‘ทรัมป์’ เยี่ยมตำรวจ-ทหาร ที่ปราบปรามอาชญากรรมในกรุงวอชิงตัน

วอชิงตัน 22 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศวานนี้ว่า การปราบปรามอาชญากรรมในเมืองหลวงของสหรัฐประสบความสำเร็จแล้ว ขณะที่เขาเดินทางไปเยี่ยมเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางที่ถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่ภายใต้แผนการของเขา ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนในพื้นที่ว่าแนวทางดังกล่าวรุนแรงเกินไป นายทรัมป์เดินทางไปเยี่ยมสำนักงานใหญ่ตำรวจอุทยานแห่งชาติสหรัฐ ในย่านตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พร้อมนำพิซซ่าและแฮมเบอร์เกอร์มามอบให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อแสดงการสนับสนุน ประธานาธิบดีกล่าวกับเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบหลายร้อยนายโดยไม่ได้อ้างอิงหลักฐานใด ๆ ว่าความพยายามของพวกเขากำลังส่งผลให้อาชญากรรมลดลง ทำให้กรุงวอชิงตันแตกต่างจากเดิมเหมือนกับเป็นคนละสถานที่เลยและตอนนี้ทุกคนปลอดภัยแล้ว นายทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านความปลอดภัยสาธารณะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่าเมืองหลวงกำลังประสบกับกระแสอาชญากรรมรุนแรง เขาได้ส่งกำลังทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิและเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางออกปฎิบัติหน้าที่ตามท้องถนนและกล่าวว่าจะเข้าควบคุมสำนักงานตำรวจของเมืองเป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นการใช้อำนาจของประธานาธิบดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การปราบปรามดังกล่าวรวมถึงการเพิ่มปฏิบัติการหยุดตรวจค้น การลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในย่านที่พักอาศัย และมีรายงานว่าประชาชนถูกหยุดตรวจโดยไม่มีการอธิบายที่มาที่ไปเท่าที่ควร นายทรัมป์แสดงความเชื่อมั่นต่อมาตรการของเขาและบอกกับเจ้าหน้าที่ที่รวมตัวกันว่ากรุงวอชิงตันกำลังฟื้นตัว และสหรัฐกำลังจะมีเมืองหลวงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของเมืองได้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ว่าอาชญากรรมรุนแรงแพร่ระบาด โดยชี้ไปที่สถิติของรัฐบาลกลางและของเมืองที่แสดงให้เห็นว่าอาชญากรรมรุนแรงได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ที่อัตราอาชญากรรมรุนแรงพุ่งสูงขึ้นในปี 2023.-813.-สำนักข่าวไทย

เจ้าของสถิติอายุยืนที่สุดในโลกมีอายุครบ 116 ปี

ลอนดอน 22 ส.ค. – เอเธล คาเทอร์แฮม เจ้าของสถิติผู้ที่มีอายุยืนที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ ของกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ ได้ฉลองอายุครบ 116 ปีไปเมื่อวานนี้ คาเทอร์แฮม เจ้าของสถิติผู้ที่มีอายุยืนที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ ของกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ มีอายุครบ 116 ปีเมื่อวานนี้ หลังจากได้เป็นเจ้าของสถิติผู้ที่มีอายุยืนที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งได้รับการรับรองจาก กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตามหลังการเสียชีวิตของ อินาห์ การาบาร์โร ลูกัส แม่ชีชาวบราซิล ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ด้วยวัย 116 ปี กับอีก 326 วัน คาเทอร์แฮม เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 1909 เคยไปใช้ชีวิตอยู่ที่อินเดียและฮ่องกง ถือเป็นชาวอังกฤษที่อายุยืนที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ และเป็นชาวอังกฤษคนสุดท้ายที่เกิดในช่วงต้นศตวรรษ 1990 ที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน เธอยังคงขับรถเองจนถึงตอนอายุ 97 ปี และรอดชีวิตมาได้แม้จะป่วยหนักในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 […]

ญี่ปุ่นร่างระเบียบจำกัดการใช้สมาร์ทโฟนไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง

โตเกียว 21 ส.ค. – เมืองโทโยอาเกะ ทางตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น เตรียมออกข้อบัญญัติแนะนำให้ประชาชนทุกคนจำกัดการใช้สมาร์ทโฟนไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน นอกเหนือจากเวลาทำงานและเรียน ในขณะที่มีความกังวลจากผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีมากเกินไป แม้ว่าจะไม่มีการเสนอเรื่องบทลงโทษใด ๆ ก็ตาม สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า เทศบัญญัติที่ร่างขึ้นโดยเมืองโทโยอาเกะ จังหวัดไอจิ นี้ น่าจะเป็นกฎระเบียบระดับเทศบาลฉบับแรกในญี่ปุ่นที่กำหนดเป้าหมายเพื่อจำกัดการใช้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ซึ่งหากสภาท้องถิ่นให้ความเห็นชอบ เทศบัญญัตินี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่ของเมืองกล่าวว่า ต้องการให้เทศบัญญัติฉบับนี้เป็นโอกาสให้ผู้คนได้คิดทบทวนเกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟนของตนเอง และเพื่อช่วยให้เด็กได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ร่างเทศบัญญัติฉบับนี้ยังแนะนำให้นักเรียนชั้นประถมงดใช้สมาร์ทโฟนหลังเวลา 21.00 น. และนักเรียนชั้นมัธยมต้นขึ้นไปควรวางอุปกรณ์นี้ลงภายในเวลา 22.00 น. ในร่างเทศบัญญัติยอมรับว่า สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และแท็บเล็ต เป็นสิ่งจำเป็นในปัจจุบัน แต่ก็ได้เตือนว่า การใช้โซเชียลมีเดียและการรับชมวิดีโอสตรีมมิงมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและชีวิตครอบครัวได้ นอกจากนี้ ทางเมืองจะร่วมมือกับโรงเรียนและผู้ปกครอง เพื่อส่งเสริมการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธีและดีต่อสุขภาพด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย

‘สี จิ้นผิง’ ร่วมงานฉลองครบรอบ 60 ปีก่อตั้งทิเบต

ลาซา 21 ส.ค. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เดินทางเยือนทิเบตในโอกาสพิเศษ เพื่อร่วมฉลองครบรอบ 60 ปีของการก่อตั้งเขตปกครองตนเองทิเบต โดยมีการจัดงานเฉลิมฉลองและขบวนพาเหรดที่จัตุรัสขนาดใหญ่ข้างพระราชวังโปตาลา ซึ่งเป็นอดีตที่ประทับฤดูหนาวขององค์ดาไลลามะ ผู้นำจิตวิญญาณของทิเบต ผู้แทนคณะใหญ่จากกรุงปักกิ่ง ซึ่งรวมถึงผู้นำระดับสูงจากพรรคและรัฐบาล ได้เข้าร่วมชมขบวนพาเหรดที่ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์แห่งชาติจีน โดยผู้ร่วมขบวนได้ชูป้ายสีแดง เพื่อแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ทิเบตต้องทำให้สำเร็จภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้จัดตั้งเขตปกครองตนเองทิเบตขึ้นเมื่อเดือนกันยายน ปี 1965 หรือ 6 ปีหลังจากที่องค์ดาไลลามะที่ 14 เสด็จลี้ภัยไปอินเดีย หลังจากการลุกฮือต่อต้านจีนไม่สำเร็จ ทำให้ทิเบตกลายเป็นเขตปกครองตนเองแห่งที่ 5 และแห่งสุดท้ายของจีน หลังจากเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ซินเจียง กว่างซี และหนิงเซี่ย ตั้งแต่ประธานาธิบดีสี ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในช่วงปลายปี 2012 และเป็นประธานาธิบดีในช่วงต้นปี 2013 จีนได้เพิ่มการควบคุมเชิงสถาบันในทิเบตมากขึ้น ตั้งแต่การกำหนดให้พุทธศาสนาแบบทิเบตต้องอยู่ภายใต้ระบบสังคมนิยมของจีน ไปจนถึงการเรียกร้องให้ประชาชน “ปฏิบัติตามพรรค” นอกจากนี้ นักข่าวต่างชาติและนักการทูตยังคงต้องได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ จึงจะสามารถเดินทางเข้าไปในทิเบตได้.-813.-สำนักข่าวไทย

