‘เนทันยาฮู’- ‘ทรัมป์’ ดูเหมือนจะยุติการเจรจากับฮามาส

เยรูซาเลม/วอชิงตัน/ไคโร 26 ก.ค. – นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐดูเหมือนจะยุติการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซากับกลุ่มฮามาสในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยทั้งอิสราเอลและสหรัฐกล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ากลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ไม่ต้องการข้อตกลงหยุดยิง นายเนทันยาฮูกล่าวว่า ขณะนี้อิสราเอลกำลังพิจารณา “ทางเลือกอื่น” เพื่อบรรลุเป้าหมายในการนำตัวประกันกลับจากกาซา และยุติการปกครองของฮามาสในดินแดนดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังเผชิญกับการขาดแคลนอาหารอย่างกว้างขวางและประชากรส่วนใหญ่ไร้ที่อยู่อาศัยท่ามกลางความเสียหายอย่างรุนแรง นายทรัมป์กล่าวว่าเขาเชื่อว่าผู้นำฮามาสจะถูกตามล่าตัว โดยเขาบอกกับนักข่าวว่าฮามาสไม่ต้องการทำข้อตกลงจริงๆ และเขขาคิดว่าพวกเขาอยากจะเสียชีวิต และมันเป็นเรื่องที่แย่มาก และตอนนี้จุดที่จะต้องทำงานให้เสร็จได้แล้ว คำกล่าวของผู้นำทั้งสองดูเหมือนจะแสดงให้เห็นว่า ในช่วงเวลานี้มีโอกาสน้อยสำหรับการกลับมาเจรจาเพื่อหยุดการสู้รบ ในขณะที่ความกังวลระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารที่สถานการณ์ย้ำแย่ลงในกาซาที่เป็นผลมาจากสงคราม อิสราเอลและสหรัฐได้ถอนคณะผู้แทนออกจากการเจรจาหยุดยิงในกาตาร์เมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่ฮามาสยื่นข้อเสนอหยุดยิง แหล่งข่าวระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการถอนตัวของอิสราเอลมีขึ้นเพื่อการปรึกษาหารือเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องหมายความว่าการเจรจาถึงจุดวิกฤต แต่คำกล่าวของนายเนทันยาฮูบ่งชี้ว่าจุดยืนของอิสราเอลแข็งกร้าวขึ้นในชั่วข้ามคืน คนกลางในการเจรจาอย่างกาตาร์และอียิปต์กล่าวว่ามีความคืบหน้าบางอย่างในการเจรจารอบล่าสุด พวกเขากล่าวว่าการระงับการเจรจาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปกติ และพวกเขามุ่งมั่นที่จะพยายามบรรลุข้อตกลงหยุดยิงต่อไปโดยร่วมมือกับสหรัฐ ภายใต้ข้อเสนอหยุดยิงนี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับการพักการสู้รบเป็นเวลา 60 วัน อนุญาตให้มีการนำความช่วยเหลือเข้าสู่กาซามากขึ้น และปล่อยตัวประกันที่เหลืออยู่ 50 คนที่กลุ่มติดอาวุธจับกุมไว้ เพื่อแลกกับนักโทษปาเลสไตน์ที่ถูกจำคุกในอิสราเอล ข้อเสนอถูกระงับเนื่องจากความไม่เห็นด้วยว่าอิสราเอลควรถอนทหารออกไปไกลแค่ไหน และอนาคตหลังจาก 60 วันหากไม่มีข้อตกลงถาวร.-813.-สำนักข่าวไทย

