเกิดที่เขตวิลมิงตันในนครแอลเอ อุโมงค์ดังกล่าวมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.5 เมตร โดยส่วนที่พังลงมาเพราะดินทรุดตัวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบำบัดน้ำเสียของเทศมณฑลแอลอที่กำลังมีการสร้างอุโมงค์ความยาว 7 ไมล์ หรือราว 11.25 กิโลเมตรเพื่อปรับปรุงระบบระบายน้ำ ขณะเกิดเหตุมีคนงานติดอยู่ 27 คน และมีคนงานอีก 4 คน เข้าไปช่วยเหลือ ทั้งหมดปีนกองซากที่พังถล่มเพื่อออกจากจุดดังกล่าว และได้รับการช่วยเหลือนำตัวขึ้นกระเช้า พากลับขึ้นไปยังจุดที่เป็นทางเข้าอุโมงค์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 5 ไมล์ หรือกว่า 8 กิโลเมตร คนงานทุกคนปลอดภัย ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนทีมงานที่ให้การช่วยเหลือมีมากกว่า 100 คน บริษัทผู้รับเหมาให้ข้อมูลว่า อุโมงค์ดังกล่าวจะทำหน้าที่ส่งน้ำเสียไปยังโรงงานบำบัด และระบายน้ำที่ผ่านการบำบัดจากโรงงานลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก มูลค่าการก่อสร้างกว่า 630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 20,600 ล้านบาท).-816(814).-สำนักข่าวไทย

NASA logo on wall

ลูกจ้าง NASA เตรียมออกไม่ต่ำกว่า 2,000 คน

วอชิงตัน 10 ก.ค. – ลูกจ้างตำแหน่งสูงอย่างน้อย 2,145 คน ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา (NASA) ของสหรัฐ เตรียมลาออก หลังจากรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ดำเนินนโยบายลดขนาดองค์กรของหน่วยงานรัฐบาลกลาง เว็บไซต์โพลิติโก (POLITICO) ของสหรัฐรายงานอ้างเอกสารที่ได้รับมาว่า ลูกจ้างทั้ง 2,145 คนนี้อยู่ในตำแหน่งที่มี GS-13 ถึง GS-15 ซึ่งเป็นการจัดอันดับความเชี่ยวชาญของข้าราชการพลเรือนเพื่อกำหนดอัตราค่าจ้างในสหรัฐ (General Schedule) ที่มีตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 15 ที่เป็นอันดับสูงสุด โดยอยู่ในกลุ่มลูกจ้าง 2,694 คนที่ตกลงลาออกโดยสมัครใจกับนาซา หลายคนทำงานในภารกิจส่งนักบินอวกาศขึ้นไปในอวกาศ ที่เหลือทำงานในฝ่ายสนับสนุน เช่น ไอที การเงิน ครอบคลุมศูนย์ภาคสนามในระดับภูมิภาคของนาซาทั้งหมด 10 แห่ง ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐบาลสหรัฐได้เผยแพร่ร่างสรุปคำของบประมาณปี 2569 ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568-30 กันยายน 2569 เสนอตัดลดงบประมาณของนาซาลงเกือบร้อยละ 25 จาก […]

ASEAN, China affirm free trade cooperation amid 'challenging times'

