‘ทรัมป์’ ประกาศบรรลุข้อตกลงการค้ากับเกาหลีใต้

วอชิงตัน 30 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวในวันพุธว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 15% สำหรับสินค้านำเข้าจากเกาหลีใต้ ลดลงจากอัตรา 25% ที่เคยขู่ไว้ นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทางแอปพลิเคชัน “ทรูธ โซเชียล” ว่าเขายินดีที่จะประกาศว่าสหรัฐได้ตกลงข้อตกลงทางการค้าที่สมบูรณ์และครบถ้วนกับสาธารณรัฐเกาหลีแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า เกาหลีใต้ตกลงที่จะลงทุน 350,000 ล้านดอลลาร์ ในสหรัฐ ในโครงการที่นายทรัมป์เลือก และจะซื้อผลิตภัณฑ์พลังงานมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ เขายังกล่าวอีกว่าเกาหลีใต้จะยอมรับผลิตภัณฑ์สหรัฐเข้าสู่ตลาด รวมถึงรถยนต์และสินค้าเกษตร และจะไม่เรียกเก็บภาษีนำเข้าใดๆ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้กล่าวว่า ตลาดข้าวและเนื้อวัวของประเทศจะไม่ถูกเปิดเพิ่มเติม และการเจรจาเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของสหรัฐเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านอาหารยังคงดำเนินต่อไป ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนในทันทีว่าข้อตกลงการลงทุนจะมีโครงสร้างอย่างไร, แหล่งเงินทุนมาจากไหน, จะดำเนินการภายในกรอบเวลาใด และเงื่อนไขจะมีผลผูกพันมากน้อยเพียงใด นายทรัมป์กล่าวว่าจะมีการประกาศการลงทุนเพิ่มเติมจากเกาหลีใต้ในภายหลัง การเจรจาครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบแรกๆ ของประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้ ที่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายน หลังจากการเลือกตั้งอย่างกะทันหัน เขาโพสต์บนเฟซบุ๊กว่าข้อตกลงนี้ได้ขจัดความไม่แน่นอนในสภาพแวดล้อมการส่งออก และทำให้อัตราภาษีของสหรัฐอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหรือเท่ากับคู่แข่งรายสำคัญ นายอี กล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ขณะนี้เกาหลีใต้ได้ข้ามผ่านอุปสรรคสำคัญไปได้แล้ว ส่วนนายทรัมป์กล่าวว่า นายอีจะเดินทางเยือนทำเนียบขาวภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า เพื่อประชุมกับประธานาธิบดีสหรัฐเป็นครั้งแรก.-813.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นเรียกร้องให้ไทย-กัมพูชาเคารพข้อตกลงหยุดยิง

เจนีวา 31 ก.ค. – โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้ประเทศไทยและกัมพูชา ปกป้องพลเรือนจากอันตรายเพิ่มเติม ด้วยการเคารพและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ตกลงกันเมื่อวันจันทร์อย่างเต็มที่ พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสันติภาพ นายเติร์ก กล่าวในแถลงการณ์จากนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวานนี้ว่า ในช่วงเวลาที่ความขัดแย้งและวิกฤตการณ์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น เขายินดีต่อข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยความจริงใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการมีส่วนร่วมที่สำคัญของมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ข้อตกลงที่สำคัญนี้จะต้องได้รับการเคารพอย่างเต็มที่ด้วยเจตนาที่ดีจากทั้งสองฝ่าย ในขณะที่ความพยายามทางการทูตยังคงดำเนินต่อไป เพื่อแก้ไขต้นตอของความขัดแย้ง ข้าหลวงใหญ่ฯ กล่าวด้วยว่า เป็นสิ่งสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะยังคงพยายามฟื้นฟูความมั่นคงบริเวณชายแดน และให้แน่ใจว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงและการพลัดถิ่นจะได้รับการเยียวยาตามกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยมีรายงานว่ามีผู้พลัดถิ่นกว่า 180,000 คน ในฝั่งไทย และอีก 168,946 คน ในฝั่งกัมพูชา นายเติร์ก กล่าวว่า ในสถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่ทางการไทยและกัมพูชา จะต้องดำเนินมาตรการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นขึ้นใหม่ ต่อต้านวาทกรรมที่เป็นอันตรายและปลุกปั่น และจัดการกับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เขาระบุด้วยว่า เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลทั้งสองที่จะต้องดูแลความปลอดภัยและการคุ้มครองพลเมืองของอีกฝ่ายที่อยู่ในอาณาเขตของตน.-813.-สำนักข่าวไทย