ผู้พิพากษาใจดีที่โด่งดังในโลกโซเชียล ลาโลกแล้วในวัย 88 ปี

สหรัฐ 21 ส.ค.- แฟรงค์ คาปริโอ ผู้พิพากษาชื่อดังชาวอเมริกัน ซึ่งกลายเป็นดาวแห่งโลกโซเชียลด้วยคลิปการพิพากษาโดยยึดหลักคุณธรรมและมีเมตตาต่อผู้ตกเป็นจำเลย ลาโลกแล้วในวัย 88 ปี ครอบครัวของคุณปู่ผู้พิพากษาผู้อารี “แฟรงค์ คาปริโอ” เปิดเผยข่าวการเสียชีวิตผ่านอินสตาแกรม Judge Frank Caprio เมื่อคืนวันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568 โดยระบุว่าผู้พิพากษาแฟรงค์ คาปริโอ จากไปอย่างสงบขณะอายุ 88 ปี หลังจากที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งตับอ่อนมาเป็นเวลานาน เดวิด คาปริโอ ลูกชายของผู้พิพากษาแฟรงค์ ซึ่งเป็นผู้โพสต์ข่าวลง IG ของผู้เป็นพ่อ ซึ่งมีผู้ติดตามมากถึง 3.4 ล้านคน ได้กล่าวขอบคุณแฟน ๆ ที่ช่วยกันส่งความรักและส่งกำลังใจให้แก่พ่อของเขา พร้อมระบุว่า แฟรงค์ คาปริโอ จะเป็นที่จดจำไม่เฉพาะในสถานะความเป็นผู้พิพากษาที่ได้รับการเคารพยกย่อง และยังจะอยู่ในความทรงจำในฐานะผู้เป็นสามี เป็นพ่อ เป็นปู่ เป็นทวด และเป็นมิตรผู้เสียสละ ความเมตตาของแฟรงค์ คาปริโอ ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนจำนวนมากได้จดจำเป็นแบบอย่างอีกด้วย ขณะที่บรรดาผู้ติดตาม ต่างเข้ามาแสดงความเห็นไว้อาลัยกันอย่างต่อเนื่องมากกว่า 170,000 ข้อความ […]

ผู้นำจีนขอให้ผู้แทนจากทั่วทิเบตร่วมมือกันสร้างความทันสมัยแบบจีน

ลาซา 21 ส.ค. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนพบหารือกับบรรดาผู้แทนจากทุกกลุ่มชนชาติพันธุ์ในทิเบต พร้อมกระตุ้นให้ดำเนินความพยายามร่วมกันเพื่อสร้างปฐมบทใหม่แห่งความทันสมัยแบบจีน ในเขตปกครองตนเองทิเบต หรือ ซีจ้าง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้นำคณะเดินทางไปยังกรุงลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตนเองทิเบต หรือซีจ้าง เมื่อวันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568 เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมในวาระครบรอบ 60 ปีการก่อตั้งเขตปกครองตนเองทิเบต ในการเยือนครั้งนี้ประธานาธิบดีสี จิ้นฟิง ได้พบปะกับคณะผู้แทนจากทุกกลุ่มชาติพันธุ์และทุกสาขาอาชีพในภูมิภาคที่ราบสูงทิเบต พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกคนร่วมกันดำเนินความพยายามเพื่อพัฒนาให้ทิเบตเป็นพื้นที่ที่เจริญและมีความทันสมัยแบบจีน นอกจากตัวแทนภาคประชาชนจากทุกสาขาอาชีพแล้ว ประธานาธิบดีสี ยังได้พบปะกับคณะข้าราชการ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งบุคคลต้นแบบในกลุ่มภาคประชาชน รวมทั้งภาครัฐ และกองทัพในกรุงลาซาด้วย.-810.-สำนักข่าวไทย