อาเซียน-จีนย้ำกระชับความร่วมมือการค้าเสรี

กัวลาลัมเปอร์ 10 ก.ค.- สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนและจีนย้ำเรื่องการกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าเสรี ท่ามกลางช่วงเวลาท้าทายที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับจีนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียในวันนี้ นายโมฮาหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนประจำปีนี้กล่าวว่า ทุกวันนี้สันติภาพโลกมีความเปราะบางอย่างเห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามเป็น 2 เท่าในการสร้างหลักประกันว่า สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้ได้รับการธำรงไว้ ด้วยการสร้างความมั่นใจว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จะไม่เพิ่มหรือเสี่ยงบั่นทอนความมั่นคงและการค้าโลกในทะเลจีนใต้ ดังนั้นอาเซียนจึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายจัดการสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ด้วยปัญญาและความรอบคอบ อาเซียนยินดีที่มีความคืบหน้าเรื่องระเบียบปฏิบัติในทะเลจีนใต้ และหวังว่าเรื่องนี้จะเดินหน้าไปในทางสร้างสรรค์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียกล่าวถึงเรื่องการค้าว่า จะต้องร่วมกันเฝ้าระวังภัยคุกคามต่อระบบการค้าโลกที่เปิดกว้าง เป็นธรรม และตั้งอยู่บนกฎระเบียบ การลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน 3.0 (ACFTA 3.0) ในปลายปีนี้จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะข้อตกลงนี้จะช่วยให้อาเซียนและจีนสามารถกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความยืดหยุ่นในช่วงเวลาท้าทายปัจจุบันและหลังจากนี้ ด้านนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าวว่า ท่ามกลางช่วงเวลาสำคัญที่มีความปั่นป่วนและแปรเปลี่ยนระดับโลกในขณะนี้ จำเป็นต้องเรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์ ส่งเสริมอย่างแข็งขันให้มีโลกหลายขั้วที่มีความเสมอภาคและเป็นระเบียบ ส่งเสริมเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์ที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์ และผลักดันให้ระเบียบสากลมุ่งไปสู่ทิศทางที่เป็นธรรมและสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น นายหวังกล่าวว่า จีนจะร่วมกับประเทศในอาเซียนเชิดชูคุณค่าของเอเชียเรื่องสันติภาพ ความร่วมมือ การเปิดกว้าง และการมีส่วนร่วม จะสร้างมาตุภูมิที่สันติ ปลอดภัย รุ่งเรือง สวยงาม และเป็นมิตร จะหาทางส่งเสริมประชาคมจีน-อาเซียนที่ใกล้ชิดมากขึ้นและมีอนาคตร่วมกัน และจะมุ่งอุทิศตัวให้แก่การฟื้นฟูเอเชียในยามที่โลกใต้หรือโลกบอลเซาท์ (Global South) มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อาเซียนที่มีสมาชิก 10 ประเทศเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของจีน […]

Yoon Seok-Yeol arrives for hearing on detention warrant on July 9, 2025

อดีตผู้นำเกาหลีใต้กลับเข้าคุกรอบสอง

โซล 10 ก.ค. – นายยุน ซ็อก ยอล อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ต้องถูกควบคุมตัวอีกครั้ง หลังจากศาลออกหมายจับในคดีอาญา จากการประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อปลายปีที่แล้ว ศาลแขวงโซลกลางได้อนุมัติหมายจับนายยุนในวันนี้ ตามคำขอของอัยการพิเศษในคดีอาญา กรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ทำให้นายยุนต้องถูกจับกุมอีกครั้งและถูกส่งตัวไปคุมขังเป็นครั้งที่สอง ศาลให้เหตุผลที่อนุมัติหมายจับว่า เนื่องจากมีความกังวลว่านายยุนอาจจะหาทางทำลายหลักฐานในการพิจารณาคดี นายยุนถูกนำตัวไปควบคุมไปไว้ที่ศูนย์คุมขังอึยวัง ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางใต้ราว 20 กิโลเมตร หลังจากเมื่อช่วงต้นปีเขาเคยถูกคุมตัวที่ศูนย์แห่งนี้เป็นเวลา 52 วัน และรับการปล่อยตัวในเดือนมีนาคมให้ออกมาขึ้นศาลสู้คดี ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำตัดสินเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนให้ถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี นายยุนวัย 64 ปี ต้องกลับไปถูกคุมขังในห้องที่มีพื้นที่เพียง 10 ตารางเมตร และนอนบนที่นอนแบบม้วนเก็บ โดยไม่มีเครื่องปรับอากาศ จากเดิมที่พักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรูของกรุงโซลขนาด 164 ตารางเมตร มูลค่า 7,500 ล้านวอน (ราว 178 ล้านบาท) กับภรรยา สุนัขและแมวรวม 11 ตัว ทีมอัยการในคดีอาญาได้ยื่นขอหมายจับนายยุนรวม 5 กระทง ซึ่งมีทั้งการละเมิดสิทธิของคณะรัฐมนตรีด้วยการเรียกประชุมเฉพาะบางคนที่นายยุนคัดเลือกมาไม่นานก่อนที่จะประกาศกฎอัยการศึก  ทั้งยังถูกกล่าวหาว่า […]