ประชาชนในกาซาอดตายเพิ่ม

กาซา 31 ก.ค. – ผู้เสียชีวิตจากความอดอยากและหิวโหยในฉนวนกาซาเพิ่มอีก 7 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่โครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ อาจประกาศภาวะความอดอยากในฉนวนกาซาอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ กระทรวงสาธารณสุขที่บริหารโดยกลุ่มฮามาสในดินแดนปาเลสไตน์แถลงว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากภาวะทุพโภชนาการในฉนวนกาซาเพิ่มอีก 7 คน รวมยอดผู้เสียชีวิตจากปัญหาดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้นสงครามอิสราเอล-ฮามาสในปี 2566 ขณะนี้ อยู่ที่ 154 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 89 คน ในสัปดาห์นี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงด้านอาหารโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ เตือนว่า สถานการณ์เลวร้ายที่สุดของความอดอยากในฉนวนกาซากำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ รายงานฉบับล่าสุดเกี่ยวกับ การจัดลำดับระยะความอดอยาก (Integrated Food Security Phase Classification) หรือ IPC พบว่ามีภาวะอดอยากถึง 2 ใน 3 ของเกณฑ์ในกาซา โดยการบริโภคอาหารลดลงฮวบฮาบและเกิดภาวะทุพโภชนาการเฉียบพลัน แต่ที่ยังไม่ได้มีการประกาศภาวะอดอยากในฉนวนกาซาในตอนนี้ เนื่องจากยังไม่สามารถพิสูจน์ดัชนีชี้วัดที่ 3 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตจากภาวะทุพโภชนาการได้ อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า […]

ยกเลิกเตือนภัยสึนามิจากแผ่นดินไหวใหญ่รัสเซีย

มอสโก 31 ก.ค. – ประชาชนในรัสเซีย ญี่ปุ่นและฮาวายในสหรัฐกลับมาใช้ชีวิตปกติแล้ว หลังยกเลิกคำเตือนสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่นอกชายฝั่งตะวันออกไกลของรัสเซียวานนี้ มีเพียงชิลีและเปรูที่ยังแจ้งเตือนสึนามิอยู่ ตำรวจชิลีออกลาดตระเวนตามแนวชายหาดเขตวินา เดล มาร์ เมืองบัลปาราอีโซ เมื่อวานนี้ และแนะนำให้ผู้คนที่เดินไปมาและถ่ายรูปออกห่างชายฝั่ง หลังมีคำเตือนการเกิดสึนามิ จากแผ่นดินไหวรุนแรง 8.8 นอกชายฝั่งคาบสมุทรคัมชัตคา ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย โดยการแจ้งเตือนสึนามิครอบคลุมพื้นที่ไกลถึงเฟรนช์โปลินีเซียและชิลี รัฐบาลชิลีได้ออกประกาศเตือนภัยระดับสีแดง ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งทั้งหมด รวมถึงเกาะอีสเตอร์และแอนตาร์กติกาของชิลี กระทรวงศึกษาธิการสั่งระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนตามแนวชายฝั่ง อพยพศูนย์บริการสาธารณสุขของรัฐและเอกชน 45 แห่ง ส่วนที่เปรู รัฐบาลยังคงคำเตือนสึนามิ สั่งปิดท่าเรือแปซิฟิก 65 แห่งจากทั้งหมด 125 แห่ง รวมถึงปิดหาดแห่งหนึ่งในกรุงลิมาด้วย สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐระบุว่า แผ่นดินไหวขนาด 8.8 ครั้งนี้เป็นแผ่นดินไหวระดับตื้น มีความลึก 19.3 กิโลเมตร มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองเปโตรปัฟลอฟสค์-คัมชัตสกี ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากร 165,000 คนไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 119 กิโลเมตร ถือเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้นับตั้งแต่ปี 2495 นำมาซึ่งคำเตือนสึนามิในฮาวาย และพื้นที่ตามแนวชายฝั่งด้านตะวันตกทั้งหมดของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน ฟิลิปปินส์ […]

คณะผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่ฝั่งกัมพูชา

พนมเปญ 30 ก.ค. – วันนี้คณะผู้สังเกตการณ์นานาชาติซึ่งนำโดยมาเลเซียเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ในฝั่งกัมพูชา หลังจากมีการหยุดยิงไปเมื่อคืนวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา สื่อของกัมพูชารายงานว่าในวันนี้พลเอกผู้บัญชาการกองทัพมาเลเซียเป็นหัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์นานาชาติเดินทางลงพื้นที่ในเขตอันเซสซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบในจังหวัดพระวิหารของกัมพูชาเพื่อติดตามและกำกับดูแลการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชา หลังจากข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมีผลไปเมื่อเวลาเที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ภารกิจการติดตามผลนี้เป็นความคิดริ่เริ่มของมาเลเซียซึ่งขณะนี้มีตำแหน่งเป็นประธานหมุนเวียนของอาเซียน เพื่อสร้างหลักประกันว่าประเทศคู่กรณีจะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างครบถ้วน คณะผู้สังเกตการณ์ดังกล่าวจัดตั้งขึ้นตามข้อตกลงระหว่างไทยกับกัมพูชา ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลไลการติดตามการหยุดยิงเพื่อยืนยันการปฏิบัติตามข้อตกลงและสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน สื่อของกัมพูชาให้ข้อมูลว่าคณะผู้สังเกตการณ์นี้ประกอบผู้ช่วยทูตจากชาติมหาอำนาจและประเทศมาชิกอาเซียน ตลอดจนนักการทูต รวมทั้งสิ้น 13 ประเทศได้แก่สหรัฐ จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ส่วนประเทศในอาเซียนมีทั้ง มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ สปป.ลาว เวียดนาม และเมียนมา พลเอกหญิงมาลี โสเจียตา ปลัดกระทรวงกลาโหมกัมพูชาและโฆษกกระทรวงยืนยันว่า คณะผู้สังเกตการณ์นานาชาติที่นำโดยมาเลเซียมี 2 คณะ โดยคณะหนึ่งประจำการอยู่ในกัมพูชา และอีกคณะหนึ่งประจำการในไทย โดยแต่ละคณะมีผู้ช่วยทูตทหารระดับสูงของมาเลเซียที่ประการจำการอยู่ในแต่ละประเทศเป็นหัวหน้าคณะผู้บัญชาการกองทัพมาเลเซียเดินทางมาถึงกัมพูชาตั้งแต่เมื่อวานนี้ และในช่วงเย็นวันเดียวกันได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในฝั่งกัมพูชา โดยได้พบปะกับผู้บัญชาการทหารระดับสูงของไทยและกัมพูชา ซึ่งรวมถึงแม่ทัพภาคที่ 1 และภาคที่ 2 ของไทย และผู้บัญชาการทหารภาค 4 และภาค 5 ของกัมพูชา […]

กัมพูชา-ไทยยืนยันทำตามข้อตกลงหยุดยิงในที่ประชุมไตรภาคีกับจีน

ปักกิ่ง 30 ก.ค. — เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศของจีนรายงานว่ากัมพูชาและไทยยืนยันความมุ่งมั่นว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงในการประชุมไตรภาคีอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งจีน กัมพูชา และไทยจัดขึ้น ณ นครเซี่ยงไฮ้ ในวันพุธ (30 ก.ค.) โดยมีซุน เว่ยตง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงฯ พร้อมคณะผู้แทนจากกัมพูชาและไทยเข้าร่วม สำนักข่าวซินหัว รายงานว่ากัมพูชาและไทยยืนยันกับจีนว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง พร้อมแสดงความขอบคุณบทบาทเชิงบวกของจีนในการคลี่คลายสถานการณ์ โดยการประชุมครั้งนี้ดำเนินไปด้วยบรรยากาศที่จริงใจตรงไปตรงมา เป็นมิตร และสามัคคีปรองดอง จีนดำเนินบทบาทเชิงสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนกัมพูชาและไทยแก้ไขข้อพิพาทชายแดนอย่างสันติ และการประชุมครั้งนี้ถือเป็นความพยายามทางการทูตล่าสุดของจีนในเรื่องดังกล่าว.-813.-สำนักข่าวไทย