จีนร่วมมือไทยรวบคนหนีคดีทุจริตต้องการตัวมากสุดรายสุดท้าย

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและตุลาการของจีนกับไทยนำสู่การส่งตัว “โจวจิ้งหัว” ผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดฐานทุจริต กลับสู่จีนเมื่อไม่นานนี้ โดยโจวนั้นมีชื่ออยู่ในบัญชีหมายแดงขององค์การตำรวจสากล (Interpol) ตั้งแต่ปี 2012 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า โจวเป็นหนึ่งใน 100 ผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดฐานทุจริตที่หลบหนีการจับกุม ซึ่งติดหมายแดงขององค์การตำรวจสากลตามคำร้องของจีน และผู้ต้องสงสัยรายที่ 63 ที่ถูกจับกุมนับตั้งแต่จีนดำเนินปฏิบัติการสกายเน็ต (Sky Net) เพื่อแกะรอยผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดที่หลบหนีไปต่างประเทศ การส่งตัวโจวกลับสู่จีนในเดือนกรกฎาคมเกิดขึ้นจากการประสานงานของสำนักงานส่งตัวผู้หลบหนีและกู้คืนสินทรัพย์ สังกัดกลุ่มประสานงานปราบปรามการทุจริตส่วนกลางของจีน สำนักงานฯ ระบุว่าการส่งตัวโจวกลับสู่จีนครั้งนี้ ทำให้มีการนำตัวผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดที่หลบหนีอยู่ในกลุ่มประเทศเอเชียกลับสู่จีนครบ 100 ราย ซึ่งสะท้อนความแน่วแน่และเด็ดขาดของจีนในการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและเกียรติภูมิของกฎหมาย นอกจากนั้นสำนักงานฯ แสดงความมุ่งมั่นจะยกระดับความร่วมมือปราบปรามการทุจริตระหว่างประเทศรวมถึงมาตรการแกะรอยผู้หลบหนีความผิดทั้งหมดที่ยังคงลอยนวลอย่างไม่โอนอ่อนผ่อนปรนด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐเตือนพลเมืองเลี่ยงการเดินทางใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา

25 ก.ค. – กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ประกาศเตือนพลเมืองสหรัฐผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันนี้ ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางในรัศมี 50 กิโลเมตร จากชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางทหารในบริเวณดังกล่าว เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐประจำกรุงเทพฯ ยังแจ้งเตือนพลเมืองอเมริกันที่อาศัยอยู่หรือเดินทางในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันของทั้่งสองประเทศ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานความมั่นคงของไทย และติดต่อสอบถามข้อมูลล่าสุดจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลในท้องถิ่น นอกจากนั้นยังแจ้งด้วยว่า ในวันนี้รัฐบาลไทยได้สั่งปิดจุดผ่านแดนในจังหวัดจันทบุรี และตราด ทั้งหมดอย่างเด็ดขาด ทั้งทางบกและทางทะเล ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศปิดโรงพยาบาล 11 แห่งในพื้นที่ชายแดนเป็นการชั่วคราวทั้งหมดหรือบางส่วน และกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศปิดโรงเรียนชั่วคราว 751 แห่ง ในจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สระแก้ว และจันทบุรี.-813.-สำนักข่าวไทย

รมว. ตปท. จีนระบุพร้อมช่วยคลี่คลายปัญหาไทย-กัมพูชา

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าววันนี้ว่า จีนพร้อมที่จะมีบทบาทที่สร้างสรรค์และยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเที่ยงตรง เพื่อช่วยลดความตึงเครียดตามแนวชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์ว่า นายหวัง อี้ กล่าวในการระหว่างการประชุมกับนายเกา กิม ฮวน (Kao Kim Hourn) เลขาธิการอาเซียน ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ที่กรุงปักกิ่งว่า การปะทะกันที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นเรื่องที่ “น่าเสียใจและน่ากังวลอย่างยิ่ง” นายหวังกล่าวด้วยว่า ต้นตอของปัญหานี้เป้นสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดที่ตกค้างอยู่จากสมัยที่ชาติตะวันตกเข้ามาเป็นเจ้าอาณานิคมทิ้งไว้มาตั้งแต่ในอดีต และตอนนี้จำเป็นต้องเผชิญหน้าอย่างใจเย็นและจัดการอย่างเหมาะสม.-813.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐยกเลิกคว่ำบาตรพันธมิตรของรัฐบาลทหารเมียนมา

วอชิงตัน 24 ก.ค. – สหรัฐยกเลิกการคว่ำบาตรกลุ่มบุคคลที่เป็นพันธมิตรกับนายทหารในรัฐบาลทหารเมียนมาเมื่อวานนี้ หลังจากเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ผู้นำรัฐบาลทหารได้กล่าวชื่นชมประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และเรียกร้องให้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรในจดหมายตอบไปยังสหรัฐที่เตือนเรื่องมาตรการภาษี กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน “ฮิวแมน ไรท์ วอทช์” (Human Rights Watch) เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่า “น่ากังวลอย่างยิ่ง” และระบุว่าเป็นการบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของนโยบายของสหรัฐต่อกองทัพเมียนมา ซึ่งได้โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยในปี 2564 และถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ประกาศจากกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า บริษัท เคที เซอร์วิสเซส แอนด์ โลจิสติกส์ (KT Services & Logistics) และผู้ก่อตั้งคือ โจนาทาน เมียว จ่อ ต่อง (Jonathan Myo Kyaw Thaung) กลุ่มบริษัท เอ็มซีเอ็ม กรุ้ป (MCM Group) และเจ้าของคือ อ่อง หล่าย อู (Aung Hlaing Oo) และบริษัท […]