Trump's letter to Brazil on tariff 50%

“ทรัมป์” รีดภาษีอีก 8 ประเทศ บราซิลหนักสุด 50%

วอชิงตัน 10 ก.ค. – รัฐบาลสหรัฐเดินหน้าส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีเพิ่มอีก 8 ประเทศ โดยบราซิลถูกเรียกเก็บภาษีหนักที่สุดถึงร้อยละ 50 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ ในจดหมายของสหรัฐที่ส่งถึงประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ระบายความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อการดำเนินคดีกับนายฌาอีร์ โบลโซนารู อดีตประธานาธิบดีบราซิลมีที่ความใกล้ชิดกับทรัมป์ว่า เป็นการล่าแม่มด นายทรัมป์ยังได้วิจารณ์บราซิลอีกหลายเรื่อง ทั้งยังขู่ว่าจะเก็บภาษีเพิ่มอีกด้วย หลายฝ่ายมองว่า การที่นายทรัมป์รีดภาษีกับบราซิลหนักถึงร้อยละ 50 อาจมาจากความไม่พอใจประธานาธิบดีดา ซิลวา ที่วิจารณ์นายทรัมป์ในการแถลงข่าวระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มบริกส์ (BRICS) เมื่อสองวันก่อนหลังจากนายทรัมป์ขู่จะเก็บภาษีเพิ่มอีกร้อยละ 10 กับประเทศสมาชิกกลุ่มนี้  หากมีนโยบายต่อต้านสหรัฐ ผู้นำบราซิลกล่าวว่า นายทรัมป์จำเป็นต้องตระหนักว่าโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว  โลกนี้ไม่ต้องการจักรพรรดิ และควรมีทางเลือกในการสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าได้อย่างเสรี โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก การเรียกเก็บภาษีสินค้าจากบราซิลสูงถึงร้อยละ 50 ถือว่าเป็นอัตราที่สูงมากและเหนือความคาดหมาย ข้อมูลของสำนักงานสำมะโนสหรัฐระบุว่า บราซิลเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับที่ 15 ของสหรัฐ การค้าทวิภาคีเมื่อปีที่แล้วมีมูลค่า 92,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 ล้านล้านบาท) โดยที่สหรัฐเป็นฝ่ายเกินดุลการค้าบราซิล […]

Trump announces 50% tariff on copper effective August 1

“ทรัมป์” ขึ้นภาษีทองแดงเป็น 50%

วอชิงตัน 10 ก.ค. – ผู้นำสหรัฐประกาศขึ้นภาษีทองแดงนำเข้า เป็นร้อยละ 50 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ โดยอ้างเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ หลังจากส่งสัญญาณว่าจะขึ้นภาษีทองแดง ได้เพียง 1 วัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้รับการประเมินด้านความมั่นคงแห่งชาติอย่างครบสมบูรณ์ว่าจำเป็นต้องใช้ภาษีใหม่กับทองแดง เพื่อปกป้องการผลิตทองแดงในสหรัฐ และว่าทองแดงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมหลายอย่าง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ เครื่องบิน ศูนย์ข้อมูล แบตเตอรี่ลิเทียมไออน ระบบป้องกันภัยกลาโหม โดยเป็นวัสดุที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ใช้มากเป็นอันดับ 2 ข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ สังกัดกระทรวงมหาดไทยสหรัฐ ระบุว่าสหรัฐนำเข้าทองแดงบริสุทธิ์เกือบครึ่งหนึ่งของการใช้งาน โดยเมื่อปีที่แล้วนำเข้ามากถึง 810,000 ตัน การที่สหรัฐขึ้นภาษีศุลกากรทองแดงนำเข้า เป็นร้อยละ 50 จะเป็นผลดีต่อการผลิตทองแดงในสหรัฐ ซึ่งมีการทำเหมืองมากกว่า 2 ใน 3 อยู่ในรัฐแอริโซนา ทางตะวันตกค่อนไปทางใต้ของประเทศ รอยเตอร์ชี้ว่า ประเทศที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากอัตราภาษีทองแดงร้อยละ 50 ได้แก่ ชิลี แคนาดา และเม็กซิโก เนื่องจากเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ไปยังสหรัฐ ตามข้อมูลของสำนักสำมะโนสหรัฐ […]