โตโยต้าน่าจะครองอันดับ 1 ยอดขายรถยนต์ทั่วโลก

นาโกยา – บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ของญี่ปุ่นกล่าววันนี้ว่า บริษัทในเครือมียอดขายรถยนต์ทั่วโลกช่วงครึ่งแรกของปี 2025 อยู่ที่ 5.54 ล้านคัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด ทำยอดขายแซงหน้าโฟล์คสวาเกน (Volkswagen AG) คู่แข่งจากเยอรมนี และน่าจะครองอันดับ 1 ในด้านยอดขายรถยนต์ทั่วโลกเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า ยอดขายทั่วโลกของโตโยต้าในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน ซึ่งรวมถึงยอดขายของบริษัทผลิตรถยนต์ขนาดเล็กในเครือได้แก่ ไดฮัทสุ มอเตอร์ (Daihatsu Motor Co.) และ ฮีโน่ มอเตอร์ส (Hino Motors Ltd.) ที่เป็นบริษัทผลิตรถบรรทุกในเครือ เพิ่มขึ้น 7.4% จากปีก่อนหน้านี้ และสร้างสถิติยอดขายใหม่สำหรับกลุ่มบริษัทเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ครั้งล่าสุดที่โตโยต้ามียอดขายทั่วโลกช่วงครึ่งปีแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์คือปี 2021 ที่ 5.47 ล้านคัน แต่ยอดขายหลังจากนั้นได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก และการระงับการผลิตเนื่องจากปัญหาการทุจริตการรับรองมาตรฐานหลายครั้ง ทางด้านโฟล์คสวาเกนทำยอดขายได้ 4.41 ล้านคันในช่วงเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้น […]

เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยคนใหม่เตรียมเข้ารับตำแหน่ง

กรุงเทพ 30 ก.ค. – นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยคนใหม่เตรียมตัวเข้ารับตำแหน่งแล้ว เพจเฟซบุ๊กสถานทูตจีนประจำประเทศไทยโพสต์ข้อความว่า นายจาง พร้อมด้วยนางเหมียว ไห่เยี่ยน ภริยา เดินทางถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้วในวันอังคาร เพื่อเข้ารับตำแหน่ง โดยมีนางสาวเพ็ญโสม เลิศสิทธิชัย รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และนักการทูตจากสถานทูตจีนประจำประเทศไทยให้การต้อนรับที่สนามบิน นายจางกล่าวว่า จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร มีประวัติศาสตร์และมิตรภาพอันยาวนาน ทั้งสองประเทศได้ทำงานร่วมกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นที่ว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ได้อย่างดี ปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย และ “50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย” จีนกำลังผลักดันการสร้างประเทศที่เข้มแข็งและการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีนอย่างรอบด้านด้วยการพัฒนาจีนให้ทันสมัยตามแบบฉบับของจีน และประเทศไทยที่กำลังเร่งปฏิรูปและยกระดับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน นายจางกล่าวด้วยว่า ตัวเขาเดินทางมาประเทศไทยในฐานะเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และรู้สึกว่าภารกิจของเขานั้นยิ่งใหญ่และมีความรับผิดชอบสูง เขายินดีที่จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนของประเทศไทย ดำเนินการตามฉันทามติสำคัญระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศอย่างจริงจัง ผลักดันการสร้างประชาคมร่วมอนาคตระหว่างจีน-ไทยให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม ทางด้านนางสาวเพ็ญโสม ได้กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตจางในการเข้ารับตำแหน่ง พร้อมกล่าวว่าฝ่ายไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์ไทย-จีน และยินดีที่จะอำนวยความสะดวกให้เอกอัครราชทูตจางในการปฏิบัติหน้าที่ นายจาง เจี้ยนเว่ย (Zhang Jianwei) ปัจจุบันอายุ 57 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาภาษาอาหรับ จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน […]