ทศวรรษทองใหม่แห่งความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง: จีน-ไทย จับมือขับเคลื่อนสู่ความรุ่งเรือง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่บทความแสดงความเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง โดยเน้นย้ำว่า แม่น้ำสายนี้เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนใน 6 ประเทศมาโดยตลอด และตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ความร่วมมือนี้ได้เติบโตจนกลายเป็นกลไกที่มีพลังและศักยภาพที่สุดในภูมิภาค ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศสมาชิกความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้างทั้ง 6 อันได้แก่ จีน เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม และประเทศไทย ได้สร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยได้ดำเนินการในด้านสำคัญต่างๆ ดังนี้: ความมั่นคง: มีการดำเนิน “โครงการริเริ่มล้านช้าง-แม่โขงที่ปลอดภัย” เพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การพนันออนไลน์และการฉ้อโกง ส่งผลให้ภูมิภาคมีความมั่นคงมากขึ้น การพัฒนา: มีการสร้างกลไกที่ทรงพลังเพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงทั้งด้านกายภาพและนโยบาย รวมถึงห่วงโซ่อุปทาน ทำให้เกิด “ระเบียงนวัตกรรม” ซึ่งเป็นจุดเด่นใหม่ของการพัฒนาเศรษฐกิจในลุ่มน้ำ ความสัมพันธ์ประชาชน: กองทุนพิเศษความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง ได้สนับสนุนโครงการเกือบหนึ่งพันโครงการในหลากหลายสาขา เช่น การจัดการทรัพยากรน้ำ การเกษตร สุขภาพ และวัฒนธรรม นำมาซึ่งประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมต่อประชาชน เมื่อไม่นานมานี้ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน […]

ไต้หวันเตรียมเพิ่มงบประมาณกลาโหมมหาศาลปีหน้า

ไทเป 21 ส.ค. – ไต้หวันวางแผนที่จะเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศในปีหน้าถึงหนึ่งในห้า ทำให้สัดส่วนงบประมาณด้านนี้เกินร้อยละ 3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี (GDP) โดยจะทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อจัดซื้อยุทโธปกรณ์ใหม่ เพื่อรับมือกับจีนได้ดียิ่งขึ้น และแสดงให้สหรัฐเห็นว่าไต้หวันให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทัพของตนเอง ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่จีน ซึ่งถือว่าไต้หวันที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน ได้เพิ่มแรงกดดันทางการทหารและการเมืองในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อยืนยันการอ้างสิทธิ์ ซึ่งไต้หวันปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง นายกรัฐมนตรีโช จุงไถ่ (Cho Jung-tai) กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า งบประมาณกลาโหมปี 2026 จะสูงถึง 9.495 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1.02 ล้านล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นร้อยละะ 3.32 ของจีดีพี ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขนี้ทะลุเกินร้อยละ 3 ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา เขากล่าวเสริมว่า ไต้หวันกำลังดำเนินการตามแบบจำลองขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ซึ่งรวมถึงการใช้งบประมาณสำหรับหน่วยยามฝั่งและทหารผ่านศึกไว้ในค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศทั้งหมดด้วย แผนการใช้จ่ายครอบคลุมการจัดหาเครื่องบินรบใหม่และการเสริมสร้างการป้องกันทางทะเล ซึ่งเป็นสิ่งที่กระทรวงกลาโหมคาดว่าจะเสนอต่อรัฐสภาในสมัยประชุมที่กำลังจะมาถึงนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสสองรายที่ได้รับทราบข้อมูลเรื่องนี้กล่าวกับรอยเตอร์โดยไม่เปิดเผยนามว่า ไต้หวันได้รวมการใช้งบประมาณสำหรับหน่วยยามฝั่งไว้ในงบประมาณกลาโหมโดยรวมเป็นครั้งแรก เนื่องจากเห็นว่า หน่วยยามฝั่งเป็นแนวหน้าที่จะต้องเผชิญหน้ากับหน่วยยามฝั่งของจีนอยู่เป็นประจำ และในยามสงคราม จะถูกผนวกรวมเข้ากับกองทัพเรือเพื่อป้องกันไต้หวัน […]

อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการยึดกาซ่าซิตี้

กาซา ซิตี้ 21 ส.ค. – กองทัพอิสราเอลเริ่มปฏิบัติการบุกยึดกาซ่าซิตี้แล้วเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความกังวลของนานาชาติว่าจะทำให้ชาวปาเลสไตน์ต้องจำนวนมากต้องอพยพจากถิ่นฐาน โฆษกกองทัพอิสราเอลแถลงว่าทหารได้เริ่มปฏิบัติการเบื้องต้นในการโจมตีเมืองกาซ่าซิตี้แล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูได้เร่งกำหนดในการยึดฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสและปราบปรามกลุ่มดังกล่าวหลังมีการปะทะกันรอบใหม่ระหว่างกลุ่มฮามาสกับทหารอิสราเอลเมื่อวานนี้ซึ่งทำให้ทหารอิสราเอลบาดเจ็บ 3 นาย แถลงการณ์ของอิสราเอลส่งสัญญาณว่าอิสราเอลกำลังเร่งเดินหน้าตามแผนการยึดครองกาซ่าซิตี้ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซ่าแม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าจะทำให้ชาวปาเลสไตน์ต้องอพยพละทิ้งบ้านเรือนมากขึ้น กองทัพอิสราเอลยังเรียกกำลังพลสำรองหลายหมื่นนายเมื่อวานนี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีกาซ่าซิตี้ ปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอิสราเอลซึ่งมีนายเนทันยาฮูเป็นประธานได้มีมติอนุมัติแผนขยายปฏิบัติการในฉนวนกาซ่าโดยมีเป้าหมายเพื่อยึดครองกาซาซิตี้ ขณะที่อิสราเอลสามารถยึดครองพื้นที่ในฉนวนกาซ่าเอาไว้ได้แล้วประมาณร้อยละ 75 แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับอิสราเอลเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนแผนการดังกล่าว แต่นายเนทันยาฮูซึ่งถูกกดดันจากสมาชิกฝ่ายขวาจัดในรัฐบาลผสมให้ปฏิเสธการหยุดยิงชั่วคราวและเดินหน้าทำสงครามเพื่อดำเนินการผนวกดินแดนฉนวนกาซ่าต่อไป ด้านกลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์กล่าวหานายเนทันยาฮูว่าขัดขวางข้อตกลงหยุดยิงและเป็นผู้สนับสนุนให้เดินหน้าทำสงครามอันโหดร้ายเข่นฆ่าพลเรือนผู้บริสุทธิ์ในกาซ่าซิตี้ และการที่นายเนทันยาฮูไม่สนใจข้อเสนอของคนกลางก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือผู้ขัดขวางข้อตกลงต่างๆ อย่างแท้จริง ขณะที่กลุ่มฮามาสยอมรับข้อเสนอของชาติอาหรับที่เสนอให้หยุดยิง 60 วันและให้ปล่อยตัวที่เหลือบางส่วนแลกกับการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังอยู่ในอิสราเอล.-816.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐย้ำยุโรปต้องรับผิดชอบความมั่นคงยูเครน

วอชิงตัน 21 ส.ค. – รองประธานาธิบดีเจ ดี แวนซ์ ของสหรัฐกล่าวย้ำว่า ยุโรปจะต้องเป็นผู้รับภาระในการดูแลความมั่นคงให้กับยูเครน ซึ่งเรื่องนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยพูดไปแล้ว นายแวนซ์ ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ช่องฟ็อกซ์นิวส์ว่าประเทศต่างๆ ในยุโรป จะต้องรับภาระเรื่องค่าใช้จ่ายและการส่งทหารเข้าไปดูแลความมั่นคงให้กับยูเครน ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้ยูเครนและรัสเซียบรรลุข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครนให้เร็วที่สุด และการรับประกันความมั่นคงให้กับยูเครนเป็น หนึ่งในเรื่องที่ยูเครนให้ความสำคัญในลำดับตั้นๆ เมื่อวันก่อนนายทรัมป์เคยบอกว่าสหรัฐจะไม่ส่งทหารเข้าไปในยูเครนเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงแต่อาจจะช่วยสนับสนุนทางอากาศซึ่งสหรัฐมีศักยภาพทางด้านนี้มากกว่าชาติยุโรป นอกจากนี้สหรัฐยังจะจำกัดการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนน้อยลงจากเดิมด้วย โดยนายทรัมป์ต้องการถ่ายโอนความรับผิดชอบเรื่องงบประมาณค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับยูเครนไปให้ชาติพันธมิตรในยุโรปมากขึ้น ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์เมื่อวานนี้ นายแวนซ์ระบุว่าสหรัฐไม่ควรต้องแบกภาระนี้ และประธานาธิบดีทรัมป์ก็คาดหวังให้ยุโรปเป็นผู้มีบทบาทนำในเรื่องยูเครนไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เช่นไรก็ตาม เพราะประเทศยุโรปกับยูเครนอยู่บนผืนทวีปเดียวกัน ซึ่งนั่นคือความมั่นคงร่วมกันของยุโรป และประธานาธิบดีทรัมป์ได้พูดเรื่องนี้อย่างชัดเจนไปแล้วว่ายุโรปจะต้องก้าวขึ้นมามีบทบาทนำแทนสหรัฐ.-816.-สำนักข่าวไทย