Protesters rally in Washington against Trump administration layoffs

ศาลฎีกาสหรัฐเปิดทางทรัมป์เดินหน้าเลิกจ้าง

วอชิงตัน 9 ก.ค.- ศาลฎีกาสหรัฐมีคำสั่งเปิดทางให้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้านโยบายตัดลดตำแหน่งงานรัฐบาลกลางครั้งใหญ่และลดขนาดองค์กรจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้มีการเลิกจ้างคนหลายหมื่นคนและปรับโฉมระบบราชการรัฐบาลกลาง ศาลฎีกามีคำสั่งสั้น ๆ โดยไม่ลงนามเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลทรัมป์มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จในการโต้แย้งว่า คำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ชอบด้วยกฎหมายตามอำนาจที่มี แต่ศาลไม่ได้ประเมินเรื่องความชอบด้วยกฎหมายของแผนการเลิกจ้างของแต่ละหน่วยงานเป็นการเฉพาะ คำสั่งดังกล่าวเท่ากับยกเลิกคำสั่งของซูซาน อิลสตัน ผู้พิพากษาศาลแขวงนครซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ระงับการเลิกจ้างครั้งใหญ่ในหน่วยงานรัฐบาลกลางในระหว่างที่คดียังไม่สิ้นสุดด้วยเหตุผลว่า นายทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขต กรณีออกคำสั่งฝ่ายบริหารในเดือนกุมภาพันธ์ให้หน่วยงานต่าง ๆ เตรียมตัวเรื่องการเลิกจ้างครั้งใหญ่ โดยมีแผนจะลดจำนวนคนในกระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงคลัง กระทรวงทหารผ่านศึก และอีกสิบกว่าหน่วยงาน อย่างไรก็ดี แผนการเลิกจ้างเหล่านี้ที่มีการยื่นไปแล้วบางส่วนเมื่อต้นปีอาจเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายหลายประเด็น เช่น การต่อต้านจากสหภาพ ข้อจำกัดทางกฎหมาย การคุ้มครองข้าราชการ แหล่งข่าวในทำเนียบขาวระบุว่า คำสั่งศาลฎีกาไม่ได้อนุญาตให้เลิกจ้างได้ทันที และอุปสรรคทางกฎหมายหรือเวลาที่ล่าช้าออกไปอาจส่งผลต่อขอบเขตและช่วงเวลาของการเลิกจ้าง ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาพบว่า ผู้ตอบร้อยละ 56 สนับสนุนนโยบายลดขนาดหน่วยงานรัฐบาลกลางของนายทรัมป์ ขณะที่ร้อยละ 40 คัดค้าน และหากแยกตามพรรคที่สังกัด ผู้ตอบที่เป็นรีพับลิกันสนับสนุนมากถึงร้อยละ 89 ขณะที่ผู้ตอบที่เป็นเดโมแครตสนับสนุนเพียงร้อยละ 26 นายทรัมป์ใช้วันสาบานตนรับตำแหน่งวันที่ 20 มกราคมปีนี้เริ่มนโยบายลดจำนวนลูกจ้างหน่วยงานรัฐบาลกลางที่มีมากถึง 2.3 ล้านคน ดำเนินการโดยกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลหรือโดจ (Doge) […]