พายุถล่มภาคเหนือของจีน-อพยพประชาชน 19,000 คน

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – พายุรุนแรงที่พัดถล่มทางตอนเหนือของจีน ทำให้เกิดฝนตกที่มีปริมาณน้ำฝนเกือบเท่าน้ำฝนที่ตกทั้งปีที่เมืองเป่าติ้ง ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้กรุงปักกิ่ง และทำให้ประชาชนกว่า 19,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน เนื่องจากถนนหลายสายเริ่มจมอยู่ใต้น้ำและถูกตัดขาดจากพื้นที่อื่นๆ รายงานระบุว่า ที่อำเภออี้ ทางตะวันตกของเมืองเป่าติ้ง มีปริมาณน้ำฝนมากถึง 447.4 มิลลิเมตร ในช่วง 24 ชั่วโมง จนถึงเช้าวันศุกร์ และมีการทำลายสถิติเดิมของปริมาณน้ำฝนสูงสุดที่สถานีตรวจวัดสภาพอากาศในหลายๆ แห่งในมณฑลเหอเป่ย์ ซึ่งเป่าติ้งเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลนี้ บันทึกอย่างเป็นทางการระบุว่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีในเป่าติ้ง อยู่ที่ประมาณ 500 มิลลิเมตร สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจีน หรือ ซีเอ็มเอ (CMA) ระบุในสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีการอพยพประชาชนรวม 19,453 คน จาก 6,171 ครัวเรือน ออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาไม่ได้กล่าวถึงว่าประชาชนอพยพไปยังสถานที่ใด แต่ได้แชร์คลิปสั้นๆ แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายในเสื้อกันฝนสีสะท้อนแสง ยืนลุยน้ำท่วมในถนนลึกถึงรองเท้าบูท ขณะที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างหนักในเวลากลางคืน เมืองจัวโจวในเป่าติ้ง ซึ่งเคยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างรุนแรงเมื่อสองปีที่แล้ว พบว่าสะพานและถนนหลายสายถูกตัดขาด หลังจากพายุทำให้เกิดฝนตกมากกว่า 190 มิลลิเมตร ในเช้าวันศุกร์ เป่าติ้งยังคงประกาศเตือนภัยสีแดงสำหรับฝนตกหนักในเช้าวันศุกร์ ในขณะที่มณฑลเหอเป่ย์ […]

ญี่ปุ่นเตือนภัยอากาศร้อนทั่วประเทศ

โตเกียว 25 ก.ค. – ญี่ปุ่นเตือนภัยโรคลมแดดทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดฮ็อกไกโดทางตอนเหนือ จังหวัดโทชิหงิ กุมหมะ ไซตามะ และตะวันออกของกรุงโตเกียว ตลอดจนจังหวัดฮิโรชิม่า และนางาซากิทางตะวันตก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นรายงานว่าอุณหภูมิสูงในขณะนี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตโดยคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากระบบบความกดอากาศสูงที่ปกคลุมญี่ปุ่น คาดว่าในวันนี้จะมีอุณหภูมิสูงสุดถึง 39 องศาเซลเซียสในเมืองโทโยโอกะจังหวัดเฮียวโหงะ และหลายจังหวัดจะมีอุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส หลังจากเมื่อวานนี้บันทึกอุณหภูมิได้ 39 องศาเซลเซียสที่เมืองคิตามิจังหวัดฮ็อกไกโด.-816.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ปะทะคารมประธานเฟด

วอชิงตัน 25 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เดินทางไปเยือนสำนักงานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในกรุงวอชิงตัน และได้พบปะกับนายเจอโรม เพาเวลล์ ประธานเฟด นายทรัมป์ ซึ่งยืนเคียงข้างกับนายพาวเวลล์ กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอาคารธนาคารกลางสหรัฐได้เพิ่มขึ้นจาก 2,700 ล้านดอลลาร์เป็น 3,100 ล้านดอลลาร์ ทำให้ประธานเฟดกับกล่าวว่าเขาไม่เคยทราบเรื่องนั้น และถามอีกครั้งว่าตัวเลขที่นายทรัมป์กล่าวถึงนั้นมาจากไหน เนื่องจากไม่ได้มาจากธนาคารกลาง พร้อมกันนั้น นายพาวเวลล์ยังชี้แจงว่า ดูเหมือนประธานาธิบดีได้รวมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอาคารสองหลัง เข้ากับค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสำนักงานธนาคารกลางอีกแห่ง นายพาวเวลล์กล่าวว่า นายทรัมป์แค่รวมอาคารที่สามเข้าไป ซึ่งสร้างเสร็จเมื่อห้าปีที่แล้ว หลังจากนั้นทรัมป์ได้พูดกับผู้สื่อข่าวด้วยว่าเขาขอให้เพาเวลล์ช่วยลดดอกเบี้ยลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์เรียกร้องมาตลอด การพบปะกันของทั้งคู่มีขึ้นท่ามกลางกระแสกดดันให้นายเพาเวลล์ลาออก ซึ่งทรัมป์ก็บอกว่าเขาอยากให้ประธานเฟดลาออก แต่ไม่ได้มีแผนจะปลดนายเพาเวลล์.-816.-813.-สำนักข่าวไทย