คลื่นสึนามิซัดถึงฮาวาย หลังแผ่นดินไหวในรัสเซีย

ฮาวาย 30 ก.ค. – แผ่นดินไหวขนาด 8.8 ที่บริเวณนอกชายฝั่งคาบสมุทรคัมชัตกา ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ทำให้เกิดคลื่นสึนามิสูงถึง 5 เมตร และมีการประกาศคำสั่งอพยพในฮาวายและหลายประเทศในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก ในวันนี้ แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในระดับตื้น ทำให้เกิดความเสียหายแก่อาคาร และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายในพื้นที่ห่างไกลของรัสเซีย ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ตามแนวชายฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น ซึ่งเคยได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.0 และสึนามิ เมื่อปี 2011 ได้รับคำสั่งให้อพยพประชาชน ในรัฐฮาวายของสหรัฐ ผู้ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งได้รับคำสั่งให้อพยพขึ้นไปอยู่ในที่สูง หรือที่ชั้นสี่ขึ้นไปของอาคาร และหน่วยยามฝั่งสหรัฐได้สั่งให้เรือออกจากท่าเรือเมื่อคลื่นสึนามิใกล้เข้ามา หลังจากเวลา 06.00 น. ตามเวลามาตรฐานสากล หรือ ตรงกับ 13.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ศูนย์เตือนภัยสึนามิในเขตมหาสมุทรแปซิฟิกแจ้งว่า คลื่นสูง 1-1.2 เมตร กำลังส่งผลกระทบต่อเกาะฮาวาย จอช กรีน ผู้ว่าการรัฐฮาวาย กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคลื่นขนาดใหญ่พัดเข้าสู่เกาะ แต่เที่ยวบินที่เดินทางเข้าและออกจากรัฐฮาวายถูกยกเลิกทั้งหมด คลื่นสึนามิได้พัดเข้าสู่บางส่วนของคาบสมุทรคัมชัตกา ทำให้ท่าเรือและโรงงานแปรรูปปลาในเมืองเซเวโร-คูริลสค์ ถูกน้ำท่วมบางส่วน และพัดเรือออกจากจุดจอดเรือ นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย กล่าวว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ตั้งแต่ปี 1952 […]

ปัญหาความอดอยากในกาซ่าวิกฤติหนัก

กาซา 30 ก.ค. – ประชาชนในฉนวนกาซ่ากำลังเผชิญกับวิกฤติความอดอยากขั้นรุนแรง ทำให้อิสราเอลต้องเจอแรงกดดันจากนานาชาติให้เปิดทางส่งความช่วยเหลือเข้าไปในกาซ่าให้มากขึ้น หน่วยงานจำแนกความมั่นคงด้านอาหารแบบบูรณาการหรือ ไอพีซี (IPC) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติออกมาเตือนว่า เวลานี้ผู้คนในฉนวนกาซ่ากำลังเผชิญกับสถานการณ์ความอดอยากอย่างเลวร้ายที่สุด ความขัดแย้งและการอพยพมีความรุนแรงมากขึ้น การเข้าถึงอาหาร สิ่งของจำเป็นและบริการอื่นๆ ลดลงอย่างมากในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม มีเด็กๆ กว่า 2 หมื่นคนต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจากภาวะทุพโภชนาการเฉียบพลัน และอีกกว่า 3,000 คนขาดสารอาหารอย่างรุนแรง ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐก็ยอมรับว่าเวลานี้สถานการณ์ในฉนวนกาซ่ามีความอดอยากจริง ทรัมป์กล่าวระหว่างพบหารือกับนายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ ที่สกอตแลนด์ว่า ผู้คนจำนวนมากในฉนวนกาซากำลังอดอยาก สถานการณ์อดอยากเหล่านี้เป็นเรื่องจริง อิสราเอลมีส่วนต้องรับผิดชอบมากขึ้นต่อการจัดส่งความช่วยเหลือ และชาวกาซาจำนวนมากควรได้รับอาหารและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากกว่านี้ ทรัมป์ยังประกาศจะจัดตั้งศูนย์แจกจ่ายอาหารที่ไม่มีรั้วกั้นหรือเขตแดนใดๆ สหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับประเทศอื่นๆ เพื่อกระจายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้คนในฉนวนกาซาให้มากขึ้น วิกฤติความอดอยากนี้ทำให้อิสราเอลต้องเจอกับแรงกดดันจากนานาชาติมากขึ้นเพื่อให้อิสราเอลยอมเปิดทางจัดส่งความช่วยเหลือเข้าไปในกาซ่าให้มากขึ้น ล่าสุดนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษเตือนว่าหากอิสราเอลไม่เปิดทางให้จัดส่งความช่วยเหลือกาซ่าเพิ่มขึ้นเขาจะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ในการประชุมใหญ่สหประชาชาติเดือนกันยายนนี้ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสก็ได้ประกาศว่าจะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์เช่นกัน.-816.-สำนักข่าวไทย