Malaysia calls for stronger inter-ASEAN trade amid global uncertainty

มาเลเซียเรียกร้องอาเซียนผนึกกำลัง

กัวลาลัมเปอร์ 9 ก.ค. – นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เรียกร้องให้สมาชิกอาเซียนดำเนินการอย่างมีจุดมุ่งหมายและยกระดับการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน นายกรัฐนตรีอันวาร์ ซึ่งเป็นประธานอาเซียนประจำปีนี้ กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 58 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในวันนี้ โดยได้พูดถึงภาษีศุลกากร ข้อจำกัดในการส่งออกและอุปสรรคต่อการลงทุนว่า เป็นเครื่องมือสำคัญในการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ไม่ได้เอ่ยถึงสหรัฐที่ประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าจาก 6 ชาติอาเซียนในอัตราระหว่างร้อยละ 25-40 แม้ว่าสมาชิกอาเซียนบางประเทศพยายามยื่นข้อเสนอที่ยอมอ่อนข้อให้แก่สหรัฐอย่างกว้างขวาง และเจรจาขอลดอัตราภาษี ขณะนี้มีเวียดนามเพียงชาติเดียวในอาเซียนที่บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐไปแล้ว โดยได้ลดหย่อนการเรียกเก็บภาษีจากร้อยละ 46 % ลงมาเหลือที่ร้อยละ 20 ปัจจุบันอาเซียนมีสมาชิก 10 ประเทศ เป็นกลุ่มประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก และมีขนาดเศรษฐกิจรวมกันใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก สมาชิกบางประเทศได้รับประโยชน์จากการปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานที่มาจากจีน.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Thai police at the house of Kok An’s daughter in Bangkok

กัมพูชายืนยัน “ก๊ก อาน” ไม่เกี่ยวแก๊งฉ้อโกง

พนมเปญ 9 ก.ค. – ทางการกัมพูชาปฏิเสธว่า นายก๊ก อาน คนสนิทของนายฮุน เซน ไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และกาสิโน ขณะที่นายฮุน เซน ท้าให้ทางการไทยสอบสวน “ทักษิณ” ด้วย เพราะมีความใกล้ชิดกับเขาเช่นกัน เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ ไทม์ส ของกัมพูชา รายงานว่า หน่วยงานตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ในกัมพูชา ยืนยันว่า ทั้งอินเตอร์โพลและทางการกัมพูชาไม่ได้รับการแจ้งจากทางการไทยเกี่ยวกับการออกหมายจับนายก๊ก อาน สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.กัมพูชา ซึ่งเป็นคนสนิทของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยไทยระบุว่า นายก๊ก อาน เป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันกับแก๊งฉ้อโกงออนไลน์ที่ปฏิบัติการอยู่ในอาคารที่นายก๊ก อาน เป็นเจ้าของในเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย พ.ต.อ.ตู๊ด โบรา รองผู้บัญชาการอินเตอร์โพลกัมพูชา กล่าวว่า นับตั้งแต่มีรายงานของสื่อไทยเรื่องศาลไทยออกหมายจับนายก๊ก อาน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสือขอความร่วมมือจากทางการไทย ทั้งที่ตามปกติแล้วเมื่อประเทศใดในภูมิภาคมีข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรที่หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศอื่น หน่วยงานตำรวจสากลในประเทศนั้นจะต้องส่งหนังสือแจ้งไปยังทางการอีกประเทศหนึ่งเพื่อขอความร่วมมือในการจับกุมผู้ต้องสงสัย ดังนั้น เขาจึงไม่เชื่อรายงานข่าวดังกล่าวของสื่อไทย ด้านนายเจีย ธีริธ โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลกัมพูชา ยืนยันว่า […]