ฝรั่งเศสจะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์

ปารีส 25 ก.ค. – ผู้นำฝรั่งเศสจะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ ขณะที่สหรัฐคัดค้านอย่างรุนแรง ส่วนอิสราเอลก็ประณามการตัดสินใจดังกล่าว ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสประกาศการตัดสินใจลงบนแอปพลิเคชั่นเอ็กซ์ โดยได้เผยแพร่จดหมายที่ส่งถึงประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาสของปาเลสไตน์ มาครงระบุว่าเขาจะประกาศให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ เป็นการยืนยันเจตนาของฝรั่งเศสที่จะเป็นมหาอำนาจตะวันตกชาติแรกที่ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ ซึ่งมาครงหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยนำสันติภาพมาสู่ภูมิภาคตะวันออกกลาง ขณะที่สหรัฐคัดค้านแผนการของฝรั่งเศส นายมาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ โพสต์ข้อความในเอ็กซ์ว่าสหรัฐปฏิเสธแผนการของประธานาธิบดีมาครงที่จะรับรองรัฐปาเลสไตน์ ซึ่งนายมาร์โคระบุว่าเป็นการตัดสินใจที่ประมาท ขาดความรอบคอบ ทั้งยังจะส่งผลต่อการโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มฮามาสและเป็นการทำลายสันติภาพ ด้านนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้โพสต์ข้อความในเอ็กซ์ประณามนายมาครง หลังจากที่ผู้นำฝรั่งเศสประกาศว่าจะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ เช่นเดียวกับนายอิสราเอล คาตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมที่ออกมาต่อต้านโดยระบุว่าการตัดสินใจของนายมาครงเป็นความอัปยศและเป็นการให้กำลังใจกับกลุ่มฮามาสที่อิสราเอลระบุว่าเป็นฆาตกร.-816.-สำนักข่าวไทย

องค์กรสื่อห่วงความปลอดภัยประชาชนและสื่อมวลชน

กรุงเทพ 25 ก.ค. – จากสถานการณ์การสู้รบที่ปะทุขึ้นในหลายพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้มีประชาชนชาวไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินพลเรือนในหลายพื้นที่ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ดังกล่าว แถลงการณ์ระบุถึงความกังวลต่อความปลอดภัยของประชาชน และไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้ นอกจากนี้ ยังแสดงความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของเพื่อนสื่อมวลชนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเน้นย้ำให้สื่อมวลชนใช้ความระมัดระวังสูงสุด ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และยึดแนวปฏิบัติของสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติว่าด้วยการนำเสนอข่าวสงครามหรือการสู้รบระหว่างประเทศ พ.ศ. 2565 อย่างเคร่งครัด หลักปฏิบัติสำคัญสำหรับสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสถานการณ์สู้รบ องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนได้สรุปแนวปฏิบัติสำคัญ 7 ข้อ เพื่อให้สื่อมวลชนใช้เป็นหลักในการรายงานข่าวสถานการณ์การสู้รบ ดังนี้: นำเสนอตามข้อเท็จจริง: ต้องนำเสนอข่าวตามข้อเท็จจริงเท่านั้น หลีกเลี่ยงการนำเสนอข้อมูลหรือความคิดเห็นที่อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด ความเกลียดชัง และอคติ ระมัดระวังภาพและคลิปความรุนแรง: ควรระมัดระวังการนำเสนอภาพหรือคลิปความสูญเสียที่สยดสยองหรือหวาดเสียว โดยคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะและเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หลีกเลี่ยงการใช้ความสูญเสียในสงครามเพื่อกระตุ้นยอดขายหรือยอดผู้ชม ระบุแหล่งที่มาและบริบทชัดเจน: ต้องระบุแหล่งที่มาของภาพ คลิปวิดีโอ หรือข้อมูลจากโซเชียลมีเดียให้ชัดเจนก่อนนำเสนอ เพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง กรณีใช้แฟ้มภาพข่าว ควรกำหนดวันที่และบริบทให้ชัดเจน ไม่เปิดเผยข้อมูลทางยุทธศาสตร์: ห้ามนำเสนอข่าวหรือภาพข่าวที่เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดทางยุทธศาสตร์หรือยุทธวิธี ซึ่งอาจกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ยึดหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ: ควรเสนอข่าวโดยให้ความสำคัญต่อหลักมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยกฎระเบียบสงคราม (Rules of war) เช่น การใช้กำลังที่เหมาะสม การหลีกเลี่ยงความสูญเสียของพลเรือน […]

ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาอาจบานปลายได้

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของจีนกล่าววานนี้ว่า การปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชากำลังทวีความรุนแรงขึ้นด้วยการนำอาวุธหนัก เช่น เครื่องบินรบและปืนใหญ่จรวดมาใช้ หลังเกิดเหตุการณ์ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนที่มีข้อพิพาท พร้อมกับเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดความรุนแรงยิ่งขึ้นระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านที่ต่างก็เป็นมิตรประเทศของจีน จาง จุนเซ่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของจีน กล่าวกับโกลบอล ไทมส์ (Global Times) หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของทางการจีนในวันพฤหัสบดีว่า การที่กองทัพไทยนำเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 มาใช้และกัมพูชานำเครื่องยิงจรวดมาใช้ แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่กำลังย่ำแย่ลง ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะบานปลายต่อไป จากมุมมองทางทหารแล้ว ประเทศไทยได้มีความได้เปรียบเนื่องจากมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยกว่า นายจางกล่าวว่า ทั้งประเทศไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีน และสถานการณ์ที่อาจจะบานปลายนี้ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือต่อทั้งภูมิภาค วิธีที่ดีที่สุดคือการแก้ไขปัญหาอย่างสันติผ่านการเจรจา สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สาเหตุของการปะทะล่าสุดเกิดจากทุ่นระเบิด โดยไทยกล่าวหากัมพูชาในสัปดาห์นี้ว่าวางทุ่นระเบิดในพื้นที่พิพาทซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวและกล่าวว่าทหารลาดตระเวณออกจากเส้นทางที่ตกลงกันไว้และเหยียบทุ่มระเบิดเก่าที่หลงเหลือมาจากสงครามในกัมพูชา สำหรับจีนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการช่วยเหลือประเทศต่างๆ รวมถึงกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาทุ่นระเบิด ซึ่งจางกล่าวว่าเป็นการแสดงความรับผิดชอบของจีนในการปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ในปี 2567 มหาวิทยาลัยวิศวกรรมกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้จัดหลักสูตรเก็บกู้ระเบิดสองหลักสูตรสำหรับบุคลากรจากกัมพูชาและลาว ที่เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากทุ่นระเบิด กองทัพจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการเก็บกู้ระเบิด ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา จีนได้ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บกู้ระเบิดกว่า 700 คนจากกว่า 20 ประเทศ และส่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญไปต่างประเทศเพื่อดำเนินการสอนภาคสนามหลายครั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นเอสซีจะประชุมฉุกเฉินเรื่องไทย-กัมพูชาวันนี้

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี จะประชุมฉุกเฉินในวันนี้ เกี่ยวกับเหตุปะทะตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา แหล่งข่าวด้านการทูตเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศสว่า การประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตามคำร้องขอของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ของกัมพูชาจะเป็นการประชุมลับ ในเวลา 15.00 น. ตามเวลาในนครนิวยอร์คของสหรัฐ ซึ่งเป็นที่ตั้งของยูเอ็นเอสซี หรือ ตรงกับ 02.00 น. ของเช้าวันเสาร์ตามเวลาในประเทศไทย สื่อมวลชนกัมพูชา รายงายก่อนหน้านี้ว่านายฮุน มาเน็ต ได้ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการไปยังยูเอ็นเอสซี เรียกร้องให้จัดประชุมด่วนเพื่อยับยั้ง สิ่งที่เขากล่าวหาว่า “ไทยกระทำการรุกรานต่ออธิปไตยของกัมพูชา” ในหนังสือที่ส่งถึงนายอาซิม อิฟติคาร์ อาห์หมัด ผู้แทนถาวรปากีสถานประจำสหประชาชาติซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของยูเอ็นเอสซี นายฮุน มาเน็ตยังเรียกร้องให้ไทยยุติการสู้รบทั้งหมดทันทีและถอนกำลังกลับไปยังฝั่งไทย รวมทั้งหลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุใดๆ เพิ่มเติม.-813.-สำนักข่าวไทย

1 3 4 5 6 7 664