มาเลเซียเผยไม่มีแผนนำฟอร์มูลาวันกลับมาจัดอีกครั้ง

กัวลาลัมเปอร์ 21 ส.ค. – ฮันนาห์ โหย่ว (Hannah Yeoh) รัฐมนตรีกีฬาของมาเลเซีย กล่าวต่อรัฐสภาในวันพฤหัสบดีว่า มาเลเซียไม่มีแผนที่จะนำการแข่งขันรถยนต์ฟอร์มูล่าวัน (Formula 1) หรือ เอฟวัน กลับมาจัดในมาเลเซียอีก เนื่องจากค่าใช้จ่ายเรื้องสปอนเซอร์ หรือ ผู้สนับสนุนที่สูงมากและตารางการแข่งขันที่แน่นมาก ก่อนหน้านี้ มาเลเซียเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอฟวันที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต (Sepang International Circuit) หรือ เอสไอซี (SIC) ระหว่างปี 1999 ถึง 2017 นางโหย่วกล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจำเป็นต้องมีงบประมาณสนับสนุนประมาณปีละ 300 ล้านริงกิต หรือ ประมาณ 2,315 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3-5 ปี ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าสองเท่าของงบประมาณที่รัฐบาลใช้ในการพัฒนาโครงการกีฬาแห่งชาติ 20 โครงการ นอกจากนี้ นางโหย่วยังกล่าวว่า มาเลเซียจะต้องแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น สิงคโปร์และประเทศไทย เพื่อแย่งชิงสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพ […]

ผู้นำเกาหลีเหนือยกย่องทหารร่วมรบกับรัสเซีย

โซล 21 ส.ค. – สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้กล่าวชื่นชมทหารเกาหลีเหนือที่ทำหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ ร่วมรบเคียงข้างทหารรัสเซียในการทำสงครามกับยูเครน เคซีเอ็นเอ รายงานว่า ในระหว่างการประชุมกับนายทหารจากหน่วยปฏิบัติการในต่างแดน นายคิมได้กล่าวชื่นชมผลงานอันยิ่งใหญ่ของทหารเกาหลีเหนือในการนำหน่วยรบของกองทัพเข้าร่วมปฏิบัติการปลดปล่อยภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซีย ไปสู่ชัยชนะ ก่อนหน้านี้ นายคิมยังได้แสดงความไว้อาลัยต่อทหารเกาหลีเหนือที่เสียชีวิตในสงครามยูเครน โดยมีการคลุมโลงศพด้วยธงชาติและวางมือทั้งสองข้างลงบนโลง ซึ่งถือเป็นภาพที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก เคซีเอ็นเอรายงานด้วยว่า นายคิมยังกล่าวด้วยว่า กองทัพเกาหลีเหนือเป็นกองทัพที่กล้าหาญ ได้แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์อย่างเต็มที่ ผลงานเช่นนี้ได้ตอกย้ำสมญานามและชื่อเสียงในฐานะกองทัพที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ประเมินว่า เกาหลีเหนือได้ส่งทหารกว่า 10,000 นายไปสนับสนุนการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน และเชื่อว่ากำลังวางแผนที่จะส่งกำลังพลไปเพิ่มเติม.-813.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 675