Chinese cities step up precautions for Typhoon Danas

จีนเตือนภัยน้ำท่วมหลังพายุขึ้นฝั่งตะวันออก

ปักกิ่ง 9 ก.ค.- พายุโซนร้อนดานัส (Danas) ขึ้นฝั่งที่บริเวณตะวันออกของจีนในวันนี้ ทางการต้องแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลันและปิดโรงเรียน ขณะที่พายุกำลังเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมไฮเทคของประเทศ เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาจีนขอให้ประชาชนอยู่แต่ในอาคาร เนื่องจากพายุที่อ่อนกำลังลงจากไต้ฝุ่นเริ่มทำให้เกิดฝนตกหนัก จากการดูดซับความชื้นขณะเคลื่อนตัวผ่านทะเลจีนใต้และพัดไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ด้วยความเร็วลม 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุโซนร้อนดานัสกำลังพัดผ่านมณฑลเจ้อเจียงและมณฑลฝูเจี้ยน และมุ่งหน้าไปยังมณฑลเจียงซีและมณฑลกวางตุ้ง พยากรณ์ว่า อาจทำให้บางพื้นที่มีฝนตกมากถึง 300 มิลลิเมตร สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของทางการจีนรายงานว่า ทางการท้องถิ่นริมฝั่งแม่น้ำที่มีท่าเรือสำคัญในเมืองฝูโจวและเมืองเซี่ยเหมินเตรียมการรับมือกับระดับน้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้น และมีการระงับการเดินเรือโดยสารในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ยังมีการงดการเรียนการสอนในเมืองฝูโจวในวันนี้ตามที่ทางการประกาศเหตุฉุกเฉินน้ำท่วมและไต้ฝุ่น ไต้ฝุ่นดานัสขึ้นฝั่งที่้เขตตะวันตกของไต้หวันที่มีคนอาศัยอยู่หนาแน่นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และได้รับบาดเจ็บราว 630 คน จากนั้นได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและขึ้นฝั่งด้านตะวันออกของจีน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนแจ้งว่า พายุกำลังเคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 15-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้มีฝนตกหนักถึงตกหนักรุนแรง จนระบบป้องกันที่ใช้งานมานานไม่สามารถรับมือได้ โดยเฉพาะมณฑลที่เป็นพื้นที่ตอนใน คาดว่าฝนจะตกหนักไปจนถึงวันที่ 15 กรกฎาคมเป็นอย่างน้อย จีนซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายมากขึ้น นักอุตุนิยมวิทยาชี้ว่า เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจให้แก่จีนปีละหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะเดือนกรกฎาคม ปี 2567 ที่จีนมีฝนตกหนักที่สุดในช่วงฤดูฝน […]

Trump's post on no extension of tariff's deadline Aug 1, 2025 with border

“ทรัมป์” ยืนยันไม่ขยายเส้นตายภาษีอีก

วอชิงตัน 9 ก.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐยืนยันจะไม่ขยายเส้นตายการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้าทั่วโลกในวันที่ 1 สิงหาคม ออกไปอีกแล้ว นายทรัมป์โพสต์ในทรูธโซเชียล (Truth Social) ที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า จะไม่ขยายเส้นตายในการปรับขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าที่จะมีผลบังคับใช้กับคู่ค้าหลายสิบประเทศ หนึ่งวันหลังจากส่งสัญญาณว่า จะยืดหยุ่นเรื่องวันบังคับใช้ดังกล่าว ภาษีศุลกากรจะเริ่มมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 สิงหาคม ตามจดหมายที่ส่งไปยังประเทศคู่ค้าในปัจจุบัน นายทรัมป์เคยประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากคู่ค้าเกือบทั้งหมดในอัตราตั้งแต่ร้อยละ 11-50 ในวันปลดแอก 2 เมษายน และบังคับใช้ในวันที่ 9 เมษายน ก่อนระงับการบังคับใช้เป็นเวลา 90 วันจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม แต่สัปดาห์นี้ ทรัมป์ได้เลื่อนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรอีกครั้ง ออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม เพื่อผลักดันให้มีข้อตกลงการค้าเพิ่มเติม ทรัมป์ได้ส่งจดหมายถึงประเทศคู่ค้าหลายประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รวมถึงพันธมิตรสำคัญของสหรัฐอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งสินค้าจากทั้งสองประเทศจะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 25 ส่วนอินโดนีเซีย บังกลาเทศ ไทย แอฟริกาใต้ และมาเลเซีย อยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องเผชิญกับภาษีตั้งแต่ร้อยละ 25 ถึง 40 พร้อมกับระบุในข้อความถึงผู้นำต่างชาติ เตือนว่าอาจเกิดความรุนแรงมากขึ้นหากมีการใช้มาตการตอบโต้ต่อนโยบายภาษีของเขา รัฐบาลทรัมป์กำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่จะต้องแสดงผลลัพธ์ […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 678