คะแนนนิยม ‘ทรัมป์’ ลดลงเหลือ 40%

วอชิงตัน 30 ก.ค. – คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ลดลง 1 จุดเปอร์เซ็นต์ เหลือร้อยละ 40 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เขาเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 เนื่องจากชาวอเมริกันยังคงกังวลเกี่ยวกับการจัดการเศรษฐกิจและเรื่องคนเข้าเมืองของเขา การสำรวจความเห็นประชาชนที่จัดทำโดยรอยเตอร์/อิปซอสที่จัดทำขึ้นเป็นเวลาสามวันและสิ้นสุดลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 1,023 คนทั่วประเทศ ซึ่งผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าทั่วประเทศแบ่งขั้วอย่างชัดเจนเกี่ยวกับนายทรัมป์ โดยผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันร้อยละ 83 และผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตเพียงร้อยละ 3 ที่เห็นชอบกับการปฏิบัติหน้าที่ของเขา ขณะที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มีแนวคิดอิสระประมาณหนึ่งในสามเห็นชอบกับการทำงานของนายทรัมป์ นายทรัมป์มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 41 ในการสำรวจความเห็นชาวอเมริกันครั้งก่อนหน้านี้ของรอยเตอร์/อิปซอส ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 15 และ 16 กรกฎาคม นายทรัมป์หาเสียงด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะส่งเสริมเศรษฐกิจสหรัฐและควบคุมการเข้าเมืองอย่างเข้มงวด และผลสำรวจพบว่าชาวอเมริกันให้คะแนนเขาในสองเรื่องนี้แบบคละกันไป ซึ่งเป็นสองประเด็นที่รัฐบาลของเขากำลังใช้มาตรการเชิงรุก ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณร้อยละ 38%เห็นชอบกับการจัดการเศรษฐกิจของนายทรัมป์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 35 ในการสำรวจครั้งก่อนในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม คะแนนของเขายังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในประเด็นการเข้าเมือง โดยร้อยละ 43 ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นชอบ เปรียบเทียบกับร้อยละ 41 ในการสำรวจครั้งก่อน.-813.-สำนักข่าวไทย ทรัมป์, คะแนนนิยม, การตรวจคนเข้าเมือง, เศรษฐกิจ, ผลการสำรวจ, รอยเตอร์,อิปซอส,

เซี่ยงไฮ้อพยพประชาชนกว่า 280,000 คนหนีพายุ

ปักกิ่ง 30 ก.ค. – สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานวันพุธว่า นครเซี่ยงไฮ้อพยพประชาชนกว่า 280,000 คน ตั้งแต่คืนวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อเป็นมาตรการป้องกันอันตรายล่วงหน้าจากเหตุฝนตกหนัก อันเกิดจากพายุหมุนเขตร้อน (tropical cyclone) ที่กำลังจะเข้าสู่พื้นที่ทางตะวันออกของจีน สื่อของทางการจีนรายงานว่า พายุโซนร้อนโคเมย์ (Co-may) ขึ้นฝั่งเป็นพายุโซนร้อนที่เมืองท่าโจวซานในมณฑลเจ้อเจียง ช่วงเช้าตรู่ของวันพุธ โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางที่ 23 เมตรต่อวินาที หรือ 83 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้ว่าลมที่พัดมาจากพายุโค-เมย์ จะมีกำลังอ่อนกว่าลมที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่น แต่นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของจีน และเมืองอื่นๆ ในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ไม่ได้ประมาท โดยได้ยกเลิกเที่ยวบินและบริการรถไฟ ระงับการเรียนการสอน และย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ที่ถือว่ามีความเสี่ยง เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศคาดว่าพายุโค-เมย์ จะขึ้นฝั่งอีกครั้งใกล้กับนครเซี่ยง ไฮ้ในช่วงบ่ายของวันพุธ ตามปกติแล้วนครเซี่ยงไฮ้มักจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่จะขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของจีน พายุไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงที่สุดที่ขึ้นฝั่งโดยตรงที่นครเซี่ยงไฮ้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือพายุเบบินคา (Bebinca) เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นพายุไซโคลนเขตร้อนที่ทรงพลังที่สุดที่พัดถล่มนครเซี่ยงไฮ้ นับตั้งแต่ปี 1949 .-813.